คาดตลาดอีคอมเมิร์ซกัมพูชาจะมีมูลค่าแตะ 1.78 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025

Penn Sovicheat ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและโฆษกกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวถึงภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซภายในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งในปีที่ผ่านมา (2022) ตลาดอีคอมเมิร์ซกัมพูชามีมูลค่าสูงถึง 1.28 พันล้านดอลลาร์ และในปีนี้คาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นไปถึง 1.50 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะขยับขึ้นไปแตะ 1.78 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 จากการเข้าถึงและการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างมาก ซึ่งในปี 2022 จากจำนวนประชากร 17.06 ล้านคน มีการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ 22.06 ล้านครั้ง มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 13.44 ล้านคน และมีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 12.6 ล้านคนในกัมพูชา ในปีที่แล้ว ซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในกัมพูชาคาดว่าจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่ร้อยละ 13.51 ในช่วงปี 2023-2027 ที่อาจทำให้มูลค่าตลาดสูงถึง 2.10 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2027 จากการวิจัยของ statista.com

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501214272/cambodias-e-commerce-market-eyes-1-78b-by-2025/

กัมพูชาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ในปี 2022

สมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวสารของกัมพูชาในช่วงปี 2022 พุ่งแตะ 637,004 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากปริมาณ 617,069 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่งออกไปยัง 59 ประเทศทั่วโลก ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่ารวมอยู่ที่ 414 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนยังคงเป็นผู้นำข้าวข้าวสารรายใหญ่อันดับต้นๆ ของกัมพูชา โดยพันธุ์ข้าวที่ได้รับความนิยมในการส่งออก ได้แก่ ข้าวหอมพรีเมียม ข้าวหอม ข้าวขาวเมล็ดยาว ข้าวนึ่ง ข้าวอินทรีย์ และข้าวเหนียว ด้าน Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงของกัมพูชากล่าวเสริมว่าจีนจะยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญสำหรับสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพของกัมพูชาผ่านข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CKFTA)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213617/cambodias-milled-rice-export-up-3-2-pct-in-2022/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ RCEP โต 5% มูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 5,671 ล้านดอลลาร์ ไปยังประเทศกลุ่มสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วง 11 เดือนของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประเทศปลายทางสำคัญสำหรับการส่งออกของกัมพูชาผ่าน RECP 3 อันดับแรก ได้แก่ เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าการส่งออกมูลค่า 1,894 ล้านดอลลาร์ 1,109 ล้านดอลลาร์ และ 1,069 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ โดยจีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกกัมพูชา ด้วยมูลค่ารวม 9,470 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือเวียดนาม, ไทย และสิงคโปร์ ด้วยมูลค่า 3,617 ล้านดอลลาร์, 3,542 ล้านดอลลาร์ และ 3,169 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งกัมพูชาคาดว่าการส่งออกจะเติบโตระหว่างร้อยละ 9.4 ถึงร้อยละ 18 ในปี 2023 ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตระหว่างร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 3.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213231/cambodias-export-to-rcep-countries-up-5-percent-at-5-6b/

กัมพูชาดึงนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่แตะ 2 ล้านคน

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชารายงานถึงการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 2 ล้านคน ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 76.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา 2,006,117 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด 16,803 คน โดยกรุงพนมเปญถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเลือกไปฉลองปีใหม่มากที่สุดจำนวน 455,832 คน จังหวัดพระสีหนุจำนวน 338,552 คน ในขณะที่จังหวัดกำปอดให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว 330,659 คน และจังหวัดพระตะบองดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 158,110 คน เป็นสำคัญ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดทั่วประเทศดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยห้องพัก โรงแรม เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ท และบังกะโลได้รับการจองเกือบร้อยละ 100 ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากถึง 2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวภายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12.5-13 ล้านคน ในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501212761/cambodia-attracts-over-2m-new-year-visitors/

คาด GDP กัมพูชา ปี 2023 เติบโตต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวถึงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 6.6 ในปี 2023 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัวซึ่งคาดว่าจะสูงถึงเกือบ 2,000 ดอลลาร์ต่อปี รวมถึงคาดว่ากัมพูชาจะยังคงใช้นโยบายภาครัฐแบบเกินดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางกลับเข้ามายังกัมพูชา หลังจากจีนมีกำหนดที่จะเปิดประเทศอีกครั้งในเดือน ม.ค. ซึ่งการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจีนที่คาดการณ์ไว้จะทำให้เศรษฐกิจกัมพูชากลับมาขยายตัวอีกครั้ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213048/gdp-increase-expected-for-2023/

การค้าทวิภาคีระหว่าง กัมพูชา-จีน โตกว่า 19%

ปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและจีนมีมูลค่ารวมสูงถึง 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กล่าวโดยนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ซึ่งยังเสริมว่าในอนาคตสินค้ากัมพูชาจะสามารถเข้าไปสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น จากข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน โดยจีนสนับสนุนการส่งออกของกัมพูชาด้วยการยกเว้นภาษีให้กับกัมพูชาถึงร้อยละ 97.53 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินค้าประเภทเครื่องนุ่งห่ม สินค้าเกษตร เป็นสำคัญ ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากจีน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับวัตถุดิบการผลิต เช่น ฝ้าย สิ่งทอ โลหะ วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก อะลูมิเนียม เฟอร์นิเจอร์ กระดาษและกระดาษแข็ง เป็นหลัก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501211511/cambodia-china-bilateral-trade-volume-surged-19-says-pm/

เศรษฐกิจกัมพูชายังคงเติบโตต่อเนื่องที่ 5.5% ในปี 2022 กล่าวโดย ฮุน เซน

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจกัมพูชาที่กำลังกลับมาฟื้นตัวและเติบโตสูงถึงร้อยละ 5.5 ในปี 2022 โดยได้แถลงในระหว่างพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างสะพานกระแจะแห่งใหม่ รวมถึงยังได้ระบุว่าภาครัฐบาลสามารถสร้างรายได้มากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ จากการจัดเก็บภาษีแต่เพียงอย่างเดียว โดยที่ยังไม่ได้มีการรวมรายได้จากช่องทางอื่นที่นอกเหนือจากภาษี ส่งผลให้ภาครัฐดำเนินการภายใต้งบประมาณแบบเกินดุลในปัจจุบันหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 และคาดว่าในปี 2023 รัฐบาลจะยังคงดำเนินการแบบเกินดุลเช่นกันกับปีก่อน จากการวางระบบการจัดการทางด้านภาษีใหม่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501212491/pm-says-cambodias-economy-maintained-5-5-pct-growth-rate/

กัมพูชาส่งออกยางพารามูลค่าแตะ 470 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกยางพาราและไม้ยางพารา ณ เดือนพฤศจิกายน ขยายตัวต่อเนื่องคิดเป็นมูลค่าเกือบ 470 ล้านดอลลาร์ ข้อมูลดังกล่าวรายงานโดยกรมยาง ซึ่งมูลค่าดังกล่าวแบ่งออกเป็นมูลค่าจากการส่งออกยางพารา 465 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากไม้ยางพาราอยู่ที่ 3.8 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นปริมาณของยางพารา 322,586 ตัน เพิ่มขึ้น 9,139 ตัน ขยายตัวที่ร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การส่งออกไม้ยางพาราสูงถึง 24,989 ลบ.ม. ตามรายงานของ General Department of Rubber ซึ่งราคาขายยางเฉลี่ย ณ เดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 1,231 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลง 31 ดอลลาร์ต่อตัน โดยปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกยางพาราทั้งหมดของกัมพูชาอยู่ที่ 404,578 เฮกตาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501205164/cambodia-sees-nearly-470-million-from-rubber-rubber-wood-exports-in-11-months/

ท่องเที่ยวกัมพูชากลับมาฟื้นตัวสะท้อนจากอัตราการฟื้นตัวที่ร้อยละ 26.3

ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยกัมพูชาเริ่มเห็นการขยายตัวที่อัตราการฟื้นตัวร้อยละ 26.3 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด นับเป็นอันดับที่สามในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน จากข้อมูลของคณะกรรมการที่ปรึกษาการท่องเที่ยวของเวียดนาม ซึ่งสิงคโปร์อยู่อันดับแรกด้วยอัตราการฟื้นตัวร้อยละ 30.9, มาเลเซียเป็นอันดับที่สองที่อัตราการฟื้นตัวร้อยละ 27.5 รองจากกัมพูชาคืออินโดนีเซียในอันดับที่ 4 ด้วยอัตราการฟื้นตัวร้อยละ 22.9 ฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยอัตราการฟื้นตัวร้อยละ 22.1 และไทยอยู่ในอันดับที่ 6 ด้วยอัตราการฟื้นตัวร้อยละ 22 โดยกัมพูชาตั้งเป้าต้อนรับนักท่องเที่ยวอีก 2 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ และภายในปี 2026-2027 คาดว่าสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ภาวะก่อนเกิดการแพร่ระบาด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501204801/tourism-recovery-rate-at-26-3-in-cambodia/

นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น

Long Kosal รองผู้อำนวยการ APSARA National Authority ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบในการจัดการ ปกป้อง และอนุรักษ์นครวัด กล่าวว่า การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวได้รับแรงผลักดันหลังจากกัมพูชาประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเปิดพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง รวมถึงรัฐบาลยังใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากข้อมูลของ Kosal ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด อุทยานโบราณคดีอังกอร์ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากถึง 2.2 ล้านคนในปี 2019 สร้างรายรับจากการขายตั๋วมูลค่ารวมกว่า 99 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ปัจจุบัน Sao En ผู้จำหน่ายของที่ระลึกในอุทยานฯ ได้พูดถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนยังนครวัดค่อยๆ ฟื้นตัว ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 225,000 คน ซึ่งอุทยานโบราณคดีอังกอร์มีขนาด 401 ตร.กม. ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1992 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501204363/foreign-tourists-gradually-return-to-famed-angkor-in-cambodia/