ส่งออกข้าวปี 60 สร้างรายได้ 1.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) แถลงว่า ในปีที่แล้วเมียนมามีบริษัทส่งออกข้าวและข้าวหักรวม 103 บริษัทไปยัง 49 ประเทศคู่ค้า ปริมาณการส่งออกรวมกว่า 2,767,414 ตัน ซึ่งสร้างรายได้กว่า 1,331.899 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ในด้านภาคเอกชนได้ดำเนินการส่งออกข้าวและข้าวหักตามนโยบายและคำสั่งของรัฐบาล และในขณะเดียวกันก็ได้ส่งเสริมให้บริษัทส่งออกรายใหม่เข้ามามีส่วนร่วมด้วยการแบ่งปันความรู้และจัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ และกระบวนการของตลาดข้าวระหว่างประเทศ สหพันธ์ข้าวเมียนมาระบุอีกว่า ผู้ส่งออกรายใหม่มีส่วนร่วมในภาคการส่งออกข้าวและข้าวหักด้วยแนวทางที่เป็นระบบ โดยสมาชิกของสหพันธ์ข้าวเมียนมาขยายตัวเป็น 1,196 ราย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 เพิ่มขึ้นจาก 980 ราย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 ปีก่อน ด้วยการเติบโตของสมาชิกและความไว้วางใจและความร่วมมือ MRF จะให้บริการที่ดีขึ้น การแบ่งปันข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และความร่วมมือที่แข็งแกร่งขึ้น MRF ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และโรงสีข้าว ได้เชิญชวนผู้ส่งออกที่ต้องการร่วมมือในภาคการส่งออกข้าวและข้าวหักในปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงตลาด และช่วยเหลือในการดำเนินงานแก่สมาชิก

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/rice-and-broken-rice-export-earns-us1331-899million-in-last-year/

อินโดนีเซียซื้อข้าวจากเมียนมากว่า 590,000 ตัน ครองอันดับหนึ่งในรายชื่อผู้ซื้อ

ตามข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) อินโดนีเซียกลายมาเป็นผู้นำเข้าข้าวของเมียนมารายใหญ่ที่สุด โดยมีปริมาณมากกว่า 593,000 ตันในช่วง 9 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2024-2025 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน อันดับสองรองลงมาคือ จีน ที่นำเข้าข้าวของเมียนมา มากกว่า 410,000 ตัน รองลงมาคือเบลเยียม 274,400 ตัน ฟิลิปปินส์ 131,000 ตัน เซเนกัล 96,600 ตัน ไอวอรีโคสต์ 46,900 ตัน โมซัมบิก 44,200 ตัน สเปน 30,000 ตัน แคเมอรูน 27,100 ตัน เนเธอร์แลนด์ 17,500 ตัน โปแลนด์ 17,400 ตัน ไอวอรีโคสต์ 13,900 ตัน และอิตาลี 13,300 ตัน ทั้งนี้ สถิติของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ระบุว่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาพุ่งแตะระดับกว่า 2 ล้านตันในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม) ของปีงบประมาณปัจจุบัน 2024-2025 โดยมีมูลค่าประมาณ 948 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสหพันธ์มีเป้าหมายที่จะส่งออกข้าวให้ได้ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2024-2025 (เมษายน-มีนาคม) อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์เมียนมาได้ร่วมมือกับหน่วยงานและสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งออกรายเดือนและต่อๆ ไป โดยขึ้นอยู่กับปริมาณการจัดหาข้าว ข้าวหัก พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด ยางพารา และการประมงจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถส่งออกข้าวได้ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2023-2024 สร้างรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ประธานสหพันธ์ข้าวเมียนมา กล่าวอีกว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางเมียนมาในการควบคุมรายได้จากการส่งออกทำให้การส่งออกข้าวเป็นอุปสรรค ส่งผลให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบทางการเงิน นอกจากนี้ สภาพอากาศเอลนีโญยังทำให้การส่งออกข้าวได้รับผลกระทบด้วย

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/indonesia-buys-over-590000-tonnes-of-myanmar-rice-tops-buyers-list/#article-title

บังคลาเทศและเมียนมาลงนามสัญญาซื้อขายข้าว G2G ครั้งที่ 4

สัญญาข้าวระหว่างรัฐบาลครั้งที่ 4 ระหว่างบังกลาเทศและเมียนมาได้ลงนามในเดือนธันวาคม 2567 โดยเรือลำแรกที่บรรทุกข้าว Aemahta คุณภาพดีของเมียนมาจำนวน 22,000 เมตริกตัน (ข้าวหัก 5 เปอร์เซ็นต์) ได้เดินทางมาถึงท่าเรือบังกลาเทศและเริ่มขนถ่ายข้าวออกไป ตามรายงานของสหพันธ์ข้าวเมียนมา บังกลาเทศและเมียนมาได้ร่วมมือกันในภาคส่วนข้าวตั้งแต่ปี 2560 สัญญาแรกคือ 100,000 เมตริกตันในปี 2560 สัญญาที่สองคือ 100,000 เมตริกตันเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2564 สัญญาที่สามคือ 200,000 เมตริกตันในปีงบประมาณ 2565-2566 และนี่คือสัญญาที่สี่คือ 100,000 เมตริกตันและจะแล้วเสร็จระหว่างเ ดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ 2568 ข้าวบนเรือ MV Golden Star จากท่าเรือย่างกุ้งมาถึงท่าเรือเมื่อเวลา 22.12 น. ของวันพฤหัสบดี และจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือหมายเลข 9 ของ GCB ในเช้าวันศุกร์ (17 มกราคม) Seven Seas Shipping Lines ซึ่งเป็นตัวแทนจัดส่งของเรือ MV Golden Star ยืนยันการมาถึงดังกล่าวตามมาตรฐานธุรกิจที่โพสต์ในบังกลาเทศเมื่อวันจันทร์ ฝั่งเมียนมา ซึ่งการส่งออกดำเนินการโดยบริษัทส่งออก 35 แห่งซึ่งนำโดยสหพันธ์ข้าวเมียนมา สำหรับฝั่งบังคลาเทศ การซื้อและการจัดจำหน่ายดำเนินการโดยกรมอาหาร

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/bangladesh-myanmar-ink-fourth-g-to-g-rice-contract/

การส่งออกข้าวของเมียนมาทะลุ 712 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 11 เดือน

ตามข้อมูล สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) การส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาร์มีมูลค่า 712 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปริมาณส่งออกกว่า 1.42 ล้านตันในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบันปี 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ซึ่งการส่งออกดังกล่าวประกอบด้วยการค้าทางทะเล 1.343 ล้านตัน และการรค้าผ่านชายแดน มากกว่า 85,000 ตัน อย่างไรก็ดี ปริมาณการส่งออกข้าวในปีงบประมาณดังกล่าวสูงที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยมีการส่งออกรวม 262,116 ตัน เป็นมูลค่า 139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือเดือน มกราคม 2567 และธันวา 2566 ที่มีการส่งออกรวม 213,605 ตัน และ 195,829 ตัน คิดเป็นมูลค่า 111 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ประธานสมาพันธ์ข้าวเมียนมา กล่าวอีกว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางเมียนมาในการควบคุมรายได้จากการส่งออก ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกข้าวและผลกระทบทางการเงินแก่ผู้ส่งออก นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบด้านสภาพอากาศจากเอลนิลโญอีกด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-rice-exports-surpass-us712-mln-in-11-months/

เมียนมาร์ส่งออกข้าวสูงสุด 1.16 ล้านตัน มูลค่า 574 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบ 10 เดือน

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) รายงานว่า มูลค่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบันปี 2566-2567 มีมูลค่า 574 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปริมาณกว่า 1.16 ล้านตัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ซึ่งแบ่งเป็นการค้าทางทะเล 1.08 ล้านตัน และ 80,000 ตัน ผ่านทางชายแดน อย่างไรก็ดี ปริมาณการส่งออกข้าวของเมียนมาสูงที่สุดในเดือนมกราคม 2567 โดยมีการส่งออกรวม 213,605 ตัน คิดเป็นมูลค่า 111 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมาคือเดือนธันวาคมและพฤศจิกายน 2566 ที่ 195,829 ตัน คิดเป็นมูลค่า 99 ล้านดอลลาร์ และ175,990 ตัน คิดเป็นมูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ นอกจากนี้ ทางสหพันธ์มีเป้าหมายที่จะส่งออกข้าวที่ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-rice-exports-top-1-16m-tonnes-worth-us574m-in-ten-months/#article-title

กัมพูชาตั้งเป้าส่งออกข้าวสาร 1 ล้านตัน ในปี 2025

สมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวสารไว้ที่ 750,000 ตัน ภายในปี 2023 และ ตั้งเป้าที่จะส่งออกข้าวสารให้ได้ 1 ล้านตันภายในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับตัวเลขการส่งออกในปี 2022 Chan Sokheang ประธาน CRF กล่าวว่าสหพันธ์ได้ตั้งเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจเกี่ยวกับข้าว ภายใต้แนวคิด ทำกำไร ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบัน CRF จะยังคงร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ และเพิ่มจำนวนการส่งออกข้าวสารไปยังจีนตามเป้าหมาย 400,000 ตัน ในปีนี้ ซึ่งในปีที่แล้ว กัมพูชาส่งออกข้าวสาร 637,004 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จาก 617,069 ตันในปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่ากว่า 414 ล้านดอลลาร์ จากการส่งออกไปยัง 59 ประเทศทั่วโลก โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501237171/2025-target-for-cambodia-to-export-1-million-tonnes-of-rice/

MoC ออกใบอนุญาตส่งออกข้าวภายใต้ MoU ไปบังกลาเทศ

ระหว่างเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนมกราคม 2566 กระทรวงพาณิชย์เมียนมา (MoC) ได้อนุญาตส่งออกข้าวจำนวน 191,700 ตันที่จะส่งไปบังกลาเทศตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ (MoU) โดยจะมีการส่งออกข้าวจำนวน 200,000 ตันด้วยการชำระเป็นเงินหยวนของจีน ตามสัญญา ข้าวขาว (ATAP) พันธุ์ GPCT Broken STX ราคา FOB ที่ส่งออกจะอยู่ที่ 2,788.56 หยวนต่อตัน ซึ่งกรมการค้าของเมียนมาได้ออกใบอนุญาตส่งออกข้าวกว่า 191,700 ตัน มูลค่ากว่า 534 ล้านหยวน ให้กับบริษัทส่งออกข้าว 41 แห่ง ซึ่ง MOU ฉบับนี้ บังคลาเทศได้ตกลงที่จะซื้อข้าวขาว 250,000 ตันและข้าวนึ่งอีก 50,000 ตัน ตั้งแต่ปี 2565-2570 ทั้งนี้ กรมอาหารของบังกลาเทศและสมาพันธ์ข้าวแห่งเมียนมา (MRF) ได้ลงนาม MoU ร่วมกัน โดยได้ส่งข้าวเป็นครั้งแรกในปี 2560 จำนวน 100,000 ตัน และในปี 2564 เป็นครั้งที่ 2

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moc-issues-export-licence-for-rice-to-be-shipped-to-bangladesh-under-mou/

มูลค่าการส่งออกข้าวของสปป.ลาวครึ่งปี 2564 ชะลอตัว

เวียงจันทน์ไทมส์รายงาน มูลค่าการส่งออกข้าวของสปป.ลาวในปี 2564 ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเนื่องจากมาตรการจำกัดโควิด-19 รายงานอ้างคำพูดของกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของสปป.ลาวว่า ข้าวสร้างรายได้กลับสู่ประเทศมากถึง 52.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมูลค่ากว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาจากตลาดที่ใหญ่ๆที่สำคัญได้แก่ จีน เวียดนามและสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตามแม้ว่าจีนจะเปิดพรมแดนบ่อเต็นกับสปป.ลาวอีกครั้งแล้วในเดือนพฤศจิกายน 64 แต่การค้าแบบสองทางยังคงชะลอตัวเนื่องจากมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันจีนซื้อผลิตผลทางการเกษตรที่ส่งออกของลาวมากกว่าร้ยละ 80 ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นมันสำปะหลัง กล้วย แตงโม อ้อย และยาง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/laos-rice-export-value-nearly-halves-in-2021/221665.vnp

จับตาศักยภาพ! ยุโรปขึ้นแท่นผู้นำเข้าข้าว ‘เวียดนาม’

ตามรายงานจาก VietNam Investment Review เปิดเผยว่าความต้องการข้าวจากประเทศในแถบเอเชียเพิ่มสูงขึ้น ตลาดสหภาพยุโรป (EU) จึงถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงแก่ผู้ส่งออกข้าวของเวียดนาม โดยในปี 2564 เวียดนามส่งออกข้าวไปยังยุโรป ปริมาณกว่า 60,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1% ในแง่ของปริมาณ และ 20% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกข้าวหอมมะลิราว 40,000 ตัน มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 ช่วยให้ราคาธัญพืชของเวียดนามปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 10-20 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องมาจากจากความต้องการเพิ่มขึ้น เหตุโควิด-19 ระบาด นอกจากนี้ ตามรายงานของสำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) ชี้ว่ากลุ่มซัพพลายเออร์ข้าวรายใหญ่ 10 อันดับแรกของกลุ่มนี้ ข้าวจากเวียดนามมีราคาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่ 20.3% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 781 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1115829/eu-remains-highly-potential-importer-of-vietnamese-rice.html

‘เวียดนาม’ คาดบรรลุเป้าส่งออกข้าวปีนี้

เวียดนามคาดว่าในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายการส่งออกข้าว 6.3 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลมาจากอุปสงค์ทั่วโลกขยับตัวสูงขึ้นและราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้น ตามรายงานของสถิติกรมศุลกากร เปิดเผยว่าในเดือน ก.ย. เวียดนามส่งออกข้าว 593,600 ตัน เป็นมูลค่า 293.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% ในแง่ของปริมาณ และ 20.5% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ นาย Nguyen Quoc Toan อธิบดีกรมการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ชี้ว่าการส่งออกข้าวเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งตั้งแต่เดือน ก.ย. ถึงแม้ว่าจะคงมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ นอกจากนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงสุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาข้าวหัก 5% อยู่ที่ประมาณ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน แซงหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ เช่น ไทย อินเดียและปากีสถาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1059961/viet-nam-likely-to-achieve-rice-export-target-this-year.html