เอกอัครราชทูตจีน ย้ำขอความร่วมมือกับเมียนมา ปราบปรามการทุจริต

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายเฉิน ไห่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเมียนมา ได้เข้าพบกับนาย โซ ทุต รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของเมียนมา นับเป็นการหารือครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน เพื่อประสานจุดยืนในการปราบปรามการทุจริตด้านโทรคมนาคมจากการหลอกล่วงชาวจีน เอกอัคราชทูตจีนได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของการปราบปรามกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย รวมไปถึงการปราบปรามการทุจริตทางโทรคมนาคมตามแนวชายแดนเมียน-จีน อย่างไรก็ดีควรมีความมุ่งมั่นและดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อขจัดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ให้หมดไป ซึ่งไม่เพียงก่อให้เกิดอันตรายต่อสาธารณะเท่านั้น แต่ต่อสังคมในวงกว้างอีกด้วย

ที่มา : http://en.people.cn/n3/2023/0601/c90000-20026414.html

“โคคา-โคล่า” ประกาศแต่งตั้ง ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาว คนใหม่

บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง นายวิกเตอร์ หว่อง เป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานฝ่ายธุรกิจแฟรนไชส์ประจำประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาว เดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี นายวิกเตอร์ จะเข้ามาดูแลภาพรวมพร้อมกำหนดทิศทางกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจให้กับ “โคคา-โคล่า” ทั้งในประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาว ด้วยประสบการณ์การทำงานกว่า 22 ปี กับ เดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี ก่อนเข้ารับตำแหน่งล่าสุด นายวิกเตอร์ เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธุรกิจพันธมิตรผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “โคคา-โคล่า” ในประเทศเมียนมา นายวิกเตอร์เริ่มต้นเส้นทางการทำงานกับ “โคคา-โคล่า” ที่ประเทศจีน โดยได้รับผิดชอบดูแลงานหลากหลายภาคส่วนและพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งการบริหารจัดการ กลยุทธ์องค์กร การจัดจำหน่าย การดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทาน การตลาดของแบรนด์ ตลอดจนการดำเนินงานหลังการควบรวมกิจการ ทั้งนี้ นายวิกเตอร์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก โดยจะประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ กับครอบครัวในระยะเวลาที่เข้ารับตำแหน่งดังกล่าว

ที่มา : https://www.thaipr.net/en/business_en/3342737

‘งานแสดงสินค้าเมียนมา-จีน’ ดันการดำเนินธุรกิจของบริษัทเมียนมา

การจัดงานแสดงสินค้าเมียนมา-จีน ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค.จัดขึ้นที่กรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมา โดยเป็นการดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั้งสองประเทศและการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทั้งสินค้าเกษตร อาหาร น้ำอัดลม ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัวเรือน และยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ทางด้านคุณ U Khin Aung Thet ผู้จัดการบริษัท Six Six Eight Co. Ltd. ได้ร่วมลงนามข้อตกลงกับบริษัทจีนและมองว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างโอกาสให้กับบริษัทที่จะขายถั่วและถั่วพัลส์ไปยังตลาดจีน ซึ่งงานแสดงสินค้ามีความสำคัญอย่างมากต่อบริษัทในการหาลูกค้า ในขณะที่คุณ Daw Cho Cho Aye เจ้าของร้านหยกและเครื่องประดับของบริษัท Myat San กล่าวว่าบริษัทมีความต้องการที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อที่จะนำเสนอสินค้าครั้งแรกที่งานแสดงสินค้าในฐานะความร่วมมือระหว่างจีนและเมียนมา

ที่มา : https://english.news.cn/asiapacific/20230530/b3e8edcbefd7435cbd3ed7f9e835dc30/c.html

ความรู้สึกต่อต้านจีนพุ่งสูงขึ้นในเมียนมา หลังกระแสการประท้วงและการโจมตี

นาย ฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน หารือกับนาย มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นับเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนพบปะกับผู้นำรัฐบาลเมียนมา ตั้งแต่รัฐประหารในปี 2564 โดยการเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศในครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงมิตรภาพระหว่างเมียนมาและจีน แต่ยังสนับสนุนรัฐบาลปักกิ่งในเวทีโลก และหวังว่าเมียนมาและจีนจะคงรักษามิตรภาพ “ฉันพี่น้อง” ที่ยาวนาน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. เกิดการประท้วงในต่างประเทศ โดยชาวเมียนมาที่ชุมนุมประท้วงนอกสถานทูตจีนในลอนดอน ได้ชูป้ายที่มีข้อความว่าจีนช่วยให้กองทัพละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน รัฐบาลทหารของเมียนมาเป็นองค์กรก่อการร้าย หยุดสนับสนุนผู้ก่อการร้ายและทรัพยากรของเมียนมาไม่ใช่ของจีน นอกจากนี้ คณะประสานงานการหยุดงานประท้วง (GSCB) ซึ่งเป็นเครือข่ายของกองกำลังต่อต้านรัฐบาลเมียนมายังได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงชุมชนชาวจีนทั่วโลก ขอให้รัฐบาลจีนหยุดสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาและแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชนชาวเมียนมา

ที่มา : https://www.irrawaddy.com/news/burma/anti-china-sentiment-surges-in-myanmar-with-wave-of-protests-and-attacks.html

‘อาเซียน’ ส่งสิ่งของช่วยเหลือเมียนมา บรรเทาทุกข์เหยื่อจากพายุไซโคลนโมคา

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นำส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินของอาเซียน (DELSA) ได้อนุมัติวงเงินช่วยเหลือแก่เมียนมา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน ‘โมคา’ ทั้งนี้ จากการประเมินผลกระทบเบื้องต้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่ามีความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของสาธารณะ รวมถึงมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 145 คน บาดเจ็บไปกว่า 131 คน และผู้คน 912,000 คน ต้องอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ทั้งนี้ นายเกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน แสดงความเสียใจต่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอาเซียน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501297944/asean-delivers-relief-supplies-to-myanmar-to-help-victims-of-cyclone-mocha/

‘อุตฯ เมียนมา’ เผยเดือน เม.ย. ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการบริหารจัดการของเมียนมา (DICA) เปิดเผยข้อมูลทางสถิติในเดือน เม.ย. 2566 ว่าภาคอุตสาหกรรมของเมียนมาดึงดูดเงินลงทุนกว่า 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการปรับเพิ่มเงินลงทุนจากผู้ประกอบการในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการจีนรายหนึ่งที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมของเมียนมา ด้วยมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมทั้งสิ้น 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2565-2566 (เม.ย.-มี.ค.) การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 271.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมกระจุกตัวอยู่ในสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอ มีโรงงานผลิตกว่า 541 แห่งที่อยู่ภายใต้สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-manufacturing-sector-attracts-3-7-mln-in-april/#article-title

‘อาเซียน’ จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับเมียนมา

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม การประชุมผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนครั้งที่ 42 ที่เมืองลาบวน บาโจ ประเทศอินโดนีเซีย โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย กล่าวว่าไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับวิกฤตเมียนมาร์ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งล่าสุด เห็นได้ชัดว่ารู้สึกผิดหวังที่ความพยายามของผู้นำอาเซียนไม่ได้มีผลตามที่ต้องการ อย่างไรก็ดี นางเริตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย มองไปในทิศทางที่ดีมากกว่าถึงความคืบหน้าในการเข้าช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและอยู่ในช่วงเจรจากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่บทเรียนสำคัญของประธานาธิบดีอินโดนีเซียที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือ การจัดการกับความขัดแย้งในเมียนมา ทั้งการใช้กำลัง ความกล้าหาญ สติปัญญาและวิสัยทัศน์ของกลุ่มไปพร้อมๆ กัน ซึ่งช่วยให้สามารถเล่นบทเบาหรือหนักได้ในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิกอาเซียนบางประเทศ เมียนมาล้มเหลวในการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ประการ (5PC) ดังนั้น กลุ่มอาเซียนจึงยืนหยัดที่จะป้องกันไม่ให้ผู้นำเมียนมาเข้าร่วมการประชุมทางการเมือง ตลอดจนอาเซียนเรียกร้องให้เมียนมายุติความรุนแรงทุกรูปแบบ

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/opinion/opinion/2576274/asean-must-reengage-with-myanmar

“รัฐบาลไทย” ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาลไทย มอบความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน “โมคา” และได้แสดงความเสียใจแก่ชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนในครั้งนี้ และหวังว่าชาวเมียนมาจะฟื้นตัวจากช่วงเวลาที่ยากลำบากได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่นายอูชิซเว (H.E. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมา และยังกล่าวเสริมว่ามี 18 เมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุไซโคลน โดยกองทัพและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นเร่งทำการช่วยเหลือผู้คน

ที่มา : https://tna.mcot.net/english-news-1176401

งานแสดงสินค้าชายแดนเมียนมา-จีน จัดขึ้นที่เมืองเนปิดอว์

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ระบุว่าการจัดงานแสดงสินค้าชายแดนจีน-เมียนมา จัดขึ้นที่เมืองเนปิดอว์ โดยงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศและยกระดับความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้าน งานแสดงสินค้าจะมีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน รวมถึงมีร้านค้าจากประเทศจีน 40 ร้าน และอีกประมาณ 70 ร้านมาจากเมียนมา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจีนได้นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กาแฟและชา แมคคาเดเมีย อาหารสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัวและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ในขณะที่เมียนมานำเสนอสินค้า ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME)

ที่มา : https://english.news.cn/20230520/db4afc67d0894fa795d0726bc53bac2a/c.html

ผู้เชี่ยวชาญ UN ชี้กองทัพเมียนมานำเข้าอาวุธจากจีน-รัสเซีย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่รัฐประหาร

กองทัพเมียนมานำเข้าอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ อย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564 ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ (UN) กล่าวตามรายงานฉบับใหม่ที่เรียกร้องให้รัสเซียและจีนทำการช่วยเหลือฝ่ายต่อต้านที่เผชิญกับรัฐบาลทหารของเมียนมา ทั้งนี้ ทอม แอนดรูวส์ ผู้สื่อข่าวพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ Mi-35, เครื่องบินรบไอพ่น MiG-29 และเครื่องบินแบบเบา Yak-130 ที่ผลิตในรัสเซีย และเครื่องบินไอพ่น K-8 ของจีน ถูกนำมาใช้ในการโจมตีทางอากาศที่โรงเรียน สถานพยาบาลและสิ่งก่อสร้างของพลเรือนหลายแห่ง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็น ยังเปิดเผยข้อมูลการค้าว่ามีการถ่ายโอนของอาวุธกองทัพและสินค้าอื่นๆ รวมถึงวัตถุดิบที่กองทัพเมียนมาใช้ในการผลิต นับตั้งแต่มีการรัฐประหารพบว่ามีการถ่ายโอนอาวุธจากรัสเซียเป็นมูลค่ากว่า 406 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากจีน 267 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.scmp.com/news/asia/southeast-asia/article/3220940/un-expert-says-myanmar-military-imported-us1-billion-weapons-china-russia-and-others-coup