รถไฟลาว จีนบรรลุเป้าหมายในการก่อสร้าง

การก่อสร้างทางรถไฟลาว – ​​จีนได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2559 และมีเป้าหมายจะแล้วเสร็จในปลายปี 2563 แต่มีความกังวลจากความคืบหน้าของโครงการที่ไม่น่าพอใจ จากสถานการณ์การระบาดของโรคระบาด COVID-19  อย่างไรก็ตามรัฐบาลสปป.ลาวมั่นใจว่างานก่อสร้างโดยรวมของรถไฟลาว – ​​จีนจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ บริษัท รถไฟลาว – ​​จีน จำกัดที่เป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างดังกล่าวจี้แจ้งว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่มีความคล่องตัวมากนักในการก่อสร้างทำให้อาจมีการล่าช้ากว่ากำหนด แต่อย่างไรก็ตามในวันที่7 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องการก่อสร้างกับทางรัฐบาลสปป.ลาวทำให้ในขณะนี้การก่อสร้างสามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น และจะเร่งให้ทันตามกำหนดการส่งมอบแก่รัฐบาลสปป.ลาว รถไฟขบวนนี้จะใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศจีนและระบบเทคนิคทั้งหมดของจีนโดยความเร็วจะสูงถึง 160 กม. / ชม. ซึ่งเป็นรถไฟไฟฟ้าที่ขนส่งสินค้าและผู้โดยสารขนส่งสินค้าด้วยกัน เป็นประโยชน์ต่อการส่ออกของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวไปด้วย

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/13/78008/

ธนาคารกลางของเมียนมาขยายเวลาทำการธนาคารเพื่อลดความแออัด

ธนาคารกลางของเมียนมา (CBM) ได้ขยายชั่วโมงการทำการของธนาคารเป็นเวลา 9.30 น. – 15.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 63 หลังจากที่ภาคธุรกิจและประชาชนเรียกร้องให้พิจารณาขยายเวลาทำการในปัจจุบัน โดยเมื่อวันที่ 28 เมษายน 63 CBM ได้สั่งให้ธนาคารท้องถิ่นเปิดทำการตั้งแต่ 10.00 น. – 14.00 น. เพื่อลดความแออัดและเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 แต่เนื่องด้วยเวลาที่ถูกเร่งรัดมากเกินไปทำให้ประชาชนและนักธุรกิจต้องเร่งรีบมากขึ้นจนทำให้เกิดความแออัดมากขึ้นกว่าเดิม

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-central-bank-reinstates-banking-hours-after-complaints-emerge.html

เวียดนามคาดส่งออกกุ้งสูงถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563

สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) คาดการณ์ว่ายอดส่งออกกุ้งในปีนี้สูงถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แทนที่คาดการณ์ในครั้งก่อนอยู่เพียง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องมาจากได้รับสัญญาเชิงบวก แม้ว่าจะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าส่งออกกุ้งอยู่ที่ 628.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญบางแห่ง เริ่มมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นและสหรัฐฯ หากจำแนกรายประเทศ พบว่าญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21 ของยอดส่งออกกุ้งรวมของเวียดนาม ในขณะที่ สหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 2 ของตลาดส่งออกกุ้งรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น รวมทั้งกุ้ง ท่ามกลางการระบาดอย่างหนัก ทั้งนี้ เลขาธิการของสมาคมฯ กล่าวว่ารัฐบาลเวียดนามสามารถควบคุมเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเปิดโอกาสให้ส่งออกกุ้งไปยังต่างประเทศได้ ถึงแม้ยังไม่สามารถประเมินว่าเมื่อไรการระบาดจะสิ้นสุดลง แต่ความต้องการกุ้งสูงมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-shrimp-exports-forecast-to-reach-38-billion-usd-in-2020/173163.vnp

เวียดนามเกินดุลการค้าช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ 3.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามเกินดุลการค้าสูงถึง 3.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ ในช่วงเดือนม.ค.–เม.ย. ยอดส่งออกรวมของเวียดนามอยู่ที่ 82,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าส่งออกมากที่สุด ได้แก่ เครื่องจักรและชิ้นส่วน (29.6%), คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ (28.6%), ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ (10.1%), รองเท้า (1.3%) และโทรศัพท์และชิ้นส่วน (1.1%) โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีมูลค่าอยู่ที่ 20.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 รองลงมาจีน (26.7%) และญี่ปุ่น (10.1%) ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 79.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ กล่าวว่าหลังจากช่วงไตรมาสแรกอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แต่เมื่อเดือนเม.ย. กิจกรรมการค้าของเวียดนามเริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้มูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 18.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน คิดเป็นมูลค่า 19.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-enjoys-trade-surplus-of-304-bln-usd-in-first-four-months/173161.vnp

รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเดินกิจการได้ปกติเปิดใหม่

รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเดินกิจการได้ปกติเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ผู้จัดการโครงการและธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดการแพร่กระจายของ Covid-19 อย่างเคร่งครัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนดร. Kikeo Chanthaboury ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะทำงานเฉพาะกิจที่รับผิดชอบในการจัดการกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของ Covid- กล่าวว่า ” โครงการเหมืองแร่ 20 แห่ง, โครงการไฟฟ้า 13 แห่ง, โครงการรถไฟและทางด่วน, โรงงาน 20 แห่งในเขตพัฒนาที่ครอบคลุม ไชเชษฐาโรงงานเก้าแห่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ สะหวัน-เซโน และโรงงาน 4 แห่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษจำปาสักสามารถดำเนินการต่อได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโต” สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติและศูนย์สถิติแห่งชาติสปป.ลาวคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วง 3.3-3.6% ในปีนี้ซึ่งการคาดการณ์ใหม่นี้ถือเป็นอัตราที่ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ถึง 7.2% ในปีนี้ลดลงมา 5.9% ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นแล้ว รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและเข้าสู่แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจในแต่ละด้านต่อไป

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt89.php

‘ฮอนด้าเวียดนาม’ เผยยอดขายในเดือน เม.ย. ดิ่งลงฮวบ

เหงียน ฮุย จุง (Nguyen Huy Trung) หัวหน้าแผนกความสัมพันธ์ภายนอกองค์กร เผยว่ายอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ลดลงร้อยละ 72 และ 52 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการระบาดดังกล่าวส่งผลให้ผู้ผลิตต้องระงับการผลิต ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 22 เม.ย. ยิ่งไปกว่านั้น ตัวแทนจำหน่ายก็ต้องตกงาน สาเหตุจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) สำหรับยอดขายรถจักรยานยนต์ในเดือนนี้ อยู่ที่ 61,752 คัน และรถยนต์ 843 คัน ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่าเมื่อปลายเดือนเม.ย. กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) ได้รับคำเสนอมาแล้วเกี่ยวกับการดำเนินงานและคำแนะนำถึงปัญหาที่ผู้ผลิตรถยนต์เผชิญจากผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/honda-vietnams-sales-plummet-in-april-413580.vov

ท่าเรือใหม่จะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวของกัมพูชา

การก่อสร้างท่าเรือสำหรับการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดกัมปอตเสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า 30% และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปีตามที่สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดกัมปอตได้รายงานไว้ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้วงเงิน 8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งท่าเรือแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดและจะมอบผลประโยชน์ทางด้านต่าง ๆ ให้กับชาวกัมปอต อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีการระบาดของ COVID-19 โครงการจึงล่าช้าออกไป ท่าเรือแห่งนี้จะอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปตามชายฝั่งกัมพูชาและเพิ่มการไหลเวียนของนักท่องเที่ยวจากประเทศเวียดนามและประเทศไทย จากการศึกษาท่าเรือท่องเที่ยวจะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 4,000 คนต่อวันที่ต้องการเดินทางผ่านจังหวัดกำปอต โดยปีที่ผ่านมาจังหวัดกำปอตได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1.6 ล้านคนทั้งในและต่างประเทศ ในจำนวนนั้น 10% เป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศและส่วนใหญ่มาจากเวียดนาม สหภาพยุโรปและเอเชียแปซิฟิก ปัจจุบันกำปอตมีแหล่งท่องเที่ยว 17 แห่ง ชุมชนท่องเที่ยว 4 แห่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50721748/new-port-will-boost-tourism/

เที่ยวบินปกติในกัมพูชายังไม่ถูกยกเลิก

ผู้ดำเนินการสายการบินของกัมพูชากล่าวว่าการเดินทางทางอากาศในท้องถิ่นจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีในการฟื้นฟูหลังจากการระบาดสิ้นสุดลงตามคำกล่าวของประธาน บริษัท กัมพูชาอังกอร์แอร์ โดยกล่าวว่าทางสายการบินได้รับผลกระทบจากการระของ COVID-19 ซึ่งอังกอร์แอร์ให้บริการเพียงหนึ่งเที่ยวบินภายในสองวันระหว่างพนมเปญและเสียมเรียบ โดยบริษัทได้เตรียมทรัพยากรเพื่อดำเนินการต่อทันทีเมื่อการระบาดใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งบริษัทประมาณการว่าการเดินทางทางอากาศในท้องถิ่นจะใช้เวลาอย่างน้อย 12 ถึง 15 เดือนในการฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ โดยการเดินทางโดยเครื่องบินขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ แต่ตอนนี้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวทรุดตัวลงเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะสูญเสียทรัพยากรไปแต่ทางบริษัท ไม่สามารถปิดเที่ยวบินได้เพราะต้องการให้เที่ยวบินดำเนินต่อไป โดยสายการบินในภูมิภาคอื่น ๆ เริ่มทยอยนำเที่ยวบินสู่สนามบินนานาชาติของกัมพูชาในเดือนนี้อย่างช้าๆ ภายใต้แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเข้มงวด ตามรายงานของกระทรวงมีนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 1.4 ล้านคนในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 38% มาอยู่ที่ 1.15 ล้านคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50721798/regular-air-travel-not-lifting-off/

การท่องเที่ยวเมียนมาคาดฟื้นตัวได้ดีสุดในอีกสองปี

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกล่าวว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมียนมาคาดว่าจะปิดตัวลงในช่วงที่เหลือของปีเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 การฟื้นตัวของภาคธุรกิจขึ้นอยู่กับความสามารถของประเทศในการควบคุมการแพร่กระจายของ COVID-19 ในขณะเดียวกันคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยลงในอีกสองปีข้างหน้า แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มดำเนินการอีกครั้งหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ COVID-19 แต่จะมีเพียงนักเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น นักท่องเที่ยวในประเทศอาจกลับมาภายในสิ้นปีนี้ แต่สำหรับทศกาลติงจัน (Thingyan) จะฟื้นตัวในปีหน้า

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/tourism-operators-expect-recovery-two-years-best.html

“โควิด” ฉุดความเชื่อมั่นดิ่งเหว คลายล็อกดาวน์สะพัด 2 แสนล้าน

ดัชนีความเชื่อมั่นไทยติดลบในรอบเกือบ 22 ปี หลังโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก 2563 ติดลบ 10% เข้าสู่ภาวะถดถอยเชิงเทคนิค ส่วนผลการคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 1 ช่วยเงินสะพัด 6-9 หมื่นล้าน ลุ้นเศรษฐกิจฟื้นไตรมาส 4 ายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายน 2563 อยู่ที่ระดับ 47.2 ลดลงจากเดือนมีนาคม 2563 ที่อยู่ในระดับ 50.3 ซึ่งติดลบต่อเนื่องต่ำสุดในรอบ 259 เดือน หรือ 21 ปี 7 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 39.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำอยู่ที่ระดับ 46.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 56.4 โดยเป็นผลจากความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ และรายได้โดยรวม และการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้การรีสตาร์ตธุรกิจส่งผลต่อธุรกิจ การจับจ่ายใช้สอยในประเทศ มาตรการช่วยเหลือของรัฐ การกระตุ้นเศรษฐกิจทางด้านการลงทุน จะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เพราะจากปัญหาปัจจุบัน การล็อกดาวน์ทำให้เม็ดเงินหายไปจากระบบวันละ 10,000 ล้านบาท จากการชะลอจับจ่ายของประชาชนในทุกกลุ่มสินค้า การท่องเที่ยว สินค้าจำเป็น สินค้าฟุ่มเฟือย สำหรับแนวโน้มการปลดล็อกให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นสัญญาณที่น่าจะเกิดขึ้นได้ในไตรมาส 3 และถ้าสถานการณ์ของการปลอดเชื้อโควิด-19 ในเอเชีย และทั้งโลกดีขึ้น คาดว่าไตรมาส 4 นักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเริ่มกลับมา 6 ล้านคน หรือเดือนละประมาณ 2 ล้านคน ขึ้นอยู่กับมาตรการของรัฐ โดยจะทำให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นเร็วขึ้น

ทีมา: https://www.prachachat.net/economy/news-462105