สปป.ลาว,จีน ร่วมเป็นหุ้นส่วนการปรับปรุงคุณภาพอาหาร

สปป.ลาววางแผนที่จะเปิดศูนย์แห่งชาติในปีนี้เพื่อตรวจสอบและรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่นำเข้าหรือผลิตในประเทศ ซึ่งจะเป็นแห่งแรกในสปป.ลาว โดยอธิบดีกรมมาตรฐานและมาตรวิทยาภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและประธาน Tech Food of China ร่วมลงนาม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่ของใบรับรองมาตรฐานแห่งชาติแห่งชาติและศูนย์ตรวจสอบคุณภาพเข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลง หากเสร็จสิ้นการก่อสร้างศูนย์แห่งชาติในปี 63 ศูนย์แห่งใหม่นี้จะมีอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยและพนักงานที่มีคุณภาพสูงซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจว่าผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภทจะถูกตรวจสอบหาสารเคมีที่ไม่ต้องการ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมสินค้าที่ผลิตแบบออร์แกนิกและเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารให้กับประชาชน ศูนย์จะสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น กระทรวงกำลังทำงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถของพนักงานในสาขาเพื่อให้สามารถแนะนำการตรวจสอบคุณภาพอาหารมากขึ้นและมอบใบรับรองให้กับธุรกิจที่ตรงตามมาตรฐาน เป้าหมายอีกประการหนึ่งของกระทรวงคือการร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือด้านการระดมทุนและการแลกเปลี่ยนบุคลากรเรื่องมาตรฐานเพื่อรับประกันและปรับปรุงคุณภาพในทุกภาคส่วนเนื่องจากสปป.ลาวมีพนักงานที่มีคุณสมบัติไม่เพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos126.php

นักลงทุนจากประเทศจีนกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในกัมพูชา

Ruifeng Tianfu Investment บริษัท สัญชาติจีน และคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (SECC) กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในอนาคต โดยข้อเสนอดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วพร้อมกับการหารืออย่างจริงจังระหว่าง SECC และ Ruifeng Tianfu Investments จากประเทศจีน ภายใต้บันทึกความเข้าใจในการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกัน ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ 2 ประเภท คือสินค้าที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (เช่นทองคำ) สำหรับระยะเริ่มต้น และสินค้าที่ไม่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (เช่นสินค้าเกษตร) ในระยะต่อมา โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าถือเป็นเป้าหมายของ SECC ที่ถือเป็นช่องทางใหม่สำหรับสินค้าเกษตรที่จะเข้าร่วมในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางให้กับสินค้าภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50738847/ruifeng-tianfu-investments-from-china-to-conduct-feasibility-study-on-commodity-futures-trading-in-cambodia/

เวียดนามได้รับสัญญาเชิงบวกจากการส่งออกลิ้นจี่สดไปยังจีน ผ่านชายแดน

ปริมาณการส่งออกลิ้นจี่สดของเวียดนามไปยังประเทศจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านด่านชายแดนเตินแท็งห์ (Tan Thanh) จ.หลั่นเซิน (Lang Son) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นับว่าเป็นสัญญาเชิงบวกแก่ผู้ประกอบการและชาวเกษตรกร เป็นต้น จ.หลั่นเซิน ชี้ว่าจำนวนยานพาหนะขนส่งลิ้นจี่สดเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ผ่านด่านชานแดนเตินแท็งห์ เมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นฤดูเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ ข้อมูลทางสถิติของกรมศุลกากร ระบุว่าปริมาณส่งออกลิ้นจี่สดไปยังประเทศจีน อยู่ที่ 13,500 ตัน ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ในปัจจุบันหน่วยงานรัฐบาลได้วางมาตรฐานสำหรับการเพาะปลูกลิ้นจี่แก่คู่ค้าชาวจีน เพื่อที่จะป้องกันการแพร่ระบาคของไวรัสโควิด-19 และให้สอดคล้องกับกฎระเบียบในปัจจุบัน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/positive-signs-for-fresh-lychee-exports-to-china-via-border-gates-415044.vov

โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน คืบหน้าไปกว่า 90 %

นายบุญทองพิชิตผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองและหัวหน้าหน่วยต่อต้านการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลได้นำคณะผู้แทนกระทรวงคมนาคมและกระทรวงโยธาธิการ เข้าตรวจความคีบหน้าในโครงการรถไฟลาว – ​​จีน Xiaa Qianwen CEO บริษัท รถไฟลาว – ​​จีนรายงานความคืบหน้าการก่อสร้าง รถไฟลาว – ​​จีน ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 คืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ของงานโดยรวม ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่แล้วเสร็จจะประกอบด้วยอุโมงค์ 75 สะพาน 164 แห่ง โดยเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่เริ่มต้นจากห้วยน้ำเย็นอำเภอนาดีทอนนครหลวงเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง ความยาวรวม 409 ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวยังมีโครงการอื่นๆที่จะช่วยส่งเสริมด้านคมนาคมของสปป.ลาว โดยโครงการต่างๆ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2564

ที่มา : http://www.pasaxon.org.la/pasaxon-detail.php?p_id=1537&act=politic1-detail

โครงการรถไฟลาว – จีนจะเปิดรับสมัครพนักงานประจำสถานี

โครงการรถไฟฟ้าจะเปิดรับสมัครคนงานที่จะมาทำหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ เมื่อโครงการเสร็จซึ่งมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปลายปี64 ระหว่างนี้ผู้สมัครจะต้องผ่านการอบรมต่างๆจากทั้งทางการจีนและสปป.ลาวก่อนแล้วจึงจะเริ่มงาน โครงการรถไฟฟ้าจีน-สปป.ลาวเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 59 และดำเนินการสร้างมาอย่างต่อเนื่องแม้ในปัจจุบันจะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก็ตามทางผู้รับเหมาก็ได้มีการวางแผนอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้โครงการยังคงเดินต่อไปได้ โดยเสน้ทางรถไฟจะผ่านเมื่องสำคัญของสปป.ลาวและมาสิ้นสุดที่นครหลวงเวียงจันท์ คาดการณ์ว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็นประโยชน์ด้านการขนส่ง การค้าและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้แก่สปป.ลาว ในอีกด้านการเกิดขึ้นยของสถานีรถไฟแต่ละเมืองจะทำให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มทำให้เศรษฐกิจนอกเมืองสำคัญได้รับประโยชน์ไปด้วย

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Recruits100.php

ธุรกิจท่องเที่ยวเมียนมาพร้อมเปิดตัวใหม่

บริษัททัวร์ของเมียนมามากำลังเตรียมที่จะจัดทัวร์อีกครั้งซึ่งถูกระงับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นความพยายามของรัฐในการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดในประเทศในตอนแรก และมาตรการความปลอดภัยจะถูกนำมาใช้กับทั้งแรงงานในภาคท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้สายการบินระหว่างประเทศบางแห่งได้ประกาศให้เที่ยวบินไปย่างกุ้งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเยือนเมียนมาลดลง 44% จากเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ ในปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.36 ล้านคนเพิ่มขึ้นจาก 3.55 ล้านคนในปีที่แล้ว โดยชาวจีนคิดเป็นหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปีที่แล้วและเพิ่มขึ้น 152% จากปีก่อน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-tourism-businesses-prepare-reopen.html

บริษัทจดทะเบียนในจีนได้รับใบอนุญาตให้สร้างสวนพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Risen Energy (กัมพูชา) ผู้ผลิตแผงวงจรจากจีนเพื่อสร้างโซล่าฟาร์มขนาด 60 เมกะวัตต์ (mW) ในจังหวัดพระตะบอง จากข้อมูลของ CDC โครงการดังกล่าวมีเงินลงทุน 50.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 และจดทะเบียนเป็น บริษัท มหาชนของจีนในปี 2010 ในนาม Risen Energy เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการลงทุนโซล่าฟาร์มของ บริษัท ในกัมพูชาเป็นหนึ่งในสี่สวนพลังงานแสงอาทิตย์ที่รัฐบาลอนุมัติในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดเก้าโครงการที่กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่กำลังก่อสร้าง ซึ่งในรายงานของกระทรวงดังกล่าวระบุห้าสวนพลังงานแสงอาทิตย์ในห้ารวมทั้งโครงการพระตะบองกำลังมีการเร่งการก่อสร้างเพื่อให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับกริดแห่งชาติภายในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50726630/listed-chinese-firm-licensed-to-build-another-solar-park/

สปป.ลาวร่วมมือจีนฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยว

สถาบันสื่อมวลชนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวภายใต้กระทรวงข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจะร่วมมือกับ บริษัท เสิ่นเจิ้นหว่านเซียงการท่องเที่ยวสื่อ จำกัด ของจีนเพื่อฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของสปป.ลาวและจะมีพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคการท่องเที่ยว สปป.ลาวและจีนจะร่วมกันจัดหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับบุคลากรการท่องเที่ยวในระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว โปรแกรมการฝึกอบรมจะเน้นการสอนไกด์นำเที่ยวสปป.ลาวพื้นฐานเป็นภาษาจีนเพื่อให้สามารถนำกลุ่มทัวร์จีนได้การฝึกอบรมดังกล่าวถือเป็นการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวและสร้างขีดความสามารถด้านทรัพยากรมนุษย์ของสปป.ลาวรวมถึงการสร้างโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมายังสปป.ลาว ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นนักท่องเที่ยวหลักของสปป.ลาว การพัฒนาไกด์จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สปป.ลาวมีการเติบโตเพิ่มขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_China_98.php

พาณิชย์-เอกชนจับตาความขัดแย้งสหรัฐ-จีน

พาณิชย์-เอกชน เตรียมแผนปรับทัพส่งออก รับมือสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ปะทุรอบใหม่  ชี้โลก เดาใจ “ทรัมป์” ยาก แต่คาดใกล้ช่วงเลือกตั้งปธน กระทรวงและภาคเอกชนอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีน จนเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ และจะมีการจัดทำแผนในการผลักดันส่งออกร่วมกันเพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาภาคส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าแล้ว และในปี 63 ก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19 ตอนนี้ภาคเอกชนกำลังติดตามความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีนอย่างใกล้ชิด แต่เชื่อว่าไทยมีโอกาสที่ได้รับประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องของการค้าและการลงทุนมากเช่นกัน โดยเฉพาะโอกาสที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นซับพลายเซนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มั่นคงของโลกได้ เพราะในระยะหลังมีผู้ประกอบการจากจีนเริ่มย้ายฐานการผลิตมาไทยและอาเซียนจำนวนมากเพื่อป้อนชิ้นส่วนและวัตถุดิบให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนและประเทศต่าง ๆ ช่วงหลังจีนกับประเทศตะวันตกทั้งสหรัฐและยุโรปมีปัญหากันหลังจากที่เกิดการระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสหรัฐที่กล่าวหาจีนมาเป็นต้นเหตุในการทำให้เกิดการระบาดจนมีความขัดแย้งต่อเนื่อง ดังนั้นจีนต้องหาพันธมิตรในอาเซียนและประเทศใกล้เคียงมากขึ้น เห็นจากที่ผ่านมาไทยขออะไรจีนมักได้ง่ายๆหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเปิดด่านในการส่งสินค้าเกษตรไทยไปจีน ก็ได้รับความสะดวกรวดเร็วผิดกับครั้งก่อนๆ จนทำให้สินค้าเกษตรไทยหลายตัวสามารถส่งออกไปจีนได้เพิ่ม เช่น ทุเรียน แม้จะเจอปัญหาระบาดโควิด-19 แต่ก็มีล้งจีนเข้ามากว้างซื้อทุเรียนไทยมากกว่าเดิมอีกเพื่อนำไปจำหน่ายในตลาดจีน  

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/775916

รถไฟลาว จีนบรรลุเป้าหมายในการก่อสร้าง

การก่อสร้างทางรถไฟลาว – ​​จีนได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2559 และมีเป้าหมายจะแล้วเสร็จในปลายปี 2563 แต่มีความกังวลจากความคืบหน้าของโครงการที่ไม่น่าพอใจ จากสถานการณ์การระบาดของโรคระบาด COVID-19  อย่างไรก็ตามรัฐบาลสปป.ลาวมั่นใจว่างานก่อสร้างโดยรวมของรถไฟลาว – ​​จีนจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ บริษัท รถไฟลาว – ​​จีน จำกัดที่เป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างดังกล่าวจี้แจ้งว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่มีความคล่องตัวมากนักในการก่อสร้างทำให้อาจมีการล่าช้ากว่ากำหนด แต่อย่างไรก็ตามในวันที่7 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องการก่อสร้างกับทางรัฐบาลสปป.ลาวทำให้ในขณะนี้การก่อสร้างสามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น และจะเร่งให้ทันตามกำหนดการส่งมอบแก่รัฐบาลสปป.ลาว รถไฟขบวนนี้จะใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศจีนและระบบเทคนิคทั้งหมดของจีนโดยความเร็วจะสูงถึง 160 กม. / ชม. ซึ่งเป็นรถไฟไฟฟ้าที่ขนส่งสินค้าและผู้โดยสารขนส่งสินค้าด้วยกัน เป็นประโยชน์ต่อการส่ออกของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวไปด้วย

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/13/78008/