ญี่ปุ่นทุ่มงบ 700 ล้านดอลลาร์ พัฒนาถนนสาย “National Road 5”

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำนักงานกัมพูชาร่วมมือกับกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) มุ่งเป้าปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 5 จากเปรกดำถึงเมืองปอยเปต ระยะทางรวม 366 กิโลเมตร โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 709.35 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นได้ทุ่มเงินกว่า 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในเส้นทางดังกล่าว จาก 2 เลน เป็น 4 เลน ตลอดชายแดนกัมพูชา-ไทย ไปจนถึงชายแดนเวียดนาม ตามรายงานคาดว่าค่าใช้จ่ายในโซนภาคเหนือจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 156.43 ล้านดอลลาร์ ทอดยาวจากพระตะบองถึงศรีโสภณ ในขณะที่ภาคใต้คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนมูลค่า 246.36 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมตั้งแต่เปรกดำถึง Thlea Ma’am และภาคกลางเน้นที่การปรับปรุงสภาพของถนนที่มีอยู่ตั้งแต่ Thlea Ma’am ถึงพระตะบอง และศรีโสภณถึงเมืองปอยเปต ที่มูลค่าประมาณ 306.57 ล้านดอลลาร์ โดยโครงการนี้คาดว่าจะเพิ่มความสะดวกในการสัญจรและปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่งให้กับกัมพูชาไปยังชายแดน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีรถยนต์สันจรบนเส้นทางสายดังกล่าวมากกว่า 7 ล้านคัน เพิ่มขึ้นถึง 400% เมื่อเทียบกับปี 2010

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501370866/japan-provided-over-700m-to-upgrade-national-road-5/

‘รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น’ เตรียมเยือน 4 ชาติอาเซียน รวมไทย เริ่ม 8 ต.ค.นี้

แหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า โยโกะ คามิกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะเดินทางเยือนบรูไน เวียดนาม ลาว และไทยตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.นี้ ในขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นำอาเซียนในปลายปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงความอหังการของจีนที่เพิ่มมากขึ้นในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกนั้น คามิกาวะได้รับการคาดหวังให้ยืนยันกับรมว.ต่างประเทศของ 4 ชาติอาเซียนถึงความสำคัญของการรับรองความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม และการตระหนักถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาผู้นำจากญี่ปุ่นและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีกำหนดพบปะกันในวันที่ 16-18 ธ.ค.ปีนี้ที่กรุงโตเกียว เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกัน

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/339138

EIU มองภายในปี 2024 เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตต่อเนื่อง

หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ: Economist Intelligence Unit (EIU) คาดการณ์ว่ากัมพูชาจะเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจมีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก ภายในช่วงปี 2024 โดยคาดว่าบรูไน ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จะมีการเติบโตในระดับสูงภายในช่วงเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับ เอธิโอเปีย ยูกันดา และแทนซาเนีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดเกิดใหม่ กล่าวโดย Tom Rafferty หัวหน้าฝ่ายพยากรณ์และเศรษฐศาสตร์ระดับโลกของ EIU สำหรับการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 ในปีหน้า ซึ่งสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะประสบกับการชะลอตัวแต่ยังไม่ถึงขั้นถดถอย ในขณะเดียวกัน ภาวะเงินฝืดในญี่ปุ่นคาดว่าจะสิ้นสุดในปีหน้า และเศรษฐกิจของจีนถูกมองว่าอยู่ในสถานะอ่อนแอ แต่ยังคงมีเสถียรภาพ ด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ในเอเชียคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการส่งออก อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานที่ปรับตัวดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501368936/eiu-sees-cambodia-as-one-of-the-worlds-fastest-growing-economies-in-2024/

ญี่ปุ่นพร้อมนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรกัมพูชาเพิ่มขึ้น

เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา Ueno Atsushi เรียกร้องให้ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรกัมพูชาปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานการส่งออกมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้าไปยังตลาดญี่ปุ่น โดยปัจจุบันการส่งออกสินค้าเกษตรของกัมพูชาไปยังตลาดญี่ปุ่นมีสัดส่วนอยู่เพียงเล็กน้อย แต่ในอนาคตญี่ปุ่นพร้อมที่จะทำการนำเข้ามากขึ้นหากสินค้ามีมาตรฐานเป็นไปตามกำหนด ซึ่งกัมพูชาและญี่ปุ่นเป็นสมาชิกภายใต้ความตกลงการเป็นหุ้นส่วนระดับภูมิภาค (RCEP) ที่ได้มีผลบังคับใช้ในต้นปี 2022 โดยญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าหลักของกัมพูชา ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.93 พันล้านดอลลาร์ ไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามรายงานขององค์การการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ขณะที่การนำเข้าของญี่ปุ่นจากกัมพูชาคิดเป็นมูลค่า 515 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501366903/japan-ready-to-buy-more-cambodian-agri-products/

รมว.แรงงานกัมพูชา วอน JICA สนับสนุนการฝึกอาชีพ หวังดัน GDP โต 7%

Heng Sour รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพ ได้ร้องขอให้หน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ในกัมพูชา ดำเนินการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในการฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาต่อไป เพื่อเพิ่มแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาเป็นถึงร้อยละ 7 โดยคำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมกับ Sanui Kazumasa ประธาน JICA ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการเสริมสร้างการฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดการลงทุนมายังกัมพูชามากขึ้น โดยเฉพาะจากนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญสำหรับกัมพูชาในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ถึงประมาณน้อยละ 7 ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือต่อไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม” ภายในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501361304/labour-minister-asks-jica-to-continue-vocational-technical-training-to-boost-cambodias-economic-growth-to-7/

‘เวียดนาม-ญี่ปุ่น’ ผนึกกำลังขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียว

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของเวียดนามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน อีกทั้งความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยการจัดการทรัพยากร และการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ผ่านความร่วมมือของธุรกิจเกษตร โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งจะสอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26)

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-japan-to-join-forces-to-advance-green-growth/

7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

องค์การการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เปิดเผยข้อมูลการส่งออก ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ว่ากัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวม 1.09 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กัมพูชายังนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมูลค่ารวม 296 ล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.2 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง สำหรับสินค้านำเข้าสำคัญของกัมพูชาจากญี่ปุ่น ได้แก่ เครื่องจักร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้า และพลาสติก ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้ารายสำคัญของกัมพูชา โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการเปิดการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระดับทวิภาคี เพื่อหวังผลักดันการส่งออก รวมถึงดึงดูดการลงทุนจากญี่ปุ่นมายังกัมพูชามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาได้ลงนามใน RCEP และ AJCEP รองรับการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น สำหรับเมื่อปีที่ผ่านมาการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นมีมูลค่ารวมสูงถึง 2.45 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ JETRO คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาส่งมูลค่า 1.93 พันล้านดอลลาร์ ไปยังญี่ปุ่นในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบเป็นรายปี ด้านการนำเข้าจากญี่ปุ่นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 515 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 11.2

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501355347/kingdoms-exports-to-japan-top-1b/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นขยายตัว 0.4% มูลค่าแตะ 780 ล้านดอลลาร์

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวมแตะ 780 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นขึ้นเช่นกันที่ร้อยละ 1.9 หรือคิดเป็นมูลค่า 215 ล้านดอลลาร์ ส่งผลทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับญี่ปุ่น 565 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง และเครื่องหนัง ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่น ได้แก่ เครื่องจักร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าผืน และพลาสติกจากญี่ปุ่น เป็นสำคัญ ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังกลุ่มประเทศความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รวมถึงญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าสินค้าของกัมพูชาเป็นที่ต้องการของตลาด กล่าวโดย Penn Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา โดยในช่วงปี 2022 ปริมาณการค้าระหว่าง กัมพูชา-ญี่ปุ่น มีมูลค่ารวมสูงถึง 1,948 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 1,173 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นมูลค่า 774 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501318140/cambodias-exports-to-japan-up-0-4-at-780m/

2022 มูลค่าการค้า สปป.ลาว-ญี่ปุ่น พุ่งแตะ 290.5 ล้านดอลลาร์

มูลค่าการค้าระหว่าง สปป.ลาว และญี่ปุ่นในช่วงปี 2022 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 290.5 ล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นการนำเข้าของ สปป.ลาว จากญี่ปุ่นมูลค่า 149.8 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะ (ยกเว้นรถจักรยานยนต์และรถแทรกเตอร์) ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ แก้วและเครื่องแก้ว รถแทรกเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เส้นใยสังเคราะห์ เครื่องใช้พลาสติก ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย สำหรับการส่งออกของ สปป.ลาว ไปยังญี่ปุ่นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 140.6 ล้านดอลลาร์ ได้แก่ รองเท้า ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำหอม เครื่องสำอาง ขนไก่ เกลือโพแทสเซียม กาแฟ ผลิตภัณฑ์เคมี กล้วยและผลไม้อื่นๆ ไปจนถึงอุปกรณ์กีฬา เมล็ดพืช ฟางและหญ้า กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ กล่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ Mr. Malaythong Kommasith ระหว่างเข้าพบหารือกับคณะผู้แทนญี่ปุ่น ณ กรุงเวียงจันทน์ ซึ่งกล่าวเสริมว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้เขามาช่วยเหลือ สปป.ลาว นับตั้งแต่ปี 2010 ในการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมในนามสวนอุตสาหกรรมเวียงจันทน์ ผ่านความร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ภายใต้การชำระคืนของรัฐบาล สปป.ลาว ให้กับผู้ถือสิทธิการใช้ที่ดินในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laos114.php

การค้า กัมพูชา-ญี่ปุ่น แตะเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่น ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวมกว่า 699 ล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 5 รองจากจีน สหรัฐฯ เวียดนาม และไทย รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นที่มูลค่า 442 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการนำเข้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นที่มูลค่า 257 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกในช่วงเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวมีมูลค่าอยู่ที่ 55 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 20.4 จากมูลค่า 69 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน

ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา Ueno Atsushi ได้กล่าวในเวทีสาธารณะของกัมพูชาเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นมองเห็นถึงศักยภาพของกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขงติดต่อกับไทยและเวียดนามเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังมีกำลังแรงงานที่อายุน้อยและมีต้นทุนการจ้างงานที่ถูกกว่าแรงงานในประเทศไทยและเวียดนาม รวมถึงกัมพูชายังเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายใต้นโยบายส่งเสริมมากมาย ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นคาดว่าจะเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้นในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501308691/cambodia-japan-bilateral-trade-nears-700-million-in-the-first-five-months/