ราคาเกลือในกัมพูชาลดลงต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่ร้อน

Bun Narin ประธานสมาคมผู้ผลิตเกลือ GI ในเขตกัมปอต-แกป กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้ว่าปัจจุบันการผลิตเกลือธรรมชาติในกัมปอตจะมีปริมาณมากขึ้นอันเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน แต่ราคากลับปรับตัวลดลงอย่างมากอันเป็นผลมาจากมีผลผลิตส่วนเกินในตลาดที่สูงเกินความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งต้นทุนแรงงานในภาคการผลิตเกลือที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาเกลือในตอนนี้อยู่ที่ 8,000 ถึง 10,000 เรียลต่อถุง ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของราคาที่ขายให้กับเทรดเดอร์ในอดีต สำหรับในปี 2022 การผลิตเกลือให้ผลผลิตมากกว่า 60,000 ตัน ตามตัวเลขของกรมอุตสาหกรรมกำปอตรายงาน โดยในปีนี้การผลิตเกลือคาดว่าจะผลิตได้ราว 100,000 ตัน ในปี 2024 ภายใต้ความต้องการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศที่ลดลงอันเป็นผลมาจากการผลิตเกลือในประเทศเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501483668/salt-prices-fall-as-the-weather-heats-up/

ทางการกัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 213 ล้านดอลลาร์

ทางการกัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนเพิ่มอีก 14 โครงการมูลค่าโครงการรวม 213 ล้านดอลลาร์ ในเมืองชายฝั่งอย่างสีหนุวิลล์ของกัมพูชา ซึ่งรวมถึง 10 โครงการสำหรับการฟื้นฟูการก่อสร้างอาคารที่ถูกทิ้งร้างในช่วงก่อน ภายใต้โครงการส่งเสริมการลงทุนพิเศษสำหรับเมืองสีหนุวิลล์ กล่าวโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยโครงการที่ได้รับอนุมัติ ได้แก่ โรงแรมระดับ 5 ดาว คาสิโน รีสอร์ทคอมเพล็กซ์ คอนโดมิเนียม อาคารอเนกประสงค์สำหรับสำนักงานและที่พัก โรงงานผสมคอนกรีต โรงงานผลิตกระดาษแข็ง และโครงการตกแต่งภายใน จนถึงขณะนี้ โครงการลงทุน 27 โครงการได้รับแรงจูงใจพิเศษจากรัฐบาลในเมืองชายฝั่งทะเลแห่งนี้ นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 31 มกราคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวจีน ภายหลังการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาคารเหล่านี้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ถูกทิ้งล้าง สำหรับสิ่งจูงใจภายใต้โครงการส่งเสริมการลงทุนพิเศษ ได้แก่ การยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีขั้นต่ำเพิ่มอีก 3 ปี การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจนกว่าอาคารจะแล้วเสร็จ ยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5 ปี สำหรับสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ การยกเว้นภาษีทรัพย์สิน และการยกเว้นการลงโทษทางปกครองต่างๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501481583/14-projects-worth-213m-approved-in-sihanoukville/

กัมพูชา-เม็กซิโก จ่อจัดเวทีธุรกิจ ขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน

ความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัมพูชาและเม็กซิโกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นภายหลังการประชุมทางธุรกิจซึ่งมีแผนที่จะจัดขึ้นในกรุงพนมเปญเร็วๆ นี้ โดยคำกล่าวดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 เม.ย.) ระหว่าง Kith Meng ประธานหอการค้ากัมพูชา และ Liliana Ferrer เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำกัมพูชา ซึ่งทั้งสองหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีอยู่และการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศในอนาคต ด้านเอกอัครราชทูตเม็กซิโกพร้อมที่จะสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับการส่งเสริมศักยภาพและผลิตภัณฑ์ของเม็กซิโก ตลอดจนโอกาสในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะการเกษตร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และการท่องเที่ยว เป็นสำคัญ โดยการค้าทวิภาคีระหว่างเม็กซิโกและกัมพูชามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 355 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.07 เมื่อเทียบกับปี 2022 ขณะที่สินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังเม็กซิโก ได้แก่ กางเกงชั้นในและกระเป๋า ชุดสูทสตรีไม่ถัก และเสื้อสเวตเตอร์ถัก ด้านสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ได้แก่ รถบรรทุกและรถยนต์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501481587/business-forum-to-scale-up-cambodia-mexico-trade-investment-ties/

กัมพูชาพร้อมรับโครงการลงทุนโรงงานประกอบรถยนต์เพิ่มอีก 5 แห่ง

Ms. Cham Nimul รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (MoC) รายงานว่าปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ 5 ราย กำลังสร้างโรงงานผลิตในประเทศกัมพูชา โดยบริษัทรถยนต์ทั้ง 5 แห่ง ซึ่งรวมถึง HGB Motors Assembly, EM Automotive, GTV Motor, Toyota และ China Matrix Technology กำลังจัดโครงสร้างการผลิตเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศกัมพูชา ซึ่งรัฐมนตรีได้กล่าวในระหว่างการเข้าร่วมงาน Auto Show 2024 ครั้งที่ 1 โดยรัฐมนตรีพร้อมให้การสนับสนุนบริษัทที่มีความสนใจเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา พร้อมกับการที่กัมพูชามีข้อตกลงการค้าอาเซียนพลัส สิทธิพิเศษทางการค้า กรอบการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของประเทศ ตลอดจนการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับสิทธิพิเศษมากที่สุด เนื่องจากเป็นสินค้าที่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501481029/cambodia-to-have-five-more-vehicle-assembly-factories/

ท่าเรือสีหนุวิลล์ของกัมพูชาจะกลายเป็นท่าเรือระดับภูมิภาค

รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าดันท่าเรือปกครองตนเองสีหนุวิลล์ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดพระสีหนุ ให้เป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งและท่าเรือระดับภูมิภาคภายในปี 2050 โดยความทะเยอทะยานดังกล่าวได้รับการเน้นย้ำโดยนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ในระหว่างการพบปะกับข้าราชการ คนงาน และลูกจ้าง ณ ท่าเรือปกครองตนเองสีหนุวิลล์ เมื่อเช้านี้ (1 พ.ค.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 138 ปี วันแรงงานสากล (1 พ.ค.) ภายใต้แนวคิด “หนึ่ง วิสาหกิจเป็นชุมชนสันติสุขหนึ่งเดียว” ซึ่งนายกรัฐมนตรีเสริมว่าภาคการขนส่งด้วยท่าเรือเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีความสำคัญ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะเพิ่มเงินลงทุนและการระดมเงินทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือต่อไป ด้าน Peng Ponea รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง กล่าวว่า ท่าเรือสีหนุวิลล์มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตผ่านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดความยาวของท่าเรือไว้ที่ 400 เมตร ลึก 16.5 เมตร และระยะที่ 3 ขยายเป็นความยาว 430 เมตร ลึก 17.5 เมตร พร้อมรองรับอุปกรณ์ทางเทคนิคที่ทันสมัยในการอำนวยความสะดวกในท่าเรือ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501481387/sihanoukville-autonomous-port-to-be-transformed-into-regional-port-and-logistics-hub/

นโยบายด้านการลงทุนฉบับใหม่ของกัมพูชา หนุนระดับการลงทุนใหม่ภายในประเทศ

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต กล่าวว่า นโยบายการลงทุนฉบับใหม่ของรัฐบาลกัมพูชาคือการรักษาการลงทุนที่มีอยู่ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการลงทุนใหม่ด้วย โดยได้กล่าวไว้ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (28 เม.ย.) ระหว่างการประชุมกับคณะผู้แทนเศรษฐกิจนอกระบบมากกว่า 5,000 คน ณ OCIC กรุงพนมเปญ ซึ่งในอดีต กัมพูชามีแนวทางในการผลักดันภาคเอกชน องค์กร และโรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะภาคการธนาคาร การท่องเที่ยว และการเกษตร แต่ด้วยการมีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้น ทางการจึงต้องพิจารณาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการลงทุน เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้อุตสาหกรรมในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501479676/cambodias-investment-policy-preserves-existing-investments-while-fostering-new-ones-peace-and-stability-are-crucial-pm-says/

การส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 18.4%

การส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 มีมูลค่ารวมถึง 365 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นยังทำให้มั่นใจได้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นจุดหมายปลายทางด้านการส่งออกของกัมพูชาที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของกัมพูชาในอนาคต ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 5.8 ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา สำหรับปัจจุบันญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 5 ของกัมพูชา โดยมีมมูลค่าการค้าทวิภาคีสูงถึง 507 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลทำให้กัมพูชาคงเกินดุลการค้ากับญี่ปุ่นราว 223 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง กระดาษและอุปกรณ์สำนักงาน และเครื่องหนัง ด้านสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ผ้า และพลาสติก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501479402/cambodias-exports-to-japan-rise-18-4/