ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในวันที่ 26 มกราคม

ราคาน้ำมันของเมียนมาแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในหนึ่งวัน 120 จ๊าดต่อลิตรในตลาดเชื้อเพลิงในประเทศ โดยเมื่อวันที่ 25 มกราคม ราคาน้ำมันค่าออกเทน 92 อยู่ที่ 2,585 จ๊าดต่อลิตร น้ำมันค่าออกเทน 95 อยู่ที่ 2,720 จ๊าดต่อลิตร ต่อมาในวันที่ 26 มกราคม ราคาน้ำมันค่าออกเทน 92 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,705 จ๊าดต่อลิตร ในขณะน้ำมันค่าออกเทน 95 อยู่ที่ 2,845 จ๊าดต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซล และดีเซลพรีเมียมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2,430 จ๊าดต่อลิตร และ 2,495 จ๊าดต่อลิตร ในวันที่ 25 มกราคม เป็น 2,450 จ๊าดต่อลิตร และ 2,515 จ๊าดต่อลิตร ในวันที่ 26 มกราคม อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาที่กำหนดโดย Mean of Platts Singapore (MOPS) ซึ่งเป็นพื้นฐานการกำหนดราคาสำหรับผลิตภัณฑ์กลั่นจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาเชื้อเพลิงในประเทศ ตามการระบุของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการนำเข้า การจัดเก็บ และการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ รัฐกำลังขับเคลื่อนตลาดเพื่อลดการสูญเสียระหว่างผู้นำเข้า ผู้ขาย และผู้ใช้พลังงาน รวมทั้งพยายามจำหน่ายน้ำมันในราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/petrol-prices-indicate-sharp-rise-on-26-jan/#article-title

ราคายางเมียนมามีแนวโน้มขาขึ้น

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ราคายางยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่มากกว่า 1,700 จ๊าดต่อปอนด์ในตลาดยางของรัฐมอญ โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ขึ้นสูงสุดที่ 1,745 จ๊าดต่อปอนด์ และ 1,730 จ๊าดต่อปอนด์สำหรับยางตากแห้ง ซึ่งจากเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม ราคายางตากแห้งแตะ 1,610 จ๊าดต่อปอนด์และยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 1,630 จ๊าดต่อปอนด์ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 115-125 จ๊าดต่อปอนด์ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ความต้องการยางจากทั่วโลก การผลิตยางของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอุปทานในตลาดมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับราคายางของเมียนมา ทั้งนี้ ณ วันที่ 29 ธันวาคม เมียนมาส่งออกยาง 114,855 ตัน โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 144.046 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2023-2024 นอกจากนี้ การผลิตยางในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมามีมากกว่า 360,000 ตัน และมีการขนส่งยางมากกว่า 200,000 ตันไปยังคู่ค้าต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-prices-on-upward-trend/#article-title

รมว.ท่องเที่ยวอาเซียนเข้าร่วมประชุม M-ATM ครั้งที่ 27 ที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว

รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จัดการประชุมครั้งที่ 27 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมุ่งมั่นเพื่อการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบสูง และยังคงส่งเสริมอาเซียนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน นางสวนสะหวัน วิกนาเกตุ รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ ได้หารือเกี่ยวกับข้อเสนอแนะขององค์การการท่องเที่ยวแห่งชาติอาเซียน (NTOS) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคโดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเชื่อมต่อที่มากขึ้นเพื่อเชื่อมโยงเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ในอาเซียนให้มากขึ้นและส่งเสริมจุดหมายปลายทางร่วมกัน จุดหมายปลายทางและเมืองบางแห่งในอาเซียนขาดเส้นทางบินที่เหมาะสมในการเชื่อมต่อระหว่างกัน ดังนั้น ความพยายามในการฟื้นฟูและปรับปรุงการเชื่อมต่อทางอากาศจะต้องดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศและภายในอาเซียนโดยการสร้างเที่ยวบินตรงเชื่อมโยงจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญและไม่ค่อยมีใครรู้จักของอาเซียนกับเมืองหลัก เมืองรอง และตลาดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_19_Asean_y24.php

รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ชี้ เศรษฐกิจ สปป.ลาว ยังมีศักยภาพ แม้เผชิญปัญหาทางการเงิน

วิเวียน บาลา กริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวระหว่างการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ “สปป.ลาว มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมหาศาล แม้จะเผชิญปัญหาทางการเงิน และเศรษฐกิจจะเจริญเติบโตได้ หากมีโครงสร้างพื้นฐานและกรอบนโยบายที่เหมาะสม” โดยสิงคโปร์สามารถทำงานอย่างใกล้ชิดกับลาว เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นผ่านการศึกษาและการฝึกอบรม ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่ สปป.ลาว เข้าสู่ตลาดโลก รวมถึงการขายคาร์บอนเครดิต

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/singapore-can-help-laos-realise-its-potential-says-vivian-as-the-2-nations-mark-50-years-of-diplomatic-ties?utm_campaign=stfb&utm_medium=social&utm_source=facebook&fbclid=IwAR1k3_HFuLL-O-WcipGYQwcsMHWZgvkc2W5oZuLlTYxEk0KD7dadmvmfuU4

กัมพูชาคาดพลังงานทดแทนจะเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานภายในประเทศ

คาดแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตได้ภายในประเทศกัมพูชาจะคิดเป็นเกือบร้อยละ 70 ของการผลิตไฟฟ้าของกัมพูชาในปีนี้ กล่าวโดย Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในระหว่างการประชุมของกัมพูชาและเกาหลี ซึ่งคาดว่าการหารือดังกล่าวจะกระตุ้นให้นักลงทุนชาวเกาหลีเข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้น สำหรับกัมพูชามีแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า (PDP) ในช่วงปี 2022-2040 โดยเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับนโยบายที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ซึ่งคาดว่าการผลิตไฟฟ้าโดยพลังงานแสงอาทิตย์ของกัมพูชาจะสูงถึง 3,155 เมกะวัตต์ ภายในปี 2040 ครอบคลุมสัดส่วนการผลิตไฟฟ้ากว่าร้อยละ 45 จากการผลิตพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ขณะที่แผนการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจะเพิ่มขึ้นจาก 1,330MW เป็น 1,560MW ภายในปี 2030 และ 3,000MW ภายในปี 2040 และจากพลังงานจากชีวมวลหมุนเวียนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดอีกแหล่งหนึ่งจะเพิ่มขึ้นจาก 27MW ในปี 2022 เป็น 98MW ในปี 2030 และ 198MW ในปี 2040

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501429249/renewable-energy-to-give-70-of-power-in-cambodia-this-year/

GDT รายงานการจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซในกัมพูชาแตะ 75 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023

กรมสรรพากร (GDT) รายงานการจัดเก็บภาษ๊มูลค่าเพิ่ม (VAT) มูลค่ารวมกว่า 75.5 ล้านดอลลาร์ จากภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 2023 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มูลค่า 44 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการจัดเก็บภาษีอันเกิดจากระบบการจัดเก็บภาษีใหม่ของ GDT ร่วมกับการตระหนักรู้ในการชำระภาษี และการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่าง Google, Facebook, YouTube, Alibaba, Microsoft และ TikTok ซึ่งเริ่มจัดเก็บตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 สำหรับการจัดเก็บภาษีโดยภาพรวม GDT รายงานการจัดเก็บภาษีไว้ที่ 3.61 พันล้านดอลลาร์ ในปีดังกล่าว ซึ่งเท่ากับร้อยละ 101 ของเป้าหมายการจัดเก็บภาษี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501429247/gdt-nets-75-million-from-e-commerce/

‘นายกฯ เวียดนาม’ สั่งสำรองน้ำมันให้เพียงพอในช่วงเทศกาลเต็ด

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เพิ่งลงนามในคำสั่งอย่างเป็นทางการ โดยสั่งให้กระทรววง หน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการที่จะใช้อำนาจตามมาตรการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันเพียงพอต่อการผลิต การดำเนินธุรกิจและการบริโภคในช่วงเทศกาลเต๊ด (ตรุษจีน) เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ก.พ. รวมถึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เกาะติดสถานการณ์ราคาน้ำมันทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และเร่งตรวจสอบทิศทางของตลาดน้ำมัน เพื่อรับมือกับการจัดสรรน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาดได้อย่างทันที

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/pm-orders-sufficient-petrol-supply-during-tet-post1073806.vov

‘อุตสาหกรรมการบินเวียดนาม’ มีแนวโน้มฟื้นตัวปี 67

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าตลาดการบินของเวียดนามมีแนวโน้มที่จะกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี 2567 ในขณะที่ตามรายงานของสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกจะฟื้นตัวในปีนี้ โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะทำกำไรราว 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ภาคการบินของเวียดนามจะให้บริการผู้โดยสาร จำนวนทั้งสิ้น 84.2 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ 6% จากปี 2562  ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ สายการบินภายในประเทศ ระบุว่าบริษัทจะให้บริการประมาณ 33,800 เที่ยวบินในช่วงวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติ (Tet) ระหว่างวันที่ 24 ม.ค.-2 ก.พ. เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/domestic-aviation-industry-poised-for-full-recovery-in-late-2024-post1073805.vov