กัมพูชา-บราซิล พร้อมร่วมมือพัฒนาการแปรรูปพืชผลการเกษตร

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศบราซิล ประกาศพร้อมให้ความร่วมมือระหว่างกัมพูชาในการส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปรรูปพืชผลทางกาเกษตรของกัมพูชา สำหรับความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาระหว่าง Dith Tina รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของกัมพูชา ร่วมกับ Mauro Vieira รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศบราซิล ด้าน Tina ได้นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศักยภาพของภาคเกษตรกรรมกัมพูชาด้วยปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มันสำปะหลัง และยางพารา ซึ่งล้วนมีศักยภาพทั้งด้านการผลิต และยังมีความต้องการด้านการส่งออกอีกด้วย สำหรับการแปรรูปพืชผลทางการเกษตรถือเป็นภาคส่วนที่น่าลงทุนภายในประเทศกัมพูชา เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชาได้มีการลงนามในข้อตกลงทางการค้ากับจีนเอื้อต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ กัมพูชายังมีกฎหมายเพื่อสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนจากต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบและถือเป็นโอกาสอย่างมากสำหรับนักลงทุนผู้สนใจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376837/crop-processing-brings-cambodia-and-brazil-together/

กัมพูชาเตรียมขยายระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนไปยัง อินโดนีเซีย-โมร็อกโก

กัมพูชาเตรียมขยายระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนไปยังอินโดนีเซียและโมร็อกโก หลังธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) พัฒนาระบบสำเร็จ สำหรับอินโดนีเซียกัมพูชาพร้อมที่จะลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อนำระบบการชำระเงินดังกล่าวมาใช้ระหว่างกัน ในขณะที่โมร็อกโกทางการกัมพูชากำลังเร่งหารือเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน โดยการหารือและลงนามในข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างผู้ว่าการ Chea Serey ของ NBC และ Perry Warjiyo ผู้ว่าการธนาคารแห่งอินโดนีเซีย (GBI) ซึ่งมีจุดประสงค์ในการส่งเสริมความร่วมมือในระดับทวิภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเชื่อมต่อการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดน ซึ่งคาดว่าจะอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ ขณะที่ทางฝั่งโมร็อกโก Abdellatif Jouahri ผู้ว่าการธนาคารกลางโมร็อกโก (GCBM) ได้วางเริ่มวางแผนที่จะประชุมหารือร่วมกับ Chea Serey เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีทางการเงินหรือ Fintech ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วยระบบการชำระเงินและสกุลเงินดิจิทัล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376848/cambodia-to-launch-cross-border-payment-with-indonesia-morocco/

กัมพูชา-จีน พร้อมกระชับความสัมพันธ์ผ่านโครงการ BRI

Wang Wentian เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา กล่าวว่า โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ได้เปิดฉากทัศน์ใหม่ สำหรับการสารสัมพันธ์ความเป็นมิตรภาพระหว่าง จีน-กัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลแก่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเน้นไปที่การก้าวข้ามอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ ด้วยการเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางและการขนส่งระหว่างประเทศสมาชิค โดยคาดว่าจะดำเนินการภายใต้กรอบระยะเวลา 10 ปี ซึ่งกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการสนับสนุนกลุ่มแรกๆ สำหรับในช่วงเริ่มของโครงการ

ด้านเอกอัครราชทูตจีนยังได้กล่าวเสริมว่าความคิดริเริ่มดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน และเพิ่มความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านกำลังการผลิต การค้า การลงทุน การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน สะท้อนจากความสำเร็จของโครงการสำคัญต่างๆ อาทิเช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ เสียมราฐ สนามบินนานาชาติอังกอร์ สนามกีฬาแห่งชาติโมโรดอกเตโช และสถานีไฟฟ้าพลังน้ำเซซัน 2 ในตอนล่าง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376482/bri-strengthens-china-cambodia-ties/

กัมพูชา พร้อมเปิดท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมเรียบ-อังกอร์

สนามบินนานาชาติ เสียมเรียบ-อังกอร์ (SAI) พร้อมเปิดดำเนินการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (16 ต.ค.) หลังผ่านการทดสอบในขั้นตอนที่จำเป็นต่างๆ โดยสนามบินนานาชาติ SAI มีสะพานเทียบเครื่องบิน 38 แห่ง และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็น 65,800 เที่ยวบินต่อปี ซึ่งคาดว่าในปี 2040 เป็นต้นไปจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 12 ล้านคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นเป็น 112,700 เที่ยวบินต่อปี

นอกจากนี้ สนามบินสามารถรองรับการขนส่งสินค้าทางอากาศได้ถึง 10,000 ตันต่อปี และจะเพิ่มขึ้นเป็น 26,000 ตันต่อปีหลังปี 2040 สำหรับการก่อสร้างสนามบินดังกล่าวเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2020 ด้วยเม็ดเงินลงทุนประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์ โดย Angkor International Airport Investment (Cambodia) Co., Ltd.

ขณะที่สำนักเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐบาลกัมพูชา ได้รายงานถึงปริมาณผู้โดยสารทางอากาศในช่วง 8 เดือนแรกของปีที่มีกว่า 3.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 180 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สำคัญ ในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้ระบุว่าในช่วงปี 2019 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 6.61 ล้าน สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 4.92 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376475/siem-reap-angkor-intl-airport-to-start-official-commercial-operation-today/

‘การค้าเวียดนาม-กัมพูชา’ ช่วง 9 เดือนแรกปี 66 มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามและกัมพูชามีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% การส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนาม มีมูลค่า 2.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 11% ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของกัมพูชา รองจากจีนและสหรัฐฯ และยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดในอาเซียนและเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ

นอกจากนี้ สำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำประเทศกัมพูชา รายงานว่าโครงสร้างการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังกัมพูชามีความหลากหลาย เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความเชื่อมโยงทางอุตสาหกรรมและธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-cambodia-trade-hits-nearly-us5-billion-over-nine-months-post1052529.vov

กัมพูชา-ตุรกี ตั้งเป้าดันการค้าระหว่างประเทศแตะ 1 พันล้านดอลลาร์

HE SOK Chenda Sophea รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ร่วมกับ Ms. Ülkü Kocaefe เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกี ประกาศกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน โดยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-ตรุกี ให้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ด้านรองนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลตุรกีที่ให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่กัมพูชา ผ่านหน่วยงานความร่วมมือและประสานงานตุรกี (TIKA) ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนทุนการศึกษาและการฝึกอบรมสำหรับนักการทูตและนักศึกษากัมพูชาต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376155/cambodia-turkiye-aim-for-two-way-trade-goal-of-1-billion/

สหรัฐฯ ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางการส่งออกสำคัญของกัมพูชา

สหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยคิดเป็นร้อยละ 40 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมสูงถึง 6.8 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 2.1 จากมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ของกัมพูชาลดลงร้อยละ 27.8 มาอยู่ที่มูลค่า 181 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา (GDCE) แม้ปัจจุบันกัมพูชาจะถูกถอนถอนสิทธิพิเศษ GSP ของทางสหรัฐฯ โดยสินค้าหลักของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์เสื้อผ้า เครื่องหนัง สินค้าสำหรับเดินทาง กระเป๋าถือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า และรองเท้า ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ ได้แก่ ยานพาหนะ เครื่องจักรและเครื่องใช้เครื่องจักรกล เครื่องมือทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยา เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501375662/united-states-remains-cambodias-biggest-export-destination/

ราคาน้ำมันเบนซินในกัมพูชาลดลง 250 เรียลต่อลิตร

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา (MoC) ประกาศราคาน้ำมันเบนซินในช่วงสัปดาห์นี้ ลดลง 250 เรียลต่อลิตร อยู่ที่มูลค่า 4,300 เรียลต่อลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซล ลดลง 200 เรียลต่อลิตร อยู่ที่ 4,650 เรียลต่อลิตร ซึ่งได้ประกาศราคาไว้สำหรับช่วงวันที่ 11-21 ตุลาคม 2023 ด้าน Pen Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า พลังงานเชื้อเพลิงโดยส่วนใหญ่ของกัมพูชานำเข้ามาจากสิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม สำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในกัมพูชา ได้แก่ Tela Sokimex, Papa Savimex, Lim Long และบริษัทต่างชาติอื่นๆ ด้านผู้นำเข้าเชื้อเพลิงรายสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ Total, Caltex และ PTT โดยกระทรวงพาณิชย์จะประกาศราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกๆ 10 วัน เพื่อให้ทันต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501374895/gasoline-prices-down-250-riel-per-litre/