‘EVFTA’ ผลักดันหนุนการส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดออสเตรเลีย

ยอดการค้าระหว่างเวียดนามและออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 256.8 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552 มาอยู่ที่ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 อย่างไรก็ดี เมื่อปีที่แล้ว จากการได้รับผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ยอดการค้ารวมลดลงเหลือเพียง 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และข้อสังเกตจากการค้า ชี้ให้เห็นว่าเวียดนามเกินดุลการค้ากับออสเตรเลียมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 ทั้งนี้ ตามข้อมูลของศูนย์พาณิชยกรรมระหว่างประเทศ (ITC) เผยว่ายอดการนำเข้าของออสเตรเลียจากเวียดนาม พุ่ง 184% เป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในบรดาตลาดนำเข้า 50 อันดับแรกของออสเตรเลีย โดยการเติบโตของการค้านั้น เป็นผลมาจากได้รับอนิสงค์จากความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA)

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/evfta-set-to-boost-vietnamese-exports-to-austrian-market-870415.vov

ธุรกิจออสเตรเลีย เล็งลงทุนการเกษตรในเวียดนาม

ธุรกิจท้องถิ่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของประเทศออสเตรเลีย ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมเทคโนโลยีการเกษตร ตลอดจนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในเวียดนาม เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่น่าจับตามองสำหรับบริษัทต่างๆ ทั้งนี้ Karla Lampe ผู้อำนวยการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและส่งเสริมการตลาด กล่าวที่ประชุมออนไลน์ ประเด็นสำรวจโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม พบว่าเวียดนามมีข้อได้เปรียบของประชากรและการยกระดับของผู้ที่มีรายได้ปานกลาง ได้สร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับกิจการออสเตรเลียมากขึ้น อีกทั้ง เวียดนามยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 9 ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยธุรกิจในรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้ความสำคัญกับการเกษตร อาหารและเครื่องดื่มเป็นลำดับสูงสุดสำหรับการลงทุนในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/australian-businesses-interested-in-agritech-in-vietnam/203572.vnp

ออสเตรเลีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์มอบเงิน 13 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงลุ่มน้ำโขง

ออสเตรเลีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ให้คำมั่นที่จะให้เงินทุนเกือบ 13 ล้านดอลลาร์แก่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่เร่งด่วน การสนับสนุนนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาสังคม และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงอย่างกัมพูชา สปป.ลาว ไทย และเวียดนาม ตามแผนยุทธศาสตร์ปี 2564-2568 ที่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) วางไว้ ซึ่งภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงจะมีแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าแห่งชาติให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ยังรวมถึงความมั่นคงของอาหารของประทศในลุ่มแม่น้ำโขง ตลอดจนการพัฒนาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Australia122.php

รัฐบาลออสเตรเลียให้ทุนครอบคลุมวัคซีน 1 ล้านโดสในลาว

รัฐบาลออสเตรเลียมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 15.2 ล้านเหรียญออสเตรเลียแก่สปป.ลาว เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมปริมาณ 1 ล้านโดส ทุนนี้ยังครอบคลุมถึงการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับวิธีการฉีดวัคซีนอย่างปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิด้านสาธารณสุขของสปป.ลาว นายพอลเคลลีเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสปป.ลาวกล่าวว่า “รัฐบาลออสเตรเลียยินดีที่ได้ช่วยเหลือประชาชนลาวในช่วงเวลาที่ต้องการ การดูแลให้สปป.ลาวเข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญและมีความสำคัญเร่งด่วนสำหรับรัฐบาลออสเตรเลีย” ทั้งนี Mr.Pany Yathotou รองประธานาธิบดีสปป.ลาวกล่าวเพิ่มเติมว่า “เงินช่วยเหลือจากออสเตรเลียเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าวัคซีนโควิด -19 จะเปิดตัวในสปป.ลาวอย่างมีประสิทธิภาพ เงินส่วนใหญ่จะใช้ในการซื้อยาและเพื่อช่วยลาวในการกระจายและบริหารวัคซีน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการรณรงค์ข้อมูลสาธารณะเผยแพร่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีนและการแปลข้อมูลเป็นภาษากลุ่มชาติพันธุ์เพื่อการสื่อได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://thethaiger.com/coronavirus/australian-government-provides-grant-to-cover-1-million-vaccine-doses-in-laos

ไทยร่วมถกอัปเกรดเอฟทีเอ “ออสซี-กีวี” ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ครั้งที่ 12 เพื่อปรับปรุงความตกลงให้ทันกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลังบังคับใช้มาครบ 10 ปี หรือตั้งแต่ปี 53 ว่า ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นที่ควรจะปรับปรุง เช่น มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี, กฎถิ่นกำเนิดสินค้า, การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตัวเอง, พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า เป็นต้น ตั้งเป้าหมายปรับปรุงให้เสร็จภายในปี 65 สำหรับเอฟทีเอดังกล่าว มีบทบาทต่อการค้าและการลงทุนในภูมิภาค ซึ่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าจากอาเซียนทุกรายการแล้ว ส่วนไทยได้ยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าจาก 2 ประเทศในสัดส่วน 98% ของสินค้าที่ค้าขายกัน การส่งออกของไทยไป 2 ประเทศไตรมาสแรกของปีนี้ มีมูลค่า 3,432.75 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 21.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ขนส่งน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน, รถยนต์ขนาดเครื่องยนต์ 1,500-2,500 ซีซี,ปลาทูน่าแปรรูป เป็นต้น

ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/economics/2090840

กัมพูชาร่วมกับออสเตรเลียหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยลงทุน

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ร่วมกับโครงการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าการเกษตรกัมพูชา – ออสเตรเลีย (CAVAC) ได้มีการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยลงทุนทางการเกษตรและอาหาร โดยมีวัตถุประสงค์ในการพูดคุยเพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อมูลจากกระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดตั้งหน่วยลงทุนภายใต้ความร่วมมือระหว่าง CDC และ CAVAC ซึ่งหน่วยลงทุนด้านการเกษตรคาดว่าจะสร้างความสะดวกให้แก่นักลงทุนที่สนใจลงทุนในด้านการเกษตร โดยจะมีการอัพเดทข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบ สิ่งจูงใจและเงื่อนไขที่จำเป็น ผ่านการจัดทำกลยุทธ์เพื่อเผยแพร่ศักยภาพการลงทุนให้กับนักลงทุนได้พิจารณาลงทุน โดยคาดว่าหากจัดตั้งหน่วยลงทุนได้แล้วจะช่วยดึงดูดนักลงทุนด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรให้มาลงทุนในกัมพูชามากขึ้น ตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมของกัมพูชาประจำปี 2015-2025 และการดำเนินกลยุทธ์การดึงดูดการลงทุนให้เป็นเป้าหมาย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50816226/cambodia-australia-discuss-establishment-of-agri-food-investment-unit/

กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังออสเตรเลียเพิ่มขึ้นในช่วง 10 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังออสเตรเลียรวม 25,994 ตัน ในช่วง 1 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้าวอินทรีย์ (SRP: Sustainable Rice Platform) โดย CRF กล่าวว่าทางฝั่งกัมพูชายินดีเป็นอย่างมากที่รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้การสนับสนุนภาคเกษตรกรรมของกัมพูชา นอกจากการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นแล้วบริษัทออสเตรเลียจำนวนหนึ่งยังให้ความสนใจในการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในกัมพูชาอีกด้วย ซึ่งกัมพูชาส่งออกข้าวเปลือกทั้งสิ้น 536,305 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบรายปี สร้างรายได้ประมาณ 366.44 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50783475/cambodias-rice-exports-to-australia-up-by-53-percent-in-first-10-months/

ออสเตรเลียให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า 78.9 ล้านเหรียญออสฯ ให้กับเวียดนาม

ตามคำแถลงการณ์ประกอบงบประมาณของรัฐบาลออสเตรเลียในปี 2020-2021 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance: ODA) ไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เงินทุนในการช่วยเหลือดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านเหรียญออสฯ (2.9 ล้านเหรียญออสฯ) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเวียดนามจะได้รับเงินทุนราว 78.9 ล้านเหรียญออสฯ (หรือ 56.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีงบประมาณ 2020-2021 ทั้งนี้ โครงการช่วยเหลือของออสเตรเลียในเวียดนามนั้น มีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้เวียดนามเข้าสู่ช่วงใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เวียดนามเป็นที่ตั้งโครงการทางการเงินของออสเตรเลีย 500 โครงการ ด้วยเงินทุนรวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้ง การค้าระหว่างสองประเทศสูงถึง 7.732 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/australia-to-provide-aud789-million-oda-for-vietnam-24979.html

SECC ของกัมพูชาและออสเตรเลียร่วมมือกันปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุน

รัฐบาลออสเตรเลียร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (SECC) เปิดตัวการระดมทุนภายในประเทศ เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านโครงการ Security Market Project ซึ่งคาดว่าหากตลาดทุนในประเทศมีประสิทธิภาพจะช่วยให้กัมพูชาสามารถกระจายการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19 โดยออสเตรเลียได้ให้การสนับสนุนโครงการมูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญออสเตรเลียผ่าน “Investing in Infrastructure (3i)” ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียร่วมมือกับ SECC เพื่อปรับปรุงการระดมทุนในประเทศสำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคเพื่อพัฒนากรอบการกำกับดูแลหนี้สินระยะยาว การสร้างขีดความสามารถของผู้มีส่วนร่วมในตลาด และการพัฒนามาตรการ เพื่อให้ภาคเอกชนในกัมพูชามีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50771221/secc-australia-team-up-to-improve-domestic-capital-mobilisation-for-infrastructure-investment/

ออสเตรเลียเริ่มทำการสอบสวนการทุ่มตลาดเหล็กของเวียดนาม

คณะกรรมการตรวจสอบการทุ่มตลาดของออสเตรเลีย (Anti-Dumping Commission: ADC) เริ่มดำเนินการตรวจสอบ 2 คดีที่เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการทุ่มตลาดและการตอบโต้การอุดหนุนแก่เหล็กเคลือบโลหะผสมจากเวียดนามและอีกหลายประเทศ ซึ่งรหัสสินค้าข้างต้น “7210.61” และ “7225.99” ที่มีความกว้างอย่างน้อย 600 มม.หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 – 31 มี.ค. 2563 ขณะที่  ระยะเวลาในการสอบสวนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2016 จนถึงปัจจุบัน พบว่าเวียดนาม ไต้หวันและเกาหลีได้ถูกดำเนินการสอบสวนเรื่องการทุ่มตลาด โดยเฉพาะเวียดนามและจีนที่ถูกดำเนินเรื่องการตอบโต้การอุดหนุนและการทุ่มตลาดในหมวดหมู่นี้ ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลด้านมาตรการค้าของเวียดนาม แนะนำให้ทางสมาคมหัตถกรรมและธุรกิจเพื่อส่งออกร่วมมือกับคณะกรรมการ ADC อย่างใกล้ชิด รวมถึงเร่งการตรวจสอบเนื้อหาจากมาตรการดังกล่าว

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/australia-initiates-dumping-probe-into-vietnamese-steel-416169.vov