ผู้ผลิตรถยนต์จากเวียดนาม “VinFast” เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ภายในปีนี้

VinFast แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จากเวียดนามของกลุ่ม VinGroup ได้วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ด้วยการออกแบบโมเดลรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความหรูหราภายในปีนี้ และอีกทั้งยังสามารถช่วยจัดการมลพิษทางเสียงและทางอากาศอีกด้วย ทั้งนี้ “Lux V8” ได้นำมาแสดงในงานเหล่าสุดยอดรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ “The Geneva international automobile exhibition” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจะทำการผลิตรถยนต์อย่างมีจำนวนจำกัด ขณะที่ Vinbus จะดำเนินบริการขนส่งในเมืองสำคัญ ได้แก่ กรุงฮานอย ไฮฟอง ดานัง เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทมองว่าการบริการขนส่งโดยรถบัสดังกล่าวนั้น จะสามารถปรับปรุงด้านโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนาม ซึ่งหวังว่าจะแก้ไขมลภาวะทางเสียงและทางอากาศได้ในเขตเมืองและยังสร้างสิ่งแวดล้อมที่มีสนับสนุนสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตแก่คนเวียดนามได้ดีมากขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/carmaker-vinfast-to-roll-out-new-automobile-models-this-year-409335.vov

ADB ปล่อยเงินกู้ให้แก่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 50MW ในจังหวัดเต็ยนิญ

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ทำการลงนามสัญญาเงินกู้ด้วยมูลค่า 37.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับบริษัท TTC Energy Development Investment JSC (TTC Energy) เพื่อการระดมเงินทุนในระยะยาวและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ โดยทางบริษัท TTC Energy ได้ก่อตั้งในปี 2560 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทางอ้อม 90% ผ่านบริษัทกัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด สำหรับที่ตั้งโรงงานอยู่ในจังหวัดเต็ยนิญ (Tay Ninh) ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าแก่ประชาชนและธุรกิจให้เมืองโฮจิมินห์ได้ รวมไปถึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 29,760 ตันต่อปี โดยทางธนาคารพัฒนาเอเชีย ระบุว่าการให้ความช่วยเหลือโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กัลฟ์ผ่านโครงสร้างนวัตกรรมทางการเงิน ทำให้มั่นใจว่าโครงการจะมีศัยภาพในการกู้ยืมเงิน ซึ่งเงินกู้ประกอบด้วยเงินกู้โดยตรง (A loan) มูลค่า 11.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินกู้เสริมพิเศษ (B loan) มูลค่าสูงถึง 18.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินโครงสร้างพื้นฐานของ ADB ระบุว่าทางธนาคารยินดีทำธุรกรรมในครั้งนี้มาก เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีผลต่อความมั่งคงและยั่งยืนของภาคพลังงานเวียดนามในอีกหลายปีข้างหน้า

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/adb-provides-loan-for-50mw-solar-power-plant-in-tay-ninh-409334.vov

ผู้ประกอบการในประเทศร่วมลงนามกับอุตสาหกรรมปศุสัตว์

อุตสาหกรรมปศุสัตว์เวียดนามคาดว่าจะดึงดูดผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยข้อตกลงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการในประเทศที่มีศักยภาพจะช่วยให้อุตสาหกรรมฯ สามารถยกระดับความสามารถในการแข่งขันได้ ด้วยความร่วมมือและห่วงโซ่อุปทานระหว่างผู้ผลิต โรงฆ่าสัตว์และร้านค้าปลีก ทั้งนี้ จากกรายงานของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าปริมาณการผลิตเนื้อสัตว์รวมอยู่ที่ประมาณ 5.14 ล้านตันในปีที่แล้ว ลดลงร้อยละ 4.1 ซึ่งเนื้อหมูเป็นสินค้าที่จำเป็นและมีสัดส่วนของโครงสร้างการบริโภคขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามผลผลิตเนื้อหมูลดลงราว 380,000 ในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9-10 เมื่อเทียบกับปี 61 ส่งผลให้ตลาดอาหารในประเทศอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ทางผู้เชี่ยวชาญมองว่าการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานสำหรับสินค้าปศุสัตว์และความร่วมมือของผู้ประกอบการในประเทศ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญต่อการพัฒนาและความยั่งยืนต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่ต้องเผชิญกับการนำเข้าเนื้อสัตว์ด้วยข้อตกลงการค้าเสรีรูปแบบใหม่

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/591526/domestic-companies-sign-deals-in-livestock-industry.html

เมืองดานัง ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากับเรือท่องเที่ยว 1,250 คน

ในวันที่ 26 มกราคมของปีนี้ เรือสำราญภายใต้ขื่อ “Westerdam” ได้บรรทุกผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติ 1,250 คน เข้าเทียบท่าเรือเตียนซา (Tien Sa) ณ กรุงฮานอย ซึ่งเป็นเรือสำราญลำแรกที่เดินทางมายังเมืองดานังในช่วงฉลองรับปีนักษัตรชวด ทั้งนี้ ผู้อำนวยการกระทรวงการท่องเที่ยว ระบุว่าพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ เพื่อทำให้เมืองดานังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยในปีที่แล้ว เมืองดานังได้ต้อนรับเรือสำราญ 101 ลำ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางมายังเซ็นทรัลบีชอยู่ที่ 8.69 ล้านคน ในปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้ง เป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมายังเมืองดายัง อยู่ที่ 9.8 ล้านคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเปลี่ยนภาคการท่องเที่ยวให้เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจท้องถิ่น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/da-nang-welcomes-first-1250-foreign-cruise-visitors/167798.vnp

สอดส่ายหาโอกาสธุรกิจขนมขบเคี้ยวในเวียดนาม

โดย SME Go Inter

จากการสำรวจของบริษัท The Harris Poll and Mondelez International เผยว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในเวียดนาม ขนมขบเคี้ยวกำลังเข้ามาแทนที่มื้ออาหารดั้งเดิม เนื่องจากวิถีการดำเนินชีวิตสมัยใหม่ที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ขนมขบเคี้ยวสามารถสร้างกำไรทั่วโลกรวมทั้งในเวียดนาม

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครโฮจิมินห์ ระบุว่าขนมขบเคี้ยวมียอดขายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากนักเรียนและพนักงานออฟฟิสนิยมซื้อในช่วงพักและตลาดกำลังมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้านผลกระทบและโอกาสของผู้ประกอบการไทย ปัจจุบันตลาดของขนมขบเคี้ยวของเวียดนามมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว เป็นโอกาสของสินค้าและบริการจากไทยในการขยายตลาดเข้าสู่เวียดนาม ขณะเดียวกันเวียดนามมีผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากต่างชาติ เช่น Nestle หรือ Lay’s เป็นต้น สำหรับขนมขบเคี้ยวแบรนด์ไทยที่มีวางจำหน่าย เช่น สาหร่ายเถ้าแก่น้อย ขาไก่โลตัส เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสสำหรับขนมขบเคี้ยวแบรนด์ไทยอื่นๆ ที่จะเข้าสู่ตลาด ดังนี้

  1. แนวโน้มประชากรเวียดนามวัยรุ่นถึงวัยทำงานจำนวนมาก ด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น
  2. พฤติกรรมบริโภคที่เปลี่ยนไป (ขนมขบเคี้ยวเปลี่ยนไปเป็นการบริโภคทดแทนมื้ออาหาร)
  3. ตลาดเวียดนามมีความหลากหลายมากขึ้น
  4. คนเวียดนามเปิดกว้างต่อสินค้าใหม่ๆ

ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com/en/vietnam-snacks

ความกดดันในการควบคุมเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ปี 2563

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าในปีนี้การควบคุมราคาและเงินเฟ้อมีความซับซ้อนและยากลำบากมากขึ้น โดยราคาเนื้อหมูมีความผันผวนอย่างมากในปีที่แล้วส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากราคาลดลงในช่วงครึ่งแรกของปีและจากนั้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ราคาเนื้อหมูลดลงต่ำสุดอยู่ที่ 28,000-32,000 ด่องต่อกิโลกรัม หลังจากนั้น ราคาจะค่อยๆปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.-ต.ค. ทั้งนี้ ทางผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐศาสตร์และการเงิน ระบุว่าหลังจากที่ราคาเนื้อหมูพุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้ว การควบคุมอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าร้อยละ 4 ในปีนี้ ซึ่งมีความไม่แน่นอนเมื่อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค. เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา นับว่าอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากราคาเนื้อหมูยังอยู่ในระดับสูงในไตรมาสแรก ค่าเฉลี่ยอาจอยู่ในระดับร้อยละ 3.5 สำหรับเป้าหมายของสภาแห่งชาติ ต้องการคงระดับอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ต่ำกว่าร้อยละ 4 ในปีนี้ ซึ่งการจัดการราคาและควบคุมเงินเฟ้อในปีนี้จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ยืดหยุ่นและเขิงรุก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pressure-mounts-to-control-inflation-in-2020/167711.vnp

เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้าเมืองดานัง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

จากรายงานของกรมการวางแผนและการลงทุน (Municipal Department of Planning and Investment) เปิดเผยว่าเม็ดเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าบริเวณชายฝั่งทะเลของเมืองดานัง ด้วยมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจากทั้งหมด มีมูลค่า 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ลงทุนในโครงการจดทะเบียนใหม่ 132 โครงการ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ มูลค่าราว 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ถูกอัดฉีดเข้าไปในโครงการที่ดำเนินการอยู่ 16 โครงการ นอกจากโครงการลงทุนจากต่างประเทศแล้ว ในปีทีแล้วเมืองดานังได้อนุมัติโครงการด้านการเงินจากในประเทศ ด้วยมูลค่า 8.82 ล้านล้านด่อง ทำให้มูลค่าเงินทุนของโครงการที่มาจากในประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 104 ล้านล้านด่อง ซึ่งจากตัวเลขเม็ดเงินทุนดังกล่าว เป็นผลมาจากการเร่งปฏิรูปด้านการบริหารของรัฐบาลที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ เมืองดานังยังมุ่งเน้นในการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนในรูปแบบพาร์ทเนอร์ (Strategic Investors) ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/571472/fdi-inflow-in-da-nang-hits-nearly-700m-in-2019.html