เวียดนามลงทุนใน สปป.ลาวพุ่ง 52.5%

จากรายงานของ VietnamPlus เผย หลังจากการประชุมความร่วมมือด้านการลงทุนของสปป.ลาว และ เวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2565 บริษัทจากเวียดนามลงทุนในสปป.ลาว มีมูลค่าการพุ่งสูงถึง 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 52.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน (2564) ในขณะเดียวกัน บริษัทจากสปป.ลาว ก็เข้าไปลงทุนในเวียดนามจำนวน 10 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในระหว่างการประชุม รัฐบาลสปป.ลาวให้คำมั่นว่าจะสร้างบรรยากาศการค้า การลงทุน และเตรียมเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในประเทศ ซึ่งเวียดนามเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 3 รองจากจีนและไทย ทั้งนี้ ในปี 2564 มีบริษัทจากเวียดนามเข้ามาลงจำนวน 238 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนรวม 5.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Vietnamese10.php

เกาหลีใต้ บริจาคข้าว 1,314 ตัน ให้ชุมชนยากจน ในสปป.ลาว

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ นำโดย นายยุง ซูจอง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีเป็นตัวแทนในการส่งมอบข้าวให้แก่นางเบย์คัม ขัตติยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของสปป.ลาว จำนวน 1,314 ตัน  ณ คลังสินค้าของโครงการอาหารโลก (WFP) ในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในย่านชุมชนยากจนกว่า 100,000 คนทั่วประเทศ โดยการบริจาคในครั้งนี้ จะช่วยเหลือผู้คนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากวิกฤตทางการเงินที่ตึงเครียดและภาวะการขาดแคลนอาหารที่รุนแรงขึ้น ซึ่งนางเบย์คัม ขัตติยา กล่าวในพิธีส่งมอบว่า การบริจาคในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งมักเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ด้านนายยุง ซูจอง กล่าวเสริมด้วยว่า สปป.ลาวได้ประโยชน์จากการสนับสนุนนี้มาตั้งแต่ปี 2564 และเกาหลีใต้ตั้งใจอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และการมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างเกาหลีใต้และประเทศในอาเซียน

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Skorea10.php

สายการบิน สปป.ลาว วางแผนเพิ่มเที่ยวบินสู่จีน

หลังจากประเทศจีนเริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลทำให้สายการบินใน สปป.ลาว มีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินในการให้บริการไปยังเมืองต่างๆ อาทิเช่น จากเวียงจันทน์ไปยังกวางโจว เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ฉางโจว และหางโจว โดยคาดว่าเที่ยวบินจะเริ่มมีการเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม กล่าวโดยนาย Noudeng Chanthaphasouk ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของสายการบิน ซึ่งปัจจุบันสายการบินแห่งชาติให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเวียงจันทน์ไปยังคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนนาน โดยสายการบินยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากหลวงพระบางและจำปาศักดิ์ไปยังประเทศจีนเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากคาดการณ์ว่าความต้องการเดินทางจะพุ่งสูงขึ้นหลังจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ซึ่งหลังจากจีนประกาศเปิดพรมแดนไปเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ในช่วงสองวันแรก (วันอาทิตย์ที่ 8 และวันจันทร์ที่ 9) มีประชาชนมากกว่า 1,200 คนเดินทางผ่านชายแดน สปป.ลาว-จีน ณ จุดผ่านแดนระหว่างประเทศบ่อเต็น-โมฮัน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ถือวีซ่าธุรกิจ นักศึกษา ทูต และประเภทอื่นๆ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Lao08.php

ประชาชนเดินทางผ่านชายแดน สปป.ลาว-จีน แตะ 1.2 พันคน ในช่วง 2 วัน

ทางการ สปป.ลาว กล่าวว่า ประชาชนมากกว่า 1,200 คน เดินทางผ่านชายแดน สปป.ลาว-จีน ณ จุดผ่านแดนระหว่างประเทศบ่อเต็น-โมฮัน ในช่วง 2 วันแรกของสัปดาห์หลังจากจีนเริ่มเปิดพรมแดนอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรทางฝั่งจีนยังไม่อนุญาติให้ผู้ที่มีวีซ่าท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ โดยผู้ถือวีซ่าและบัตรผ่านแดนประเภทอื่นๆ รวมถึงวีซ่าเพื่อธุรกิจ การศึกษา ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทูตและทางการ สามารถข้ามพรมแดนได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) ขณะที่รัฐบาล สปป.ลาว เปิดจุดผ่านแดนระหว่างประเทศทั้งหมดอีกครั้งอย่างเป็นทางการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งดังจำนวนข้างต้นส่วนใหญ่เป็นประชากรจีนที่เป็นผู้ประกอบการนักธุรกิจ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten07_More_y23.php

“รถไฟลาว-จีน” เผยยอดการขนส่งสินค้าแข็งแกร่ง

วันที่ 2 ม.ค. เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรในเมืองคุนหมิง รายงานว่ามีปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟลาว-จีน อยู่ที่ 2.23 ล้านตัน นับตั้งแต่เปิดให้บริการ 13 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันการขนส่งสินค้ามีมูลค่าราว 2.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ หากพิจารณาในเดือนธันวาคม พบว่าศุลกากรคุนหมิงมีการขนย้ายสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออก จำนวนทั้งสิ้น 286,000 ตันที่ผ่านเส้นทางรถไฟ เพิ่มขึ้น 6 เท่าจากเดือนแรกของปี

นอกจากนี้ คุณ Zhang Xianzhou ผู้อำนวยการของธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าตั้งแต่เปิดเส้นทางรถไฟลาว-จีน ปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกของธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพิ่มขึ้นราว 40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจอีกด้วย

ที่มา : https://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=70871

รถไฟจีน-สปป.ลาว ผู้โดยสารพุ่งเกิน 9 ล้านคน

ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2564 รถไฟจีน-สปป.ลาวได้ให้บริการผู้โดยสารไปแล้วกว่า 9 ล้านเที่ยว โดยมีการซื้อตั๋วเดินทางของผู้โดยสารชาวจีนประมาณ 7.54 ล้านเที่ยว ในขณะที่การซื้อตั๋วเดินทางของผู้โดยสารชาวสปป.ลาวอยู่ที่ประมาณ 1.46 ล้านคน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2566 มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันถึง 29,000 คน เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ทำให้การรถไฟจีนได้เพิ่มตู้เพื่อให้รองรับผู้โดยสารเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนีั้ รถไฟจีน-ลาว ถือเป็น ทางรถไฟสายนี้สายสำคัญของระเบียงเศรษฐกิจจีน-อินโดจีน และเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt & Road Initiative — BRI) ที่เชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ เป็นระยะทาง 1,035 กม. โดยเชื่อมต่อกับนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน กับเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสปป.ลาว

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten06_Passenger_y23.php

ธ.ค.65 เงินเฟ้อสปป.ลาว พุ่งขึ้นเป็น 39.3%

เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ม.ค.2566 สำนักงานสถิติสปป.ลาว ได้เผยแพร่รายงานอัตราเงินเฟ้อของประเทศพบว่า พบว่า อัตราเงินเฟ้อในสปป.ลาวเพิ่มขึ้นเป็น 39.3%  เมื่อเทียบกับเเดือนธันวาคม 2564 และมีอัตราสูงสุดในปี 2565 โดยปัจจัยสำคัญมาจากราคาที่สูงขึ้นของหมวดการสื่อสารและการขนส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค และการอ่อนค่าเงินกีบ ซึ่งจากรายงานบ่งชี้ว่าค่าใช้จ่ายในหมวดการสื่อสารและการขนส่งเพิ่มขึ้น 50.4% (YoY) ราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นขึ้น 45.9 % (YoY) ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าทุกประเภททำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อนมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่มีค่าแรงต่ำหรือมีรายได้น้อย

ที่มา: https://english.news.cn/20230108/c764a3747bfb472c9a7fb7321f81b690/c.html

 

แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจลาวอยู่ในระดับสูง แต่การจ้างงานต่ำ

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยรายงานข้อมูลอัปเดตเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาว ในช่วงปี 2543-2561 ขยายตัวเฉลี่ย 7.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และการเติบโตทางการค้าเฉลี่ย 17% ต่อปี แต่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากการค้าและการลงทุนในด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการขุดเจาะและพลังงาน ทั้งนี้ ตามรายงาน Lao Economic Monitor for October 2022: Tackling Macroeconomic Vulnerabilities พบว่าการจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวลดลงจากปี 2555-2561 โดยส่วนใหญ่ได้รับงานจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การจ้างงานนอกภาคเกษตรยังไม่สามารถรองรับกับจำนวนแรงงานเกินที่อยู่ในภาคเกษตรได้ ส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 4.1% ในปี 2555 มาอยู่ที่ 15.7% ในปี 2561 อีกทั้ง ปัญหาความยากจนส่งสัญญาลดลง แต่ยังคงช้ากว่าประเทศอื่น และในอีก 10 ปีข้างหน้า สปป.ลาวจะต้องสร้างงานกว่า 60,000 ตำแหน่งต่อปี เพื่อรองรับกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Despite03.php

สมัชชาแห่งชาติ (NA) ตั้งเป้าเศรษฐกิจ สปป.ลาว โต 4.5% ปีนี้

สมัชชาแห่งชาติ (NA) ตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อยร้อยละ 4.5 ในปี 2023 ตามที่รัฐบาล สปป.ลาว เสนอ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก โดยภาคการเกษตรคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 2.5 คิดเป็นร้อยละ 17.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตที่ร้อยละ 5 คิดเป็นร้อยละ 34.2 ของ GDP ภาคบริการคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.7 คิดเป็นร้อยละ 37.5 ของ GDP ในขณะที่การจัดเก็บภาษีคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.3 คิดเป็นร้อยละ 11.1 ของ GDP ซึ่งมูลค่าของ GDP คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 234,160 พันล้านกีบภายในสิ้นปีนี้ โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 1,625 ดอลลาร์ และรายได้มวลรวมประชาชาติ (GNI) ต่อหัวอยู่ที่ 1,534 ดอลลาร์ ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2022 อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดกว่าที่ร้อยละ 38.46 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36.75 ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ปริมาณเงินในความหมายอย่างกว้าง (M2) หรือเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten02_Na_23y.php

‘ทองลุน สีสุลิด’ ประธานประเทศลาว ให้แรงบันดาลใจคนทั้งประเทศ ฟันฝ่าความท้าทาย

นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว กล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ และกระตุ้นให้ประชาชนทั้งประเทศรวมพลังและสามัคคีกัน เพื่อให้สปป.ลาวก้าวข้ามอุปสรรคหรือความท้าทายในปี 2566 และยังได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของลาวในปี 2565 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำก็ตาม โดยทั้งปี 2565 สปป.ลาวเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงสถานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่เผชิญกับความรุนแรง แต่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทั้งพรรค รัฐบาลและสังคม ตลอดจนความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทำให้สปป.ลาว สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านั้นได้ในระดับหนึ่ง และป้องกันไม่ให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้ได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten01_President_y23.php