กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นในเดือนมกราคมลดลง

การส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นลดลงในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดยองค์การการค้าภายนอกของญี่ปุ่น (JETRO) ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวม 138 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคมลดลงร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าสินค้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นในช่วงเดียวกันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 37 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 โดยการค้าทวิภาคีรวมอยู่ที่ 176 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2020 ซึ่งรองประธานหอการค้ากัมพูชากล่าวว่าแม้ปริมาณการค้าจะลดลง แต่เชื่อมั่นว่าหลังจากทั่วโลกได้มีการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ไประยะหนึ่งแล้วจะส่งผลให้กิจกรรมทางด้านการค้าระหว่างประเทศฟื้นตัวขึ้นโดยถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ สินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง กระดาษ เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญของญี่ปุ่นไปยังกัมพูชา ได้แก่ เครื่องจักร รถยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และพลาสติก เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50824888/cambodias-exports-to-japan-down-in-january/

รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งกองทุนสนับสนุนการพยากรณ์ในลุ่มน้ำแม่น้ำโขง

รัฐบาลญี่ปุ่นมอบเงินสนับสนุน 2.9 ล้านดอลลาร์ ให้แก่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) เพื่อช่วยดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในภูมิภาค โดยการระดมทุนครั้งใหม่นี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาต่อความท้าทายในภูมิภาคที่จะต้องเผชิญในอนาคต ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่จะดำเนินการจนถึงปี 2024 จะช่วยให้กลุ่ม MRC และประเทศสมาชิกได้คอยติดตามและประเมินสถานการณ์ของลุ่มแม่น้ำ เพื่อเตรียมปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์นั้น ๆ ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยแม่น้ำโขงถือเป็นที่ตั้งและจุดกำเนิดของความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยมีกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ มากกว่า 95 กลุ่ม ที่อาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำโขง ที่ได้พึ่งพาทรัพยากรทางธรรมชาติจากแม่น้ำโขงมาอย่างยาวนาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50819129/japanese-govt-helps-fund-mekong-forecasting-system/

ญี่ปุ่นช่วยฟื้นฟูชุมชนสปป.ลาวจากอุทกภัยทางธรรมชาติ

รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงิน 180 ล้านเยนญี่ปุ่น (ประมาณ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงสองปีเพื่อบรรเทาผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมในแขวงสะหวันนะเขตและแขวงทางตอนใต้ของสปป.ลาว ภายใต้ข้อตกลงระหว่างปี 2564 ถึง 2565 กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมสถานทูตญี่ปุ่นประจำสปป. ลาวและโครงการอาหารโลก (WFP) จะแจกจ่ายข้าวให้กับประชาชนประมาณ 35,000 คน เพื่อสนับสนุนความพยายามในการฟื้นฟูด้านวามมั่นคงของอาหารนอกจากนี้ WFP รวมถึงการสนับสนุนการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร รวมถึงแผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มั่นคงและมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_36.php

ญี่ปุ่นตอกย้ำการร่วมพัฒนาเมืองของกัมพูชา

ฟอรัมครั้งที่สองระหว่างกัมพูชากับญี่ปุ่น ตอกย้ำการพัฒนาเขตเมืองกัมพูชาให้เป็นเมือง “อัจฉริยะ” ซึ่งทำการประชุมผ่านทางออนไลน์ระหว่างกระทรวงการจัดการที่ดินการวางผังเมืองและการก่อสร้าง (MLMUPC) ของกัมพูชา และกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง MLMUPC กล่าวถึงการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อผลักดันโอกาสทางธุรกิจให้เกิดความต่อเนื่องระหว่างสองประเทศ และส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นมายังกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในการพูดคุยกันรัฐมนตรีกระทรวงฯ ของญี่ปุ่นกล่าวว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุน แบ่งปันแนวทางในการปฏิบัติ และประสบการณ์ที่ดีกับกัมพูชา เกี่ยวกับการขยายตัวของเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้รัฐบาลกัมพูชาถือว่าภาคเอกชนเป็นกลไกในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ การพัฒนาการจ้างงาน การส่งเสริม SMEs ไปจนถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (IR4.0) ของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50815380/japan-cambodia-forum-reinforces-urban-development-in-kingdom/

องค์กร NGO ของญี่ปุ่น มอบทุนสนับสนุนให้แก่กัมพูชา

องค์กรความร่วมมือแบบให้เปล่าแก่โครงการซึ่งดำเนินการโดย NGO ของญี่ปุ่น ได้ตกลงที่จะมอบเงินจำนวน 754,321 ดอลลาร์ แก่สององค์กรภายใต้กรอบของโครงการ Grant Assistance สำหรับโครงการนอกภาครัฐ (NGO) ของญี่ปุ่น ซึ่งสัญญาดังกล่าวลงนามโดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศกัมพูชาและตัวแทนของผู้รับทุนทั้งสองราย โดยรายแรกคิดเป็นจำนวน 371,479 ดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาหลักสูตรการพลศึกษาของมหาวิทยาลัยในระยะเวลา 4 ปี ณ สถาบันการพลศึกษาแห่งชาติ ภายใต้โครงการ Hearts of Gold คาดว่าจะมีนักเรียนมากกว่า 930,000 คน ในกัมพูชาได้รับการศึกษาทางกายภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการริเริ่มโครงการ และมอบเงินสนับสนุนอีกมูลค่า 382,842 ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยในการทำเกษตรพันธสัญญา สำหรับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์อินทรีย์ ผ่านสหกรณ์การเกษตรในโครงการ International Volunteers of Yamagata (IVY) เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรภายในประเทศให้ยั่งยืน โดยการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าสำหรับโครงการ NGO ของญี่ปุ่นในกัมพูชามีขึ้นตั้งแต่ปี 2002 โดยการให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจภายในกัมพูชาในระดับรากหญ้า นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดหาเงินกว่า 42 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการ 133 โครงการ โดยให้ความสำคัญกับสาขาการศึกษาระดับประถมศึกษา สุขภาพ และภาคการเกษตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50814017/japanese-ngo-projects-awarded-grants/

ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือในการดำเนินพิธีการศุลกากรของกัมพูชา

รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือ กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา (GDCE) ในการจัดทำระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดที่ทำให้กระบวนการชำระภาษีช้าลง โดย GDCE ได้ประชุมกับตัวแทนนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ลงทุนในกัมพูชา เพื่อหารือและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าและพิธีการทางศุลกากร ซึ่งผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่ ผู้อำนวยการกรมศุลกากร ประธานสมาคมธุรกิจญี่ปุ่นแห่งกัมพูชา (JBAC) สถานทูตญี่ปุ่นในกัมพูชา และผู้อำนวยการองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ในกัมพูชาเปิดเผยว่าฝ่ายญี่ปุ่นกำลังศึกษาวิธีบรรเทาปัญหาความแออัดที่จุดผ่านแดนระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม โดยจะทดสอบระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติใหม่ที่ท่าเรือและด่านศุลกากรหลักของกัมพูชา รวมถึงการติดตั้งระบบกล้องตรวจทางศุลกากรเพื่อเร่งเวลาในการดำเนินพิธีการศุลกากร ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งระบบ “National Single Window” ที่อนุญาตให้สมัครทางออนไลน์สำหรับเอกสารทางการนำเข้า / ส่งออก วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่จะเชื่อมโยงหน่วยงานของรัฐ 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา สภาพัฒนากัมพูชา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงและกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50804464/japan-to-assist-in-cambodian-customs-clearance-automation/

ทางหลวงเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย-ทิศตะวันตกเริ่มเดินหน้าก่อสร้างในปีหน้า

คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเผยการก่อสร้างทางหลวงสองช่องจราจรความยาว 140 กิโลเมตรที่เชื่อมระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (SEZ) ในเขตตะนาวศรีไปยังเกาะเตกีที่ชายแดนไทยจะเริ่มในกลางปี 2564 กระทรวงการก่อสร้างจะเป็นผู้ดูแลโครงการด้วยเงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านของไทย (NEDA) ทั้งนี้การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบทางสังคมเพิ่งได้รับการอนุมัติ กระทรวงการวางแผนการเงินและอุตสาหกรรมเตรียมลงนามในสัญญาเงินกู้กับ NEDA. และคาดว่าจะมีการประมูลราคาในปีหน้า เมื่อเดินทางจาก SEZ จะใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมงเพื่อไปยังเตกีโดยรถยนต์และอีก 2 ชั่วโมงยังกรุงเทพฯ การพัฒนาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากญี่ปุ่นเสนอให้ลงทุนใน SEZ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยชาวญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมในการลงทุนและพัฒนา มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 20,000 เฮกตาร์ซึ่งจะดำเนินการเป็นระยะ ๆ และรวมถึงท่าเรือน้ำลึกและ high-tech zones

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/construction-highway-connecting-dawei-sez-htikhee-commence-next-year.html

เมียนมาตอบรับข้อเสนอญี่ปุ่นในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเผย เมียนมายินดีรับข้อเสนอของญี่ปุ่นในการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ในเขตตะนาวศรี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 63 ที่ผ่านมา โดยการลงทุนคาดว่าจะเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระดับ G2G ทั้งนี้รัฐบาลไทยยังแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายด้วย ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมในการพัฒนา SEZ โดยมีมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐบนพื้นที่ 20,000 เฮกตาร์ โดยจะดำเนินการเป็นระยะ ๆ รวมถึงท่าเรือน้ำลึกและ high-tech zones. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของไทยได้เคยทำ MOU กับรัฐบาลเมียนมาร์ในปี 2551 แต่ต้องหยุดชะงักในปี 2556 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทูตญี่ปุ่นประจำเมียนมากล่าวว่ากำลังศึกษาโครงการท่าเรือน้ำลึกและจะจัดหาเงินทุนให้กับโครงการผ่านความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือด้วยวิธีการอื่น ๆ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-replies-japans-offer-cooperation-dawei-sez.html

เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

ธุรกิจในเวียดนามจำนวนมากได้รับคำแนะนำให้ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อคว้าโอกาสในการรับกระแสการลงทุนจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะธุรกิจญี่ปุ่นกว่า 2,000 ราย เข้ามาลงทุนในเวียดนามช่วงสิ้นปี 2562 รองลงมากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 59.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 15.6 ของเงินทุนรวม โดยข้อมูลข้างต้น เกิดหลังจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เปิดเผยรายชื่อบริษัท 15 รายที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทยและสปป.ลาว ทั้งนี้ ตามการสำรวจของเจโทร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ระบุว่าธุรกิจญี่ปุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 ดำเนินกิจการในเวียดนาม สิ่งนี้เป็นโอกาสอันดีแก่ธุรกิจในท้องถิ่น เพื่อยกระดับความร่วมมือและเชื่อมต่อกับธุรกิจญี่ปุ่น โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนและสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศ

ที่มา : https://vietreader.com/business/finance/24421-vietnam-regarded-as-top-investment-destination-for-japan-businesses.html\

การค้าทวิภาคีระหว่างญี่ปุ่นกับกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 25

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชากับญี่ปุ่นมีมูลค่าอยู่ที่ 1,548 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 3 ของปี ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น 1,208 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5.6 ในขณะที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น 339 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14.8 ซึ่งปัจจุบันการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นคิดเป็นร้อยละ 0.3 ของการส่งออกทั้งหมด ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.1 ของการนำเข้าทั้งหมดของกัมพูชา โดยกัมพูชาได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เสื้อผ้า รองเท้า และจักรยาน ส่วนสินค้านำเข้าหลักคือเครื่องจักรและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50781435/japan-and-cambodia-bilateral-trade-dropped-25/