‘GSM เปิดตัวบริการแท็กซี่ไฟฟ้าใน สปป.ลาว’ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเดินทางสีเขียวในอาเซียน

บริษัท JSC Green and Smart Mobility ของเวียดนาม (GSM) ได้เปิดตัวบริการแท็กซี่ไฟฟ้าในเวียงจันทน์ สปป.ลาว ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Xanh SM” ขยายสู่ตลาดต่างประเทศแห่งแรกถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในกลยุทธ์ “Go Green Global” ของ GSM เพื่อสร้างตัวเองในฐานะผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าระดับสากล และส่งเสริมการนำยานยนต์สีเขียวมาใช้นอกขอบเขต ทั้งนี้ Xanh SM Laos ยอมรับแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางของคู่ค้าชาวเวียดนาม และให้คำมั่นที่จะให้บริการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าด้วยรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ 100% และมาตรฐานการบริการระดับ 5 ดาว รวมถึงคุณภาพรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม และทีมงานนักขับมืออาชีพที่ทุ่มเท ซึ่งมีส่วนในการยกระดับมาตรฐานการบริการขนส่งผู้โดยสารใน “ดินแดนแห่งล้านช้าง” นอกจากนี้ Xanh SM Laos กำลังวางแผนที่จะขยายการดำเนินงานไปทั่วประเทศ และคาดว่าจะสร้างโอกาสงานใหม่นับพันตำแหน่งให้กับผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น โอกาสเหล่านี้นำโอกาสในการพัฒนาอาชีพที่น่าสนใจโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มแรก ในขณะเดียวกันก็มีรายได้ที่เหมาะสมและการฝึกอบรมทางวิชาชีพด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่ Green SM จะได้รับการมุ่งเน้นให้เป็น “ทูตสีเขียว” ที่เชื่อมโยงแบรนด์กับลูกค้าโดยตรง และมีส่วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของลาว

ที่มา : https://www.taiwannews.com.tw/en/news/5036912

นายกฯ กัมพูชา ตั้งเป้าดันพระสีหนุเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของประเทศ

รัฐบาลกัมพูชาวางแผนพัฒนาจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลของกัมพูชา ให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งของประเทศ ผ่านการจัดทำแผนแม่บทสำหรับการพัฒนาจังหวัด กล่าวโดย นายกฯ ฮุน มาเนต ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) เป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟและท่าเรือน้ำลึก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในประเทศ ซึ่งนายกฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อหวังผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว สำหรับในเฟสแรกทางการมีการวางแผนที่จะขยายท่าเรือน้ำลึกเนื่องจากปัจจุบันลานจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์เกือบเต็มพื้นที่ที่ร้อยละ 93 รวมถึงเพื่อที่จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งของผู้ประกอบการจากระหว่าง 400 ถึง 500 ดอลลาร์ ต่อตู้คอนเทนเนอร์ เหลือเพียง 200 ดอลลาร์ ต่อตู้คอนเทนเนอร์ อีกทั้งท่าเรือดังกล่าวยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งอย่างทางรถไฟ 2 สาย เชื่อมไปยังกรุงพนมเปญและปอยเปต ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501388709/pm-says-preah-sihanouk-set-to-be-countrys-logistics-hub/

โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดันหนี้สาธารณะกัมพูชาขยายตัว

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต กล่าวถึงสถานการณ์หนี้สาธารณะของกัมพูชาที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดการเติบโต ภายใต้การควบคุมความเสี่ยงทางด้านหนี้สาธารณะ โดยปัจจุบันหนี้สาธารณะของกัมพูชามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 10.72 พันล้านดอลลาร์ แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ต่ำ ตามรายงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ซึ่งหนี้สาธารณะจำนวนดังกล่าวร้อยละ 64 มาจากการกู้ยืมจากหุ้นส่วนการพัฒนาในระดับทวิภาคี รวมถึงมาจากหุ้นส่วนการพัฒนาในระดับพหุภาคีที่ร้อยละ 36 และหนี้สาธารณะในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 0.43 สำหรับปีนี้ รัฐบาลได้วางแผนที่จะระดมทุน 200 ล้านดอลลาร์ จากการออกพันธบัตรรัฐบาล และสำหรับปีหน้ารัฐบาลกัมพูชากำลังวางแผนที่จะระดมทุนเพิ่มอีก 108 ล้านดอลลาร์ ด้วยวิธีเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะนำไปใช้ในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการชำระคืนเงินต้น รวมถึงจ่ายดอกเบี้ยให้กับพันธบัตรที่ออกในปีที่แล้ว ตามร่างกฎหมายงบประมาณแห่งชาติประจำปี 2024

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501386323/public-debt-drove-infrastructure-growth-says-pm/

ทางการกัมพูชาเตรียมเปิดตัวสะพานพระมณีวงศ์ ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

โครงการก่อสร้างสะพานพระมณีวงศ์ พร้อมเปิดให้บริการก่อนกำหนด ซึ่งในเฟสแรกกำหนดวันเสร็จสิ้นไว้ก่อนช่วงวันขึ้นปีใหม่กัมพูชา (KNY) กล่าวโดย Khuong Sreng ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ สำหรับสะพานแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกรุงพนมเปญ โดยคาดว่าจะช่วยลดการติดขัดทางจราจรภายในเขตเมืองได้เป็นอย่างมาก รวมถึงสร้างความสะดวกในการเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติ ขณะที่การก่อสร้างนำโดยบรรษัทการลงทุนข้ามชาติแห่งกัมพูชา (OCIC) เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2022 ด้วยเม็ดเงินลงทุน 37 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันเมืองพนมเปญมีประชากรเกือบ 2.3 ล้านคน และคาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคน ภายในปี 2035 ซึ่งจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทางการกัมพูชาจึงจำเป็นต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงถนน เพื่อเป็นการรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ กัมพูชายังได้รายงานถึงจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนในประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 11.3 ต่อปี (5 ปีที่ผ่านมา) ซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนในพนมเปญ ตามระบบการจัดการทะเบียนรถยนต์ของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501384056/37-million-monivong-flyover-to-open-ahead-of-schedule-by-kny/

ทางการกัมพูชาหวังดึงนักลงทุนจีนเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

ทางการกัมพูชาพร้อมดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกโดยรัฐบาลแห่งชาติ ผ่านการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อเอื้อต่อภาคการลงทุนภายในประเทศ หวังดึงดูดการลงทุนของจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น ตามคำกล่าวของ Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ในระหว่างการประชุมความร่วมมือจีน-กัมพูชา ประจำปี 2023 ณ ประเทศจีน โดยงานนี้จัดขึ้นโดย Global Logistic Alliance (GLA) ซึ่งเป็นเครือข่ายของบริษัทผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับโลจิสติกส์มากกว่า 5,000 แห่ง ที่ได้ทำการลงทุนกระจายไปยังกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ด้านรองนายกฯ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าแผนดังกล่าว สอดคล้องกับแผนแม่บทของกัมพูชา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 174 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 10 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา ถนน ระบบราง ทางน้ำ สายการบิน ท่าเรือ โลจิสติกส์ และระบบขนส่งอัตโนมัติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501381311/infra-push-set-to-lure-chinese-investments/

‘อุตสาหกรรมเหล็กเวียดนาม’ จะกลับมาฟื้นตัวในปี 67

สมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) เปิดเผยว่าผลผลิตเหล็กในเดือนกันยายน จำนวนรวมทั้งสิ้น 2.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลง 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การบริโภคเหล็ก ปริมาณ 2.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 9.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยผลผลิตเหล็กในเดือนดังกล่าวได้รับแรงกระตุ้นมาจากนโยบายของภาครัฐฯ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาคอขวดและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. ตลอดจนเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินลงทุนสาธารณะ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมขนส่ง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/steel-industry-expected-to-recover-in-2024/270051.vnp

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เดินหน้าแก้ไข‘ปัญหาท่าเรือทางบก’

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เริ่มดำเนินแผนงานปรับปรุงกระบวนการนำเข้าและส่งออกในท่าเรือทางบกทั่วประเทศ ทั้งการจัดการปัญหาการทุจริตและกระบวนการขนส่งข้ามแดนที่ยุ่งยาก โดยแบ่งระยะของแผนงานเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ปี 2566 มีเป้าหมายที่จะแก้ไขโครงสร้างการเก็บค่าธรรมเนียมและทบทวนระบบการจัดการงานข้ามหน่วยงาน ระยะที่ 2 ช่วงกลางปี 2567 จะทำการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องและกำหนดหลักการที่เป็นเอกภาพ และระยะยาวในช่วงสิ้นปี 2567 จะมุ่งเน้นการสร้างระบบวิธีการจัดการที่เหมาะสมและเชื่อมโยงการทำงานกับภาคีการค้าต่างประเทศ
เพื่อปรับปรุงข้อตกลงการขนส่งในระดับทวิภาคีและไตรภาคีระหว่างลาว จีน และไทย

ที่มา : http://: https://laotiantimes.com/2023/10/18/laos-ministry-of-industry-and-commerce-works-to-address-land-port-issues/

ตม.จีน เผย ‘รถไฟจีน-ลาว’ มียอดผู้ใช้บริการทะลุ 81,000 คน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนานของจีน เผย 6 เดือนแรก มีผู้ใช้บริการรถไฟจีน-ลาวแล้วกว่า 81,000 คน ในที่นี้เป็นผู้โดยสารต่างชาติกว่า 15,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ สะท้อนความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้
ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีราคาค่าโดยสารไม่แพงและมีความสะดวกสบาย อีกทั้งตั้งแต่
เดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางที่ด่านโม่ฮานถึงสถานีปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์มีการปรับลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 9 ชั่วโมง จากผลของการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกากร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_202_China_y23.php

‘รถไฟจีน-ลาว’ มียอดผู้ใช้บริการทะลุ 81,000 คน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนานของจีน เผย 6 เดือนแรก มีผู้ใช้บริการรถไฟจีน-ลาวแล้วกว่า 81,000 คน ในที่นี้เป็นผู้โดยสารต่างชาติกว่า 15,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ สะท้อนความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีราคาค่าโดยสารไม่แพงและมีความสะดวกสบาย อีกทั้งตั้งแต่กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางที่ด่านโม่ฮานถึงสถานีปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์มีการปรับลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 9 ชั่วโมง จากผลของการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกากร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_202_China_y23.php

ผู้เชี่ยวชาญไทยชี้ BRI หนุนความร่วมมือ ‘อาเซียน-จีน’หลากหลาย

ผู้เชี่ยวชาญชาวไทยแสดงทัศนะว่าแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีนเสริมสร้างความร่วมมือด้านกำลังการผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงไทย และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนในด้านต่างๆ เช่น การค้าและการผลิตให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อไม่นานนี้ว่ากลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่มากมาย และมีโอกาสสำคัญที่จะร่วมมือกับจีนทั้งด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและความร่วมมือด้านกำลังการผลิต

ทั้งนี้ จีนเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญที่สุดของกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะการยกระดับทางอุตสาหกรรมและการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีนส่งอิทธิพลต่อกลุ่มประเทศอาเซียนในวงกว้าง ด้านความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีจีน-อาเซียน ได้ส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/763294