“การท่องเที่ยวฮานอย” ฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีแรก นทท.เพิ่ม 42%

เมืองฮานอย (Hanoi) คาดว่าจะทำรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ อยู่ที่ 77 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 3.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ราว 22 ล้านคน และจะเข้ามาที่เมืองฮานอยสูงถึง 12.33 ล้านคนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 42% จากปีที่แล้ว ทั้งนี้ จากการคาดการณ์รายได้จากการท่องเที่ยวจะสูงถึง 44.88 ล้านล้านดอง (1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แสดงให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวขยายตัว 74.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในโรงแรม เพิ่มขึ้น 61.1% บ่งชี้ว่าความต้องการเข้าที่พักเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ กรมการท่องเที่ยวประจำกรุงฮานอย ระบุว่าการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของการท่องเที่ยว เป็นผลมาจากความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิด-19 ได้ และการดำเนินมาตรการที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ที่มา : https://en.vietstock.vn/974-513101/hanoi-tourism-rebounds-in-first-half-with-42-visitor-growth.htm

“ฟินเทคสตาร์ทอัพสวิสฯ” เล็งโอกาสลงทุนในเวียดนาม

ตามรายงาน ‘Vietnam Fintech’ ฉบับใหม่โดย Switzerland Global Enterprise (S-GE) เปิดเผยว่าฟินเทคสตาร์ทอัพสวิสฯ ควรใช้โอกาสที่จะเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีความต้องการโซลูชั่นทางการเงินดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการส่งเสริมนโยบายและรัฐบาลมีความคิดริเริ่มที่จะสนับสนุนให้มีการบ่มเพาะนวัตกรรมและเทคโนโลยีฟินเทค ทั้งนี้ รายงานยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่สำคัญ 5 ประการที่จะเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ได้แก่ 1) ธนาคารเวียดนามพร้อมที่จะจับมือกับบริษัทฟินเทคและผู้ให้บริการเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ 2) ระบบการชำระเงินในปัจจุบันที่นับว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฟินเทคในประเทศ ด้วยสัดส่วนจำนวนประชากรที่ใช้การชำระเงินทางดิจิทัลเกือบ 2 ใน 3 ของประชากรเวียดนามทั้งประเทศ หรือราว 57.62 ล้านคนในเดือน ม.ค.66 3) การกู้ยืมแบบ P2P ถือเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง 4) การเงินส่วนบุคคลและการลงทุน และประการสุดท้าย คือ บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งในภาคส่วนของฟินเทคที่มีความแข็งแกร่งและคาดว่าจะเติบโตต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/opportunities-for-swiss-fintech-startups-numeral-in-vietnam-report/255380.vnp

ราคาหมูเวียดนามฟื้นตัว แต่ราคาหมูจีนยังอยู่ในระดับต่ำ

ราคาหมูเวียดนามฟื้นตัว 12% ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. 2566 จากราคาเฉลี่ยของ 3 ภูมิภาค (ได้แก่ ตอนเหนือตอนกลางและตอนใต้) ที่ 52,500 ดองต่อกก. เมื่อวันที่ 1 พ.ค. เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 58,667 ดองต่อกก. เมื่ออวันที่ 13 มิ.ย.2566 โดยทีม Research ของหลักทรัพย์บัวหลวงมองว่าการฟื้นตัวของราคาหมูเวียดนามได้รับปัจจัยหนุนจาก 1) การกลับมาแพร่ระบาดของโรค ASF 2) คลื่นความร้อนที่ยาวนานกว่าปกติในประเทศเวียดนาม ส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคระบาด และ 3) การบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นในฤดูท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศเวียดนาม

ในขณะที่ราคาหมูมีชีวิตในประเทศจีนยังคงยืนในระดับต่ำในกรอบ 14.1-14.7 หยวนต่อกก. ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2566 เทียบกับจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 16.07 หยวนต่อกก. เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2566 สาเหตุที่ราคาหมูจีนยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจาก 1) รัฐบาลจีนยังคงขายและระบายอุปทานเนื้อหมูและหมูมีชีวิตจากสต๊อกในประเทศเข้าสู่ตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง และ 2) การกลับมาระบาดของโรค ASF เฉพาะท้องถิ่น

ที่มา : https://thunhoon.com/article/275033

“เวียดนาม-จีน” เดินหน้าระชับความร่วมมือทวิภาคี

นายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้กล่าวยืนยันกับนายฉิน กัง มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ว่าเวียดนามให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านกับประเทศจีน และมองว่าจีนมีความสำคัญกับเวียดนามในฐานะทูตของประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกันกลุ่มประเทศในอาเซียน โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่าให้มีการเยือนกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จีนจะสนับสนุนให้ธุรกิจที่มีชื่อเสียงเข้ามาลงทุนในเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501314680/vietnam-china-seek-to-boost-cooperation/

“LG Innotek” เล็งลงทุนเพิ่มในเวียดนาม 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

คณะกรรมการประชาชนนครไฮฟอง ได้จัดการประชุมขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย. 2566 เพื่อเตรียมการรับรองแก่บริษัท LG Innotek ในการอนุมัติเพิ่มเงินลงทุนอีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2566-2568 ส่งผลให้เงินลงทุนรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยโรงงานของกิจการตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม Trang Du เพื่อที่จะรองรับกับการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับยานยนต์ โทรศัพท์มือถือและโมดูลกล้องอุตสาหกรรม เป็นต้น ทั้งนี้ คุณ Le Tien Chau เลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลเมือง กล่าวในที่ประชุมว่างานที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นการพัฒนาของบริษัทและเมืองไฮฟองเป็นสำคัญ นอกจากนี้ จากข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ เปิดเผยว่าเกาหลีใต้เป็นผู้นำของการลงทุนในแง่ของจำนวนโครงการและเงินลงทุน โดยมีจำนวน 173 โครงการ มูลค่า 9.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.92% ของโครงการทั้งหมด

ที่มา : https://en.nhandan.vn/lg-innotek-vietnam-hai-phong-raises-investment-by-1-billion-usd-post126824.html

“เศรษฐกิจเวียดนาม” มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามอุปสรรคในปี 2567

จากรายงานของกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยให้เห็นว่าเศรษฐกิจเวียดนามเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาค รวมไปถึงปัญหาหรืออุปสรรคที่ไม่คาดคิดในอนาคต นอกจากนี้ ความเสี่ยงในปีหน้า ไม่เพียงแต่มาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกหรือหนี้เสียที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังมาจากการดำเนินมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ไม่ได้ผลอีกด้วย ทั้งนี้ ปัญหาคอขวดต่างๆ อาทิเช่น ปัญหาการขาดแคลนกำลังไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการดำเนินงานขององค์กร ตลอดจนการใช้ชีวิตของผู้คนอีกด้วย ในขณะที่การปฏิรูปเพื่อส่งเสริมบรรยากาศทางธุรกิจและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันก็เกิดการหยุดชะงักลง และอาจขัดขวางต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากอยู่แล้ว

ที่มา : https://vir.com.vn/adb-highlights-default-risks-in-vietnams-property-markets-102853.html

“เวียดนาม” เผยจ่ายเงินบำนาญสูงสุด 5,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน

สำนักงานประกันสังคมเวียดนาม (VSS) เปิดเผยว่าผู้ที่ได้รับเงินบำนาญในเวียดนามสูงถึง 124 ล้านดอง (5,200 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน และจากข้อมูลในเดือน เม.ย. 2566 พบว่าผู้ที่ได้รับเงินบำนาญต่อเดือน มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 471 คน เป็นมูลค่ามากกว่า 20 ล้านดอง (850 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน ซึ่งจากจำนวนผู้ที่ได้รับเงินบำนาญข้างต้นส่วนใหญ่ทำงานในบริษัทเอกชนหรือบริษัทต่างชาติในเวียดนาม และจ่ายค่าประกันสังคมค่อนข้างสูง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/highest-pension-in-vietnam-pays-us-5-200-per-month-2158528.html