ทางการกัมพูชาหวังดึงนักลงทุนจีนเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

ทางการกัมพูชาพร้อมดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกโดยรัฐบาลแห่งชาติ ผ่านการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อเอื้อต่อภาคการลงทุนภายในประเทศ หวังดึงดูดการลงทุนของจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น ตามคำกล่าวของ Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ในระหว่างการประชุมความร่วมมือจีน-กัมพูชา ประจำปี 2023 ณ ประเทศจีน โดยงานนี้จัดขึ้นโดย Global Logistic Alliance (GLA) ซึ่งเป็นเครือข่ายของบริษัทผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับโลจิสติกส์มากกว่า 5,000 แห่ง ที่ได้ทำการลงทุนกระจายไปยังกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ด้านรองนายกฯ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าแผนดังกล่าว สอดคล้องกับแผนแม่บทของกัมพูชา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 174 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 10 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา ถนน ระบบราง ทางน้ำ สายการบิน ท่าเรือ โลจิสติกส์ และระบบขนส่งอัตโนมัติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501381311/infra-push-set-to-lure-chinese-investments/

‘อุตสาหกรรมเหล็กเวียดนาม’ จะกลับมาฟื้นตัวในปี 67

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) เปิดเผยว่าผลผลิตเหล็กในเดือนกันยายน จำนวนรวมทั้งสิ้น 2.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลง 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การบริโภคเหล็ก ปริมาณ 2.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 9.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยผลผลิตเหล็กในเดือนดังกล่าวได้รับแรงกระตุ้นมาจากนโยบายของภาครัฐฯ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาคอขวดและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. ตลอดจนเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินลงทุนสาธารณะ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมขนส่ง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/steel-industry-expected-to-recover-in-2024/270051.vnp

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เดินหน้าแก้ไข‘ปัญหาท่าเรือทางบก’

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เริ่มดำเนินแผนงานปรับปรุงกระบวนการนำเข้าและส่งออกในท่าเรือทางบกทั่วประเทศ ทั้งการจัดการปัญหาการทุจริตและกระบวนการขนส่งข้ามแดนที่ยุ่งยาก โดยแบ่งระยะของแผนงานเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ปี 2566 มีเป้าหมายที่จะแก้ไขโครงสร้างการเก็บค่าธรรมเนียมและทบทวนระบบการจัดการงานข้ามหน่วยงาน ระยะที่ 2 ช่วงกลางปี 2567 จะทำการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องและกำหนดหลักการที่เป็นเอกภาพ และระยะยาวในช่วงสิ้นปี 2567 จะมุ่งเน้นการสร้างระบบวิธีการจัดการที่เหมาะสมและเชื่อมโยงการทำงานกับภาคีการค้าต่างประเทศ
เพื่อปรับปรุงข้อตกลงการขนส่งในระดับทวิภาคีและไตรภาคีระหว่างลาว จีน และไทย

ที่มา : http://: https://laotiantimes.com/2023/10/18/laos-ministry-of-industry-and-commerce-works-to-address-land-port-issues/

ตม.จีน เผย ‘รถไฟจีน-ลาว’ มียอดผู้ใช้บริการทะลุ 81,000 คน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนานของจีน เผย 6 เดือนแรก มีผู้ใช้บริการรถไฟจีน-ลาวแล้วกว่า 81,000 คน ในที่นี้เป็นผู้โดยสารต่างชาติกว่า 15,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ สะท้อนความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้
ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีราคาค่าโดยสารไม่แพงและมีความสะดวกสบาย อีกทั้งตั้งแต่
เดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางที่ด่านโม่ฮานถึงสถานีปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์มีการปรับลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 9 ชั่วโมง จากผลของการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกากร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_202_China_y23.php

‘รถไฟจีน-ลาว’ มียอดผู้ใช้บริการทะลุ 81,000 คน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนานของจีน เผย 6 เดือนแรก มีผู้ใช้บริการรถไฟจีน-ลาวแล้วกว่า 81,000 คน ในที่นี้เป็นผู้โดยสารต่างชาติกว่า 15,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ สะท้อนความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีราคาค่าโดยสารไม่แพงและมีความสะดวกสบาย อีกทั้งตั้งแต่กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางที่ด่านโม่ฮานถึงสถานีปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์มีการปรับลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 9 ชั่วโมง จากผลของการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกากร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_202_China_y23.php

ผู้เชี่ยวชาญไทยชี้ BRI หนุนความร่วมมือ ‘อาเซียน-จีน’หลากหลาย

ผู้เชี่ยวชาญชาวไทยแสดงทัศนะว่าแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีนเสริมสร้างความร่วมมือด้านกำลังการผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงไทย และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนในด้านต่างๆ เช่น การค้าและการผลิตให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อไม่นานนี้ว่ากลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่มากมาย และมีโอกาสสำคัญที่จะร่วมมือกับจีนทั้งด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและความร่วมมือด้านกำลังการผลิต

ทั้งนี้ จีนเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญที่สุดของกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะการยกระดับทางอุตสาหกรรมและการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีนส่งอิทธิพลต่อกลุ่มประเทศอาเซียนในวงกว้าง ด้านความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีจีน-อาเซียน ได้ส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/763294

กัมพูชา-จีน พร้อมกระชับความสัมพันธ์ผ่านโครงการ BRI

Wang Wentian เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา กล่าวว่า โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ได้เปิดฉากทัศน์ใหม่ สำหรับการสารสัมพันธ์ความเป็นมิตรภาพระหว่าง จีน-กัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลแก่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเน้นไปที่การก้าวข้ามอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ ด้วยการเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางและการขนส่งระหว่างประเทศสมาชิค โดยคาดว่าจะดำเนินการภายใต้กรอบระยะเวลา 10 ปี ซึ่งกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการสนับสนุนกลุ่มแรกๆ สำหรับในช่วงเริ่มของโครงการ

ด้านเอกอัครราชทูตจีนยังได้กล่าวเสริมว่าความคิดริเริ่มดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน และเพิ่มความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านกำลังการผลิต การค้า การลงทุน การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน สะท้อนจากความสำเร็จของโครงการสำคัญต่างๆ อาทิเช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ เสียมราฐ สนามบินนานาชาติอังกอร์ สนามกีฬาแห่งชาติโมโรดอกเตโช และสถานีไฟฟ้าพลังน้ำเซซัน 2 ในตอนล่าง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376482/bri-strengthens-china-cambodia-ties/

ญี่ปุ่นทุ่มงบ 700 ล้านดอลลาร์ พัฒนาถนนสาย “National Road 5”

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำนักงานกัมพูชาร่วมมือกับกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) มุ่งเป้าปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 5 จากเปรกดำถึงเมืองปอยเปต ระยะทางรวม 366 กิโลเมตร โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 709.35 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นได้ทุ่มเงินกว่า 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในเส้นทางดังกล่าว จาก 2 เลน เป็น 4 เลน ตลอดชายแดนกัมพูชา-ไทย ไปจนถึงชายแดนเวียดนาม ตามรายงานคาดว่าค่าใช้จ่ายในโซนภาคเหนือจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 156.43 ล้านดอลลาร์ ทอดยาวจากพระตะบองถึงศรีโสภณ ในขณะที่ภาคใต้คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนมูลค่า 246.36 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมตั้งแต่เปรกดำถึง Thlea Ma’am และภาคกลางเน้นที่การปรับปรุงสภาพของถนนที่มีอยู่ตั้งแต่ Thlea Ma’am ถึงพระตะบอง และศรีโสภณถึงเมืองปอยเปต ที่มูลค่าประมาณ 306.57 ล้านดอลลาร์ โดยโครงการนี้คาดว่าจะเพิ่มความสะดวกในการสัญจรและปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่งให้กับกัมพูชาไปยังชายแดน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีรถยนต์สันจรบนเส้นทางสายดังกล่าวมากกว่า 7 ล้านคัน เพิ่มขึ้นถึง 400% เมื่อเทียบกับปี 2010

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501370866/japan-provided-over-700m-to-upgrade-national-road-5/

บริษัทต่างชาติเข้าลงทุนจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ใน สปป.ลาว

บริษัท China International Water & Electric Corp (CWE) พร้อมที่จะลงทุนเพิ่มในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำและภาคส่วนอื่นๆ ใน สปป.ลาว แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยปัจจุบันบริษัทได้เข้าลงทุนใน สปป.ลาว มานานกว่าสองทศวรรษ ซึ่งลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ 5 โครงการ และโครงการสายส่งและสายแปลง 4 โครงการ มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งโครงการเหล่านี้กำลังสร้างโอกาสในการจ้างงานสำหรับพนักงานท้องถิ่นราว 300-400 คน ในจังหวัดเซียงขวาง เวียงจันทน์ และอัตปือ โดยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น ผ่านการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การปรับปรุงถนนและสะพาน โรงเรียน สนามเด็กเล่น ห้องปฏิบัติการ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน รวมถึงการลงทุนด้านพลังงานสะอาดสอดคล้องกับการมุ่งเน้นของโครงการ Belt and Road Initiative ในด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการแสวงหาหนทางสำหรับการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_192_Foreign_y23.php

การขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

8 เดือนแรกของปีนี้ เส้นทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ได้มีการขนส่งสินค้ารวมทั้งสิ้น 3.1 ล้านตัน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 138 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของ บริษัท สปป.ลาว-จีน เรลเวย์ จำกัด (LCRC) โดยคิดเป็นการนำเข้าสินค้าของ สปป.ลาว จาก จีน ที่ปริมาณ 344,700 ตัน ในขณะที่สินค้าส่งออกของ สปป.ลาว ไปยังจีน มีปริมาณรวมกว่า 2.7 ล้านตัน ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักที่ส่งออกไปจีน ได้แก่ ผลไม้, แป้งมัน, ข้าวบาร์เลย์, ยาง, เบียร์, แร่เหล็ก, หิน, และปุ๋ยเคมี สำหรับทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการภายใต้หนึ่งเข็มขัดเศรษฐกิจ หนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งเป็นอภิมหาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จีนใช้เชื่อมโลก เป็นเหมือนภาคต่อของเส้นทางสายไหม สำหรับเส้นทางสาย สปป.ลาว-จีน ได้เริ่มให้บริการในช่วงเดือนธันวาคม 2021 โดยเส้นทางสายดังกล่าวมีระยะทางรวม 1,035 กิโลเมตร เชื่อมโยงระหว่างเมืองคุนหมิงทางต้อนใต้ของจีน เข้ากับเมืองเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว ในการสนับสนุนภาคการขนส่งระหว่าง สปป.ลาว-จีน

ที่มา : https://english.news.cn/20230926/f031f53c3d344c76b65114d370627f4d/c.html