เวียดนามเผยเกินดุลการค้าพุ่ง ถึงแม้ว่าเผชิญกับโควิด-19 ระบาด

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามเกินดุลการค้าถึง 20.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าทำสถิติสูงที่สุด ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก มูลค่าการส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าว อยู่ที่ 254.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ในขณะที่มูลค่าการนำเข้า อยู่ที่ 234.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 69.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาจีน มูลค่า 43.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สหภาพยุโรป อาเซียน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ตามลำดับ เพื่อให้บรรลุตรงตามเป้าการส่งออกในปีนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ได้ดำเนินการให้หน่วยงานและสำนักงานที่เกี่ยวข้อง ระดมให้ความช่วยเหลือในด้านการผลิตและการดำเนินธุรกิจ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/822957/trade-surplus-surges-to-record-high-despite-covid-19.html

INFOGRAPHIC : เวียดนามส่งออกไม้ทะลุ 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 63

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) คาดการณ์ว่ายอดส่งออกของภาคป่าไม้ทะลุ 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ไม้ที่เลื่อยออกเป็นท่อนๆ, เก้าอี้, ไม้สับ, เฟอร์นิเจอร์และไม้อัด

โครงสร้างตลาดส่งออก – สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรปและจีน รวมกันมีสัดส่วนร้อยละ 90 ของมูลค่าส่งออกรวม และตลาดอื่นๆ ร้อยละ 10

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/forestry-exports-to-exceed-126-bln-usd-in-2020/192647.vnp

เวียดนามส่งออกสิ่งทอลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี

จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เผยว่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเวียดนามคาดว่าจะลดลงร้อยละ 15 เป็นมูลค่า 34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ นับว่าเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 25 ปี จากผลกระทบของโรคโควิด-19 ซึ่งจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ไวรัสดังกล่าวยังคงรุนแรงในหลายๆประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป เป็นต้น ทำให้ธุรกิจสิ่งทอประสบปัญหาขาดแคลนยอดคำสั่งซื้อ ทั้งนี้ บริษัท Dony Garment ที่ตั้งอยู่ในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม กล่าวว่าในช่วงเริ่มต้นโควิด-19 ระบาดนั้น ทางบริษัทหันมารับคำสั่งซื้อหน้ากากหลายล้านชิ้นจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป แต่ตอนนี้คำสั่งซื้อเหลืออยู่ที่ 36,000 ชิ้น ทั้งนี้ ประธานสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) กล่าวว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RECEP) จะช่วยให้ความต้องการเสื้อผ้าที่ผลิตในเวียดนามพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ซื้อชาวจีน

  ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/textile-exports-to-fall-for-the-first-time-in-25-years-4201885.html

เวียดนามนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานของกรมศุลกากร ระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน เวียดนามนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ราว 195 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าการนำเข้ารวมของกลุ่มสินค้าอยู่ที่ 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปี 2562 ยอดการนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ยังคงลดลง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดนำเข้าของกลุ่มสินค้าดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไทยและจีน นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน เวียดนามส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ 258.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศ (CBU) จำนวน 6,227 คัน ด้วยมูลค่ารวม 135.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vnexplorer.net/spending-us3-billion-on-importing-auto-components-and-spare-parts-a2020131688.html

เวียดนามทุบสถิติส่งออกไม้ในปีนี้

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน เวียดนามส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ มูลค่า 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบปีต่อปี และส่งผลให้การเกินดุลการค้า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ นับว่าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ของภาคการส่งออกป่าไม้ที่ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ของเวียดนาม ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรปและจีน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6 ของส่วนแบ่งการตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้ดี เนื่องจากการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีของเวียดนามกับประเทศต่างๆ อีกทั้ง อุตสาหกรรมดังกล่าว จะกวาดรายได้จากการส่งออก ประมาณ 14-14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 10-11 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกในปี 2568 ที่ 18-20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-wood-forestry-export-reaches-revenue-record-this-year-315103.html

ฮานอยติดอันดับที่ 3 เป็นเมืองน่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุน FDI สูงที่สุด ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้

ตามรายงานของสำนักงานสถิติประจำเมือง ระบุว่ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังกรุงฮานอย อยู่ที่ราว 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงพฤศจิกายน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.2 ของมูลค่าการลงทุนรวม FDI ที่จดทะเบียนในเวียดนามปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงกรุงฮานอยอยู่ในอันดับที่ 3 เป็นจุดหมายปลายทางของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ เดือนพฤศจิกายนในปีนี้ กรุงฮานอยมีจำนวน 26 โครงการที่ได้รับการจดทะเบียนใหม่ ด้วยมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง 26 โครงการจากนักลงทุนต่างชาติและอีก 6 โครงการเพิ่มเติม ด้วยมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังการร่วมลงทุนหรือซื้อหุ้นกิจการในประเทศ นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้ กรุงฮานอยมีจำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนใหม่ 24,600 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 13.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการอีก 5,774 แห่ง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hanoi-ranks-third-in-fdi-attraction-in-11-months/191424.vnp

อุตสาหกรรมการบินของเวียดนาม จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว มากกว่า 3 ปี

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) ระบุว่าอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ในการกลับมาฟื้นตัวสู่ระดับปกติ ซึ่งทางองค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้จำลองสถานการณ์ 2 ลักษณะของอุตสาหกรรมการบินโลกไว้ โดยสถานการณ์แรกนั้น อุตสาหกรรมการบินจะกลับมาฟื้นตัวเป็นรูปตัววี “V” และสถานการณ์สอง จะเป็นการฟื้นตัวเป็นรูปตัวยู “U” ชี้ให้เห็นถึงอุตสาหกรรมดิ่งลงสู่ระดับต่ำที่สุด ใช้ระยะเวลา 3-5 เดือน พร้อมกับเศรษฐกิจตกต่ำ ด้วยเหตุนี้ ตลาดการบินจะปรับตัวลดลงร้อยละ 48-71 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ คุณ Pham Van Hao รองผู้อำนวยการ CAAV มองว่าอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามมีแนวโน้มอยู่ในสถานการณ์แรก อย่างไรก็ตาม เวียดนามจะกำหนดเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศแก่รัฐบาลอีกครั้ง นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการบินของเวียดนามสูญเสียรายได้ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-aviation-industry-needs-more-3-years-to-recover-315090.html