‘ฟิลิปปินส์’ กลายเป็นผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ปี 66

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในปี 2566 เวียดนามส่งออกข้าวมากกว่า 8 ล้านตัน และฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดจากเวียดนาม โดยจากตัวเลขทางสถิติแสดงให้เห็นว่าเวียดนามส่งออกข้าว 8.34 ล้านตันในปีที่แล้ว ทำรายได้ราว 4.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.4% และ 35.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าฟิลิปปินส์จะเป็นผู้นำเข้าข้าวเวียดนามมากที่สุด แต่อินโดนีเซียก็เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตในระดับสูง ปริมาณการนำเข้าข้าวของอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2565

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าทิศทางการส่งออกข้าวของเวียดนามในปีนี้ จะได้รับแรงหนุนมาจากราคาในตลาดโลกที่คงอยู่ในระดับสูง และผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนิโญ รวมถึงการซื้อข้าวจากกลุ่มประเทศในเอเชียและแอฟริกา คาดว่าจะผลักดันราคาในตลาดโลกให้สูงขึ้นในปี 2567

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/philippines-is-vietnams-largest-rice-consumer-in-2023-post1072880.vov

MyRO ได้รับการลงทะเบียนโรงเก็บข้าว 193 แห่ง

ตามข้อมูลของสมาพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ขณะนี้ โกดังเก็บข้าว 193 แห่งได้รับการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มการลงทะเบียนออนไลน์ของ Myanmar Rice Online (MyRO) ทั้งนี้ MRF ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการคลังสินค้าและผู้ค้าส่งลงทะเบียนบน MyRO ที่ www.myro.com.mm การลงทะเบียนนี้จำเป็นสำหรับการจัดซื้อข้าวเปลือกมากกว่า 5,000 ตะกร้า หรือข้าวมากกว่า 50 ตัน เป้าหมายคือเพื่อให้มั่นใจว่าราคาข้าวมีเสถียรภาพ สร้างแนวทางการส่งออกข้าวอย่างเป็นระบบ ชี้นำตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการปั่นราคา รักษาสต๊อกข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าส่งอย่างเป็นระบบ และพัฒนาระบบการเงินคลังสินค้า อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 คลังสินค้า 193 แห่งในย่างกุ้ง อิรวดี พะโค มัณฑะเลย์ และสะกาย รัฐยะไข่ และเขตสภาเนปิดอว์ ได้รับการจดทะเบียนแล้ว นอกจากนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มกราคม กรมกิจการผู้บริโภคได้แจ้งให้ MRF สมาคมในเครือ สมาคมย่อยระดับภูมิภาค รัฐ เขต และเมือง ตลอดจนคณะกรรมการและคลังที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเรื่องการลงทะเบียนโดยทันที บริษัทและผู้ประกอบการรายบุคคลควรลงทะเบียนกับ MyRO ตามระเบียบข้อบังคับด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myro-receives-registration-of-193-rice-storage-facilities/#article-title

การส่งออกข้าวของเมียนมาร์ทะลุ 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณนี้

มูลค่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาร์มีมูลค่ารวม 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปริมาณการส่งออกทั้งหมด 955,502 ตันในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบันปี 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยปริมาณการส่งออกแบ่งเป็นการค้าทางทะเล 883,244 ตัน และ 72,258 ตันที่ชายแดน ตามข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ (MRF) ทั้งนี้ มีการบันทึกปริมาณการส่งออกข้าวสูงที่สุดในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 195,829 ตัน คิดเป็นมูลค่า 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  รองลงมาคือเดือนพฤศจิกายน 175,990 ตัน มูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตุลาคม 119,526 ตัน มูลค่า 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ อย่างไรก็ดี สหพันธ์มีเป้าหมายที่จะบรรลุการส่งออกข้าว 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ในปีงบประมาณที่แล้ว 2565-2566 จีนเป็นผู้ซื้อข้าวและข้าวหักรายใหญ่ของเมียนมาร์ซึ่งมีปริมาณการส่งออกมากกว่า 775,000 ตัน ตามมาด้วยเบลเยียม 323,000 ตัน บังกลาเทศมากกว่า 239,000 ตัน และฟิลิปปินส์ที่กว่า 202,000 ตัน ซี่งสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ ระบุว่าเมียนมาร์พยายามที่จะบรรลุการส่งออกข้าวที่เติบโตร้อยละ 10 เพื่อเพิ่มรายได้จากต่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการส่งออกข้าวคุณภาพสูงและสนับสนุนปริมาณการส่งออก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-rice-exports-cross-us462m-this-fy/

‘เวียดนาม’ คาดส่งออกข้าวปีนี้ ทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าทั้งปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่ายอดการส่งออกข้าวในปีนี้จะสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกข้าวสาร (Milled rice) ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 7.75 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.2% และ 36.3% เมื่อเป็นรายปี ในขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ย 568 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ทั้งนี้ จากการประชุมเชิงปฏิบัติการการ นายเจิ่น แทงห์ นาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าข้าวมีบทบาทสำคัญต่อภาคเกษตรกรรมในเวียดนามและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และในอนาคตข้างหน้า ตลาดข้าวจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการมากขึ้นจากจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ตะวันออกกลางและแอฟริกา

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มองว่าการเติบโตของปริมาณการส่งออกข้าวมีทิศทางสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อสต๊อกของประเทศผู้ส่งออก และดันราคาส่งออกข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1638131/rice-exports-expected-to-hit-us-5-billion-this-year.html

‘เวียดนาม’ เผยยอดส่งออกข้าวทำสถิติสูงสุดในรอบ 34 ปี

การส่งออกข้าวของเวียดนามในช่วงต้นปีจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่า 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือปริมาณส่งออกราว 7.8 ล้านตัน ทำสถิติมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 2534 ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าแนวโน้มการส่งออกข้าวในปีนี้จะสูงถึง 8 ล้านตัน ทำรายได้ราว 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ นายเหวียง เวินโด่น ผู้อำนวยการบริษัท เวียดฮุง กล่าวว่าความต้องการบริโภคข้าวในตลาดโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและราคาส่งออกข้าวที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดีราคาข้าวเวียดนามไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตขาดแคลน รวมไปถึงผู้ส่งออกข้าวเวียดนามกำลังรอฤดูกาลเก็บเกี่ยวใหม่ นอกจากนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม ระบุว่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาข้าวไทยเพิ่มขึ้น 5% อยู่ที่ 632 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งสูงกว่าช่วงกลางเดือนที่แล้วประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-rice-exports-hit-record-high-since-1989/272379.vnp

เมียนมาร์มีรายได้ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวในเดือนที่ผ่านมา

ในเดือนพฤศจิกายน เมียนมาร์มีรายได้ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกข้าว ซึ่งสูงกว่าเดือนก่อนหน้า ตามข้อมูลที่เผยแพร่จากสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ ทั้งนี้ รายได้จากปริมาณการส่งออกข้าวอยู่ที่ 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 119,526 ตันในเดือนตุลาคม และ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 175,990 ตันในเดือนพฤศจิกายน ตามลำดับ โดยในปีงบประมาณนี้ มีการส่งออกข้าวจำนวน 759,673 ตันตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน สร้างรายได้ให้เมียนมาร์กว่า 361 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สหพันธ์ข้าวเมียนมาร์คาดว่าจะส่งออกข้าวได้ 2 ล้านตันในปีการเงิน 2566-2567 นอกจากนี้ ข้อกำหนดใบอนุญาตก่อนหน้านี้ในการสต็อกข้าวส่งออกล่วงหน้า 100% ปรับลดลงเหลือ 50% ตามการระบุของสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-earns-us-90-million-from-rice-export-last-month/#article-title

ส่งออกข้าวไทยพุ่งอินโดนีเซียเจอภัยแล้ง ชี้เป็นโอกาสพร้อมเร่งพัฒนาสายพันธุ์

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ติดตามข้อมูลสถานการณ์การค้าสินค้าข้าว พบว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – ตุลาคม) อินโดนีเซียกลายเป็นตลาดส่งออกข้าวอันดับ 1 ของไทย สาเหตุหลักมาจากอินโดนีเซียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนข้าว เนื่องจากภัยแล้งที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ รวมถึงฤดูมรสุมที่ล่าช้า ทำให้อินโดนีเซียปลูกข้าวได้น้อยลง

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/356781

‘ปราโมทย์’ เผยข้าวไทยขายดี รับอานิสงค์เวียดนาม

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่าข้าวไทยหลายพันธ์มีราคาสูงขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ราคาข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000–9,500 บาทต่อตัน แต่ราคาข้าวในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน (344 ดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศพุ่งสูงสุดในรอบ 17 ปี

ในขณะที่นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่าความต้องการข้าวไทยจากบราซิลและฟิลิปปินส์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยังโรงสีข้าวไทย พบว่าจากราคาข้าวของเวียดนามในขณะนี้ที่สูงกว่าราคาข้าวของไทย ประมาณ 70-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เนื่องจากผลผลิตในประเทศมีไม่เพียงพอ

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20231205/thai-rice-sells-well-thanks-to-vietnam-association-president/77099.html

10 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกข้าวมูลค่าแตะ 450 ล้านดอลลาร์

การส่งออกข้าวสารของกัมพูชาในช่วง 10 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นเป็นประมาณกว่า 530,000 ตัน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 450 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขดังกล่าวเปิดเผยโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 พ.ย.) ขณะที่การส่งออกข้าวเปลือกไปยังประเทศเพื่อนบ้านสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 708 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะข้าวหอม ข้าวอินทรีย์ ข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวจาโปนิกา เป็นสำคัญ ซึ่งปริมาณการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการเจรจาสิทธิพิเศษทางการค้าระหว่างประเทศคู่ค้าสำคัญ รวมถึงมองหาตลาดส่งออกใหม่ๆ อย่างอินโดนีเซีย โดยทางการกัมพูชามุ่งมั่นที่จะผลักดันเป้าหมายการส่งออกให้มีการขยายตัวมากยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ด้าน Chan Sokheang ประธานสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ตั้งเป้าหมายการส่งออกสูงสุด 700,000 ตัน ภายในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501387897/rice-exports-rake-in-450-million-in-ten-months/

การลงทะเบียนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับสถานที่จัดเก็บเมล็ดพืช กับ MyRO

กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ จัดพิธี Go-Live สำหรับเว็บไซต์ Myanmar Rice Online (MyRO) และการประชุมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการลงทะเบียน MyRO สำหรับโรงเก็บเมล็ดพืชที่โรงแรม Thingaha ในเมืองเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยตั้งเป้าประกันการพึ่งพาตนเองในสินค้าข้าว การส่งออกอย่างเป็นระบบ ความมั่นคงด้านราคาและการลงทะเบียนการจัดเก็บเมล็ดพืชอย่างเป็นระบบและการนำระบบการเงินใบเสร็จรับเงินของคลังสินค้าไปใช้ ด้าน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้านการวางแผนและการคลัง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงการดำเนินการตามกระบวนการทำงานของการประชุมข้าวเมียนมาร์ 2022 เช่น ระบบประกันพืชผลสำหรับเกษตรกร และการยกระดับสินค้าข้าว โดยระบบ MyRO นี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนโรงเก็บธัญพืช ใบอนุญาตผู้ส่งออก และการจดทะเบียนโรงสีข้าวผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยจะจัดให้มีระบบการลงทะเบียนที่ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเหมือนกับการจดทะเบียนบริษัท มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นก้าวแรกสำหรับภาคส่วนสินค้าข้าวในการก้าวไปข้างหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รัฐจะช่วยสร้างความมั่นคงทางนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความสามัคคีที่มากขึ้นมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ อย่างไรก็ตาม โครงการนำร่องดังกล่าวมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการในเขต เนปิดอว์ ย่างกุ้ง อิรวดี พะโค และมัณฑะเลย์ MyRO จะเผยแพร่ข้อมูลสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าว รวมถึงเกษตรกร พ่อค้า โรงสีข้าว ผู้ส่งออก ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริโภค และอำนวยความสะดวกในกระบวนการลงทะเบียน ดังนั้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในอุตสาหกรรมจึงได้รับการสนับสนุนให้ร่วมมือกันในโครงการนี้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/registration-on-myro-required-for-grain-storage-facilities/