2024 กัมพูชานำเข้าน้ำมันและก๊าซมูลค่ารวมกว่า 2.69 พันล้านดอลลาร์

รายงานจากกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาเปิดเผยว่า ในปี 2024 กัมพูชานำเข้าน้ำมันดีเซล น้ำมันปิโตรเลียม และก๊าซ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่ารวม 2.69 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นการนำเข้าน้ำมันดีเซลมูลค่ารวม 1.41 พันล้านดอลลาร์ น้ำมันปิโตรเลียม 946 ล้านดอลลาร์ และก๊าซปิโตรเลียม 334 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 7, 11 และ 42 ตามลำดับ ซึ่งกัมพูชายังคงพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและก๊าซทั้งหมด เนื่องจากยังไม่ได้เริ่มการสำรวจและผลิตน้ำมันจากแหล่งสำรองใต้ทะเลของประเทศ โดยคาดว่าความต้องการในการอุปโภคผลิตภัณฑ์น้ำมันของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 ล้านตันในปี 2030 จาก 2.8 ล้านตันในปี 2020 นอกจากนี้ กัมพูชายังนำเข้ายานพาหนะทุกประเภทมูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 จากปีก่อนหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501627507/cambodia-spents-2-69-bln-on-oil-gas-imports-in-2024/

รมว.พลังงานเมียนมา หารือถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลภาคพลังงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งสหภาพเมียนมา นายโค โก ลวิน ได้เข้าพบกับอธิการบดีและรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งย่างกุ้ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี (ตันลยิน) และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยในการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ภาคพลังงานเป็นภาคส่วนสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัฐ และกระทรวงกำลังทำงานอย่างหนักภายใต้หัวข้อ “2025 ปีแห่งพลังงานเมียนมา” เพื่อให้แน่ใจว่าภาคพลังงานมีนวัตกรรม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องจะสนับสนุนการสร้างศักยภาพของนักธรณีวิทยารุ่นใหม่ วิศวกรน้ำมัน วิศวกรอุตสาหการและเคมี และมีแผนที่จะมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงพลังงานจะร่วมกันเปิดหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ในสาขาธรณีวิทยาปิโตรเลียมที่มหาวิทยาลัยเยนังยัง เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2025 นอกจากนี้ กระทรวงจะจัดเตรียมโอกาสในการทำงานให้กับผู้สำเร็จการศึกษาด้วย อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีพลังงาน กล่าวเสริมว่า โปรแกรมการฝึกอบรมผู้ฝึกสอน (ToT) สำหรับคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ จะเปิดตัวขึ้นหลังจากการจัดตั้งโรงเรียนฝึกอบรมทักษะด้านพลังงานในเมืองปยีนอูลวีน

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/moe-union-minister-discusses-hr-development-in-energy-sector/#article-title

เดินหน้าผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า LNG

พลเรือเอกทิน ออง ซาน ประธานคณะกรรมการพัฒนาไฟฟ้าและพลังงานแห่งชาติ กล่าวในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาไฟฟ้าและพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 ที่สำนักงาน SAC ในกรุงเนปิดอว์ ว่า ไฟฟ้าและพลังงานเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการปรับปรุงชีวิตประจำวันของประชาชน และดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากในประเทศและต่างประเทศ (FDI) ที่เพิ่มขึ้น ในภาคการผลิตไฟฟ้า เมียนมาพึ่งพาพลังงานน้ำและก๊าซธรรมชาติเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องขยายการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนให้เกินระดับปัจจุบัน จึงมีการพยายามผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การทำลายโครงข่ายไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าแห่งชาติโดยการก่อวินาศกรรมทำให้โรงไฟฟ้าไม่สามารถผลิตและจ่ายไฟฟ้าได้ ทำให้การผลิตก๊าซธรรมชาติลดลง การบำรุงรักษาท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ทำให้เกิดความท้าทายอย่างมากในการดำเนินการโรงไฟฟ้าและการผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ เขาเปิดเผยว่ากำลังมีการพยายามจัดสรรไฟฟ้าที่มีอยู่ให้ผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นโดยจัดกลุ่มตามเวลาที่ใช้ในการจ่ายไฟฟ้า ในการดำเนินโครงการพัฒนา อย่างไรก็ดี ทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยี และการลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องเชิญชวนการลงทุนและเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็สร้างกรอบการทำงานที่สามารถดึงดูดและปกป้องนักลงทุนได้ ดังนั้น จึงมีความสำคัญที่จะต้องทบทวนและประเมินกฎหมาย นโยบาย และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง เขาเรียกร้องให้รัฐมนตรีและผู้เชี่ยวชาญของสหภาพที่เกี่ยวข้องแนะนำการผลิตไฟฟ้าจากสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างคันดินเตี้ยใน 4 สถานที่ที่ได้รับความสำคัญจากทั้งหมด 16 แห่งในเขตอิรวดี โดยเน้นย้ำต้องหารือถึงศักยภาพในการก่อสร้างอาคารใหม่เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อป้อนให้กับโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ พร้อมทั้งมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการเผยแพร่กฎหมายและประกาศต่างๆ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนยังได้รับการกระตุ้นให้หารือถึงภาคส่วนพลังงานเพื่อดำเนินการอัปเกรดแหล่งน้ำมันบนบกและนอกชายฝั่ง ปรับปรุงแหล่งน้ำมันที่มีอยู่ และปรับปรุงกระบวนการสำหรับการดำเนินการกลั่นน้ำมัน

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/efforts-underway-to-generate-electricity-from-lng-power-plants/

กระทรวงพลังงานเดินหน้าขุดเจาะบ่อน้ำมันลึกเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน

กระทรวงพลังงานได้ประกาศแผนการจัดหาเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญระดับสากลเพื่อเจาะบ่อน้ำมันเก่าให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันด้วยว่าจะมีการขุดเจาะหลุมใหม่ 2 หลุมในปีงบประมาณ 2567-2568 โดยมีบริษัท Myanma Oil and Gas Enterprise จะดูแลการขุดเจาะหลุมเหล่านี้ ด้วยความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญจาก MPRL E&P Company อย่างไรก็ดี หลุมที่ได้รับการอนุมัติเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะเข้าถึงระดับความลึกที่กระทรวงกำหนด และสร้างเหตุการณ์สำคัญใหม่ในประวัติศาสตร์การผลิตน้ำมัน เนื่องจากความพยายามก่อนหน้านี้ต้องดิ้นรนในการผลิตน้ำมันจากทรายที่มีไฮโดรคาร์บอนซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ดิน นอกเหนือจากความพยายามในการวิจัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มการผลิตในแหล่งน้ำมันที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่ยังมุ่งเน้นไปที่การประสานงานและการแบ่งปันความรู้อีกด้วย รวมทั้งกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินมาตรการเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และการขุดเจาะบ่อน้ำลึกในแหล่งน้ำมันเก่า ตลอดจนการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moe-advances-deep-well-drilling-to-boost-oil-production/

ก๊าซธรรมชาติจำนวน 9.5 ล้านลูกบาศก์ฟุต ถูกจ่ายให้กับโรงงานปุ๋ยยูเรียทุกวัน

กระทรวงพลังงานระบุว่า มีการจ่ายก๊าซธรรมชาติประมาณ 9.5 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อให้โรงงานปุ๋ยยูเรียดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงกำลังวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตปุ๋ยยูเรียเพื่อให้แน่ใจว่าโรงงานปุ๋ยจะดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง สำหรับการพัฒนาภาคเกษตรกรรม ทั้งนี้ โรงงานปุ๋ยแห่งที่ 4 ในเมืองเมียงดากา และโรงงานปุ๋ยแห่งที่ 5 ในเมืองกังยีดานท์ ใกล้จะสิ้นสุดระยะเวลาการรับประกันแล้ว ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับงานบำรุงรักษาและซ่อมแซม เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานและการผลิตมีความต่อเนื่อง ในทำนองเดียวกัน กระทรวงกำลังจัดการบำรุงรักษาโรงงานปุ๋ยและโรงกลั่นน้ำมันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และกำลังพยายามเพิ่มการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติด้วยการทดสอบบล็อกใหม่ อย่างไรก็ดี กระทรวงผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 1.4 ล้านบาร์เรลและผลิตก๊าซธรรมชาติ 888 ล้านลูกบาศก์ฟุตจากแหล่งน้ำมันภายในประเทศ 10 แห่งจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ในปีงบประมาณ 2566-2567

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/9-5m-cubic-feet-of-natural-gas-distributed-daily-to-urea-fertilizer-factories/#article-title

นักลงทุนเรียกร้องให้สนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานในกัมพูชา

ทางการกัมพูชายินดีกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการลงทุนจากทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตพลังงานทดแทนที่เป้าหมายร้อยละ 70 ของกำลังการผลิต และการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายทั้งหมด (TFEC) ลดลงร้อยละ 19 กล่าวโดย Keo Rottanak รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนนักลงทุนในภูมิภาค โดยได้กล่าวไว้ในการประชุมสุดยอดธุรกิจกัมพูชา-อาเซียนประจำปี 2024 ขณะที่เป้าหมายของกัมพูชาคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 จะบรรลุเป้าหมายทางด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการกำหนดกลยุทธ์ 4 ประเด็น เพื่อบรรลุเป้าหมายพลังงานสีเขียว โดยเน้นไปที่การเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน รวมถึงประเทศกำลังสร้างโครงข่ายที่ยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสภาวะและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำให้การซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดนเป็นจริง ไปจนถึงการผลักดันให้กัมพูชามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อกำหนดนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EVS) ซึ่งคาดว่ารถยนต์ร้อยละ 40 และรถจักรยานยนต์ร้อยละ 70 ในกัมพูชาจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2050

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501466705/investors-urged-to-support-kingdoms-energy-goals/

คณะผู้แทนเมียนมาเข้าร่วมการประชุม XIII International Forum ATOMEXPO 2024

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม คณะผู้แทนเมียนมา นำโดยดร.เมียว เต็ง จ่อ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสหภาพ พร้อมด้วยอู ธิต ลิน โอห์น เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมนานาชาติครั้งที่ 13 ATOMEXPO 2024 ที่เมืองโซชี สหพันธรัฐรัสเซีย โดยรัฐมนตรีและพรรคสหภาพแรงงานเข้าร่วมการเสวนาโต๊ะกลมเรื่อง Advanced Training for Generation IV NPP Personnel: Driver for Sustainable Development ในเช้าวันเดียวกัน จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์การฝึกอบรมและการทดลองหุ่นยนต์ Sirius ของ Proryv และสังเกตหุ่นยนต์คุณภาพสูง หุ่นยนต์หลายบทบาทและหุ่นยนต์ขนส่ง และอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับการผลิตแบบไร้คนขับ พร้อมโมดูลที่เปลี่ยนได้ซึ่งเครื่องจักรสามารถให้บริการได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายรัฐมนตรีสหภาพแรงงานร่วมเสวนาในหัวข้อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์: ตัวขับเคลื่อนโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพลังงานนิวเคลียร์ในฐานะทรัพยากรที่สำคัญสำหรับพลังงานที่มีแนวโน้ม สะอาด และยั่งยืนในการกำหนดอนาคต การใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติซึ่งสามารถรับประกันการส่งเสริมชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับสาธารณะในระยะยาว ข้อผูกพันระยะยาวสำหรับโครงการปรมาณูที่ปลอดภัยและยั่งยืน การสนับสนุนหน่วยงานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ในเมียนมา ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม และนิวเคลียร์ของรัฐบาลกลาง และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของเมียนมาในอาเซียน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-delegation-attends-2nd-day-of-xiii-international-forum-atomexpo-2024/

กัมพูชา-สปป.ลาว ขยายความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้า

นายกรัฐมนตรี ฮุน มานิต ของกัมพูชา และนายกรัฐมนตรี Sonexay Siphandone แห่ง สปป.ลาว ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง 3 ฉบับ และ บันทึกความเข้าใจ (MoUs) อีก 4 ฉบับ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเน้นการขยายความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านการค้าพลังงานไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาด้านพลังงานในกัมพูชา โดยทั้งสองท่านได้ร่วมเป็นประธานในการลงนามเอกสารทั้งเจ็ดฉบับ ซึ่งห้าฉบับเป็นความตกลงด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของกัมพูชา โดยเฉพาะโครงการระหว่างกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน (MME) และ การไฟฟ้าแห่งประเทศ สปป.ลาว (EDL) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อซื้อพลังงานสีเขียวจากโครงการ Green Energy Supply ซึ่งวางแผนจัดหาพลังงานมายังกัมพูชา 1,000 เมกะวัตต์ จากโครงการพลังงานน้ำ พลังงานลม และ พลังงานความร้อนใต้พิภพ (พลังงานหมุนเวียนที่ได้จากแก่นโลก) มายังกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501462332/kingdom-laos-agree-to-widen-energy-cooperation/

Chevron พร้อมขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันในกัมพูชา

บริษัท Chevron ซึ่งมีบริษัทแม่ในสหรัฐฯ ขยายการลงทุนมายังกัมพูชา ภายใต้ บริษัท Chevron (Cambodia) จำกัด โดยได้เปิดเผยแผนธุรกิจที่กำหนดไว้ว่าจะเปิดตัวสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเติมในกัมพูชา รวมถึงคำนึงถึงความพยายามของประเทศในการร่วมสำรวจแหล่งน้ำมันสำรองกับประเทศไทยในพื้นที่ทับซ้อน (OCA) ซึ่งพื้นที่ OCA ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร และคาดว่าจะกักเก็บน้ำมันและก๊าซไว้ใต้พื้นทะเลมากถึง 500 ล้านบาร์เรล กล่าวโดย Keo Ratanak รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชา (MME) ภายหลังการประชุมกับ Frank Cassulo รองประธานใหญ่ บริษัท Chevron ในกรุงพนมเปญ ซึ่งบริษัทได้เริ่มเข้าลงทุนในกัมพูชานับตั้งแต่ปี 2021 มีสถานีบริการในปัจจุบันรวม 53 แห่ง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันในกัมพูชาอีก 100 สถานี เพื่อรองรับกับอุปสงค์ภายในประเทศ ด้านกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชาได้เปิดเผยว่ากัมพูชานำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมในปีก่อนมูลค่ารวมอยู่ที่ 849 ล้านดอลลาร์ และน้ำมันดีเซลอีกราว 1.32 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งขยายตัวต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501440827/chevron-to-expand-service-station-network-in-cambodia/

สปป.ลาว เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่

กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ สปป.ลาว ประกาศเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูงของกระทรวง เพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ภายในกระทรวงพลังงานฯ โดยได้แต่งตั้งนายสินาวา สุภานุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ขึ้นเป็นรัฐมนตรี และให้นายจันทบูน สุขะลุน อดีตผู้อำนวยการการไฟฟ้าลาว (EDL) และนายชาญสะแวง บุ่งนอง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ ทั้งนี้ การปรับปรุงระบบองค์กรของกระทรวง รวมถึงการจัดสรรบุคลากรระดับสูงอย่างเหมาะสม ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากคำแนะนำของพรรค “การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการตัดสินใจในระหว่างการประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 9 ของพรรคปฏิวัติประชาชนลาว” นายโพไซ สายะสอน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่กล่าวในพิธีส่งมอบตำแหน่งครั้งนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_34_Energy_y24.php