ธนาคารแห่ง สปป.ลาว คาดเงินเฟ้อยังมีระดับสูงตลอดทั้งปี 67

นายบุญเหลือ สินชัยวรวงศ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว (BOL) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อ สปป.ลาว จะยังคงมีระดับสูงจนถึงสิ้นปี 2567 ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะลดอัตราเงินเฟ้อลงเหลือตัวเลขหลักเดียวภายในปีนี้ โดยในเดือนเมษายน 2567 อัตราเงินเฟ้อของ สปป.ลาว อยู่ที่ 24.92% ปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ทั้งราคาเชื้อเพลิง ก๊าซ และสินค้านำเข้า การอ่อนค่าของเงินกีบ เมื่อเทียบกับเงินบาทไทยและดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สถานการณ์ยุ่งยากยิ่งขึ้น โดยทำให้ยากต่อการรักษาราคาสินค้านำเข้าให้ต่ำ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/05/23/inflation-in-laos-to-remain-high-all-year-long-bank-of-laos-says/

ค่าจ้างขั้นต่ำใน สปป.ลาว ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากขึ้น

ค่าแรงขั้นต่ำใน สปป.ลาวปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 ล้าน กีบ หรือประมาณ 75 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากอัตราก่อนหน้าที่มีค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 1.3 ล้านกีบ หรือประมาณ 61 ดอลลาร์สหรัฐ โดยแรงงานบางส่วนได้สะท้อนว่าไม่สมดุลกับค่าครองชีพ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าน้ำมันและค่าอาหาร รวมๆ กันต้องใช้เงินกว่า 3 ล้านกีบ ทำให้ค่าจ้างที่ได้ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ นอกจากนี้ ค่าแรงขั้นต่ำ สปป.ลาว ยังมีระดับท้ายๆ ของประเทศในอาเซียน ทำให้เกิดการไหลออกของจำนวนแรงงาน จนทำให้แรงงานในประเทศมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ยังทำให้จำนวนนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่เรียนจบมีจำนวนลดลง ซึ่งจะส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาประเทศ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/05/17/inadequate-minimum-wage-deepens-economic-woes-in-laos-fueling-labor-shortages-school-dropouts/

สปป.ลาว คาด จีดีพี ปี 2567 โตได้ 4.7% ท่ามกลางความท้าทายหลายประการ

การประชุมผู้บริหารพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ครั้งที่ 8 โดยมีนายทองลุด สีสุลิด เลขาธิการพรรคและประธานพรรคฯ เป็นประธานในที่ประชุม ได้พูดคุยถึงเศรษฐกิจของ สปป.ลาว โดยคาดว่าจีดีพีจะเติบโตที่ 4.7% ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วท่ามกลางความท้าทายอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยภาคอุตสาหกรรมและบริการการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นพร้อมกับการผลิตที่เพิ่มขึ้น มีส่วนสนับสนุนเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ สำหรับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ในประเทศลาว และสั่งให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อในระดับสูง การอ่อนค่าของเงินกีบ และต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงการเงินและปัญหาทางเศรษฐกิจ  แม้จะมีข้อกังวลนี้ แต่ธุรกิจต่างๆ ก็เริ่มขึ้นราคาหลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% ที่มีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยแตะ 24.92% ในเดือนเมษายน แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยจาก 24.98% ในเดือนมีนาคม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_94_Economy_y24.php

ผู้ประกอบการท่าเรือบก สปป.ลาว – ทางการมณฑลยูนนาน หารือปรับปรุงระบบขนส่งข้ามพรมแดน

ผู้ประกอบการท่าเรือบกและศูนย์โลจิสติกส์แห่งเวียงจันทน์ และคณะผู้แทนจากมณฑลยูนนานของจีน จัดการเจรจาเรื่องการปรับปรุงระบบขนส่งทางรางและการค้าข้ามพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศ โดยนายหลิว หงเจียน สมาชิกคณะกรรมการประจำคณะกรรมการพรรคมณฑลยูนนาน และเลขาธิการคณะกรรมการเทศบาลคุนหมิง นำคณะเยี่ยมชมศูนย์โลจิสติกส์บูรณาการของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นจุดที่เส้นทางรถไฟลาว-จีน และลาว-ไทยมาบรรจบกัน โดยโครงการ Lao Logistics Link มีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองต่อความพยายามของรัฐบาล สปป.ลาว ในการเปลี่ยนประเทศลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้กลายเป็นประเทศเชื่อมโยงการขนส่งทางบก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_92_Lao_y24.php

รถไฟลาว-ไทย เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมทดลองวิ่ง

สปป.ลาวและไทยได้เริ่มทดลองใช้บริการรถไฟข้ามพรมแดนใหม่ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะประกาศภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งชาติลาว ภายใต้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การทดสอบจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 ถึง 17 พฤษภาคม 2567 จากสถานีรถไฟท่านาเล้งถึงสถานีเวียงจันทน์ ใน สปป.ลาว หลังจากการทดลองวิ่งครั้งแรกนี้ การทดสอบจะขยายเพิ่มเติมจากสถานีรถไฟอุดรธานีและสถานีหนองคายในประเทศไทย ไปยังสถานีรถไฟท่านาเล้งและสถานีคำสะวาทของลาว ตั้งแต่วันที่ 18-20 พฤษภาคม 2567 รถไฟลาว-ไทย และรถไฟลาว-จีน เป็นองค์ประกอบสำคัญของเครือข่ายรถไฟระดับภูมิภาคที่มุ่งเชื่อมโยงจีนกับสิงคโปร์ผ่านลาว ไทย และมาเลเซีย

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/05/15/laos-thailand-railway-prepares-for-official-opening-with-trial-runs/

บริษัท สปป.ลาว-ไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนด้านพลังงานสะอาด

รัฐบาล สปป.ลาว และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) จากประเทศไทย ร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Super Holding Company เพื่อบริหารจัดการธุรกิจพลังงานสะอาดขนาดกว่า 7GW สู่เป้าหมายของประเทศลาวที่ต้องการเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย” โดยบริษัทร่วมทุนจะดำเนินการดูแลจัดการและการกระจายพลังงานสะอาดจากส่วนกลาง ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้า และขับเคลื่อนความคิดริเริ่มการเติบโตที่ยั่งยืนของประเทศลาว ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้จากธุรกิจพลังงานสะอาดภายใน 3 ปี ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบ อำนวยความสะดวกในการพัฒนาโซลูชั่นการจัดเก็บพลังงาน นำเสนอโซลูชั่นยานยนต์ไฟฟ้า และลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติมเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายระดับชาติ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_91_LaosThai_y24.php