กัมพูชาส่งออกจักรยานมูลค่าสุทธิ 247 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกจักรยานมูลค่ารวม 247.5 ล้านดอลลาร์ ไปยังตลาดต่างประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 ลดลงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนผู้ส่งออกจักรยานภายในประเทศกัมพูชา ส่งออกจักรยานรวมกว่า 1.259 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ซึ่งตลาดหลักสำหรับจักรยานของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ประเทศในกลุ่มอาเซียน ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50893312/bicycle-exports-net-247mn-in-first-semester/

บริษัทขนส่งในกัมพูชาอาจจะเผชิญกับปัญหาหากการแพร่ระบาดไม่คลี่คลาย

ท่าเรือสีหนุวิลล์ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินกิจการท่าเรือน้ำลึกในกัมพูชา รายงานว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในช่วงครึ่งแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 มาอยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์ โดยปริมาณขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 5 คิดเป็นกว่า 3.5 ล้านตัน ซึ่งแบ่งออกเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 5 คิดเป็น 2.6 ล้านตัน การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 สู่ 830,000 ตัน โดยการจัดส่งสินค้าจากกัมพูชาส่วนใหญ่ได้แก่ วัตถุดิบผ้า เสื้อผ้า รองเท้า ข้าว เครื่องจักร ไม้แปรรูป และบุหรี่ เป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ประธานสมาคมโลจิสติกส์แห่งกัมพูชา ได้เตือนว่าบริษัทภายในประเทศมากกว่าร้อยละ 60 กำลังประสบกับปัญหารายรับที่ลดลง และอีกร้อยละ 30 กำลังจะล้มละลายหรือมีแนวโน้มว่าจะเลิกกิจการลง เว้นแต่สถานการณ์โดยภาพรวมจะดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50893244/transport-firms-face-bankruptcy-if-pandemic-worsens/

เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกเชื้อเพลิงอัดเม็ดรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

สมาคมป่าไม้และผลิตภัณฑ์ป่าไม้ของเวียดนาม (VTFPA) รายงานว่าเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Pellet) ของเวียดนามส่วนใหญ่ส่งออกไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อผลิตพลังงานความร้อน เชื้อเพลิงดังกล่าวทำมาจากเศษไม้ ขี้เลื่อนและของเสียทางการเกษตร อาทิ แกลบ ชายอ้อยและกาแฟ เป็นต้น โดยยอดการส่งออกเชื้อเพลิงของเวียดนาม พุ่งแตะ 3.2 ล้านตันในปีที่แล้ว จาก 175.5 ตันในปี 65 ด้วยรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้น 15.3 เท่า มูลค่าราว 23 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 56 มาเป็น 351 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 ทั้งนี้ เวียดนามมีโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดประมาณ 80 แห่ง ด้วยกำลังการผลิตราว 4.5 ล้านตันต่อปี อีกทั้ง ทางสมาคมมองว่าความต้องการเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นประมาณ 250% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ปริมาณกว่า 36 ล้านตันในปี 2573

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/988017/viet-nam-now-worlds-second-largest-fuel-pellet-exporter.html

7 เดือนแรกของปีงบ 63-64 เมียนมาส่งออกเมล็ดงาพุ่ง 287.75 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ

กรมศุลกากรเมียนมา เผย 7 เดือนแรก (ตุลาคม-เมษายน) ของปีงบประมาณปัจจุบัน 63-64 ส่งออกเมล็ดงา 287.75 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 8 ก.ค.64 ราคาส่งออกลดลงเหลือ 130,000-148,000 จัตต่อถุง เนื่องจากเงินจัตอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิ.ย.64 ราคาจะอยู่ที่ 135,000-160,000 จัตต่อถุง ทั้งนี้ เมียนมาส่งออกเมล็ดงานไปต่างประเทศถึงร้อยละ 80 มีจีนเป็นคู่ค้าหลักและกระจายไปตลาดอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ กรีซ โปแลนด์ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ส่วนการปลูกงาเขตมะกเวเป็นแหล่งปลูกเมล็ดงารายใหญ่ของประเทศ และยังมีบางส่วนที่เปลูกในเขตมัณฑะเลย์และเขตซะไกง์ สำหรับพืชน้ำมันสำหรับประกอบอาหาร เมล็ดงานมีพื้นที่เพาะปลูกสูงสุด คิดเป็น 51.3% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด จากสถิติการส่งออกงาของเมียนมา ในปีงบประมาณ 58-59 มีการส่งออกมากกว่า 96,000 ตัน มูลค่า 130 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ ปีงบฯ 59-60 อยู่ที่ 100,000 ตัน มูลค่า 145 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ ปีงบฯ 60-61 อยู่ที่ 120,000 ตัน มูลค่า ล้านเดอลลาร์สหรัฐ ปีงบฯ 61-62 อยู่ที่ 125,800 ตัน มูลค่า 212.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปีงบฯ 62-63 มีการส่งออกมากกว่า 150,000 ตัน มูลค่า 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sesame-seeds-export-tops-us287-75-mln-in-seven-months/

ผู้ส่งออกข้าวกัมพูชาเร่งชิงส่วนแบ่งการตลาดข้าวโลก

ผู้ส่งออกข้าวกัมพูชาเตรียมรับกับความต้องการข้าวในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น จากรายงานขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่คาดการณ์ว่าส่วนแบ่งการตลาดข้าวทั่วโลกอย่างในประเทศ อินเดีย ไทย เวียดนาม ปากีสถาน และสหรัฐอเมริกาจะหดตัวลงในช่วง 10 ปีข้างหน้า สวนทางกันกับการคาดการณ์แนวโน้มการค้าธัญพืชทั่วโลกที่จะขยายตัวร้อยละ 21 โดยการส่งออกข้าวคาดว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 35 สู่ 62 ล้านตัน ภายในปี 2030 ซึ่งในปัจจุบันส่วนแบ่งการส่งออกของผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย ไทย เวียดนาม ปากีสถาน และสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมร้อยละ 74 ของตลาดส่งออกข้าวทั้งหมด โดยการส่งออกข้าวของกัมพูชาลดลงร้อยละ 35 คิดเป็นการส่งออกข้าวสารรวม 233,031 ตัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50889686/rice-exporters-set-to-grab-larger-share-of-global-market-report/

9 เดือนแรกของปีงบ 63-64 เมียนมาส่งออกถั่วแระไปแล้วกว่า 136,000 ตัน

ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 ถึง 26 มิ.ย.2564 เมียนมาส่งออกถั่วแระกว่า 136,632 ตันในปีงบประมาณปัจจุบัน 2563-2564 สร้างรายได้เข้าประเทศ 91.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถั่วแระส่วนใหญ่จัดส่งไปยังอินเดียซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ จะมีส่งออกไปสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ปากีสถาน สหราชอาณาจักร และมาเลเซียด้วย แต่มีปริมาณไม่มากนัก เมียนมาส่งออกถั่วดำ 250,000 ตันและถั่วแระ 100,000 ตันภายใต้ข้อตกลง G to G (รัฐถึงรัฐ) ในปีงบประมาณ 2564-2565 และปีงบประมาณ 2568-2569 ทั้งนี้การค้าแบบ G-to-G ได้เริ่มต้นในปี 2559 และทั้งสองประเทศได้ลงนาม MoU เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ในปีงบประมาณ 2560-2561 เมียนมาส่งออกส่งถั่วดำ ถั่วแระ และถั่วเขียวเขียวกว่าล้านตันไปยังตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รายได้ขึ้นทะเบียนเพียง 713 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาลดลง ทั้งนี้เมียนมาส่งออกถั่วชนิดต่างๆ กว่า 1.6 ล้านตัน สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1.195 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-136000-tonnes-of-pigeon-peas-as-of-25-june/

กัมพูชาส่งออกสุทธิเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกสุทธิมูลค่ารวมกว่า 5.982 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม รายงานโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ซึ่งระบุว่าการส่งออกเสื้อผ้าลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม เช่น จักรยาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยสินค้าเกษตรกลับปรับตัวขยายเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับตัวเลขจากกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ที่แสดงให้เห็นว่าการส่งออกสินค้าเกษตรของกัมพูชามีมูลค่ารวมถึง 2.571 พันล้านดอลลาร์ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นอย่างมาก จนส่งผลทำให้การค้าทั่วโลกชะลอตัวลงตามไปด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50888882/exports-net-nearly-6-billion-in-first-five-months-of-year/

เวียดนามเผยไตรมาสแรก ภาคเกษตรฯ ส่งออกพุ่ง

การส่งออกสินค้าการเกษตร ป่าไม้และประมงของเวียดนามเติบโตได้ดี ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ แม้เผชิญการระบาดของโควิด-19 เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรกรรม 24.23 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 28.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานวัตถุดิบไปยังทั่วโลก และในทิศทางเชิงลบต่อการผลิต การบริโภคและการส่งออกสินค้าการเกษตร ทั้งนี้ สินค้าส่งออกการเกษตรของเวียดนามที่มีการเติบโตทั้งปริมาณและมูลค่า ได้แก่ ยางพารา ชา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากมันสำปะหลัง อย่างไรก็ดี จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นตลาดส่งออกสินค้าการเกษตรที่สำคัญของเวียดนาม โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ พุ่ง 59.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/986726/viet-nams-agriculture-sector-gains-export-growth-in-h1.html

‘EVFTA’ ผลักดันหนุนการส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดออสเตรเลีย

ยอดการค้าระหว่างเวียดนามและออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 256.8 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552 มาอยู่ที่ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 อย่างไรก็ดี เมื่อปีที่แล้ว จากการได้รับผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ยอดการค้ารวมลดลงเหลือเพียง 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และข้อสังเกตจากการค้า ชี้ให้เห็นว่าเวียดนามเกินดุลการค้ากับออสเตรเลียมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 ทั้งนี้ ตามข้อมูลของศูนย์พาณิชยกรรมระหว่างประเทศ (ITC) เผยว่ายอดการนำเข้าของออสเตรเลียจากเวียดนาม พุ่ง 184% เป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในบรดาตลาดนำเข้า 50 อันดับแรกของออสเตรเลีย โดยการเติบโตของการค้านั้น เป็นผลมาจากได้รับอนิสงค์จากความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA)

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/evfta-set-to-boost-vietnamese-exports-to-austrian-market-870415.vov

เพียง 3 สัปดาห์ ราคาส่งออกงาเมียนมา พุ่ง 20,000 จัต

ผู้นำเข้าชาวจีนล้วนจับตาราคางาดำที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่ (พันธุ์ซาโมน) เนื่องจากมีคุณภาพสูง และมีความต้องการสูงราคาพุ่งถึง 160,000 จัตต่อกระสอบ (45 viss ต่อกระสอบ) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 20,000 ต่อกระสอบในสามสัปดาห์ที่ตลาดค้าส่งมัณฑะเลย์ ขณะที่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน มีราคาเพียง 130,000-143,000 จัตต่อกระสอบ โดยปกติประมาณร้อยละ 80  เมียนมาส่งออกงาไปยังตลาดต่างประเทศ จีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่รองลงมาเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ใต้หวัน สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ กรีซ และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป โดยเขตมะกเวเป็นผู้ผลิตเมล็ดงารายใหญ่และยังมีบางส่วนในเขตมัณฑะเลย์และเขตซะไกง์ ในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2563-2564 (ตุลาคม-มีนาคม) การส่งออกเมล็ดงาทำเงินได้ 284.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากข้อมูลการส่งออกงาของ Central Statistical Organisation มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปีงบประมาณ 2561-2562 มีการส่งออกมูลค่า 212.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปีงบประมาณ 2562-2563  มีมูลค่า 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sesame-prices-up-by-k20000-in-three-weeks/