เมืองโฮจิมินห์เผยดัชนี CPI ปรับตัวลดลง 0.33% ในเดือนพ.ค.

สำนักงานสถิติประจำเมือง เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเมืองโฮจิมินห์ของเวียดนาม ในเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.33 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและร้อยละ 1.38 เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2562 อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ต. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ มีสินค้าและบริการ 11 รายการที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน กลุ่มขนส่งดิ่งลงอย่างหนักร้อยละ 2.29 รองลงมาอาหารและบริการจัดเลี้ยง (0.41) และกลุ่มที่อยู่อาศัย ไฟฟ้า พลังงานและวัสดุก่อสร้าง (0.97) แต่สำหรับกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและการศึกษายังไม่แสดงเห็นความผันผวนมากนัก ขณะที่กลุ่มอื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ดัชนี CPI เฉลี่ยของเทศบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.76 เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrol-prices-continue-to-rise-in-latest-adjustment/174029.vnp

เทศกาลผักผลไม้เวียดนามในฮานอย

งานเทศกาลผักผลไม้เวียดนาม – ภายในงานมีผลไม้และสินค้าเกษตรอื่นๆหลากหลายด้วยกันที่มาจากฟาร์มชนบท เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทังลอง กรุงฮานอย งานนี้เปิดตัววันที่ 30 พฤษภาคม ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเมืองหลวงปีนี้ โดยวัตถุประสงค์ของงานเทศกาล เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวแทนจังหวัดและเมืองกว่า 17 แห่ง ร่วมเป็นพันธมิตรกับบิ๊กซีและเครือขายค้าปลีกอื่นๆ  ซึ่งภายในงานเน้นผลผลิตจำหน่าย ได้แก่ ลิ้นจี่ มะม่วง พลัม องุ่นและสัตว์น้ำ พร้อด้วยผักต่างๆที่ปลูกในชนบท ทั้งนี้ รองผู้อำนวยการกรมอุสาหกรรมและการค้าฮานอย กล่าวว่าในปัจจุยันผลผลิตสินค้าเกษตรอยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ดังนั้น สัปดาห์นี้จะเป็นผลดีต่อชาวเกษตรกรท้องถิ่น ในการโฆษณาและกระตุ้นยอดขายหลังจากสิ้นสุดโควิด-19 และเป็นโอกาสที่ดีต่อธุรกิจท้องถิ่น ที่จะเรียนรู้ภถึงวิธีการจัดจำหน่ายผ่านระบบซูเปอร์มาร์เก็ต

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fruit-farm-produce-week-underway-in-hanoi/174141.vnp

MOEE เดินหน้าประมูลน้ำมันและก๊าซในปีนี้

เมียนมาประมูลการสำรวจน้ำมันและก๊าซรอบใหม่ที่สำคัญในปีนี้ จะมีการเปิดบล็อกเปิดสำหรับการเสนอราคาระหว่างประเทศ นี่เป็นการประมูลระหว่างประเทศครั้งแรกภายใต้รัฐบาลของนางอองซานซูจี กระทรวงให้คำมั่นที่จะเปิด 33 บล็อกใหม่สำหรับการประมูลต่างประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว แต่มีความล่าช้าเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องการร่างกฎหมายปิโตรเลียม หากร่างกฎหมายไม่ได้แก้ไขอาจทำให้นักลงทุนไม่สนใจที่จะลงทุน นักวิเคราะห์เตือนว่าเนื่องจากราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่ำกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจดิ่งลงไปที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐ เมียนมาอาจจำเป็นต้องเสนอส่วนลดเพื่อดึงดูด ภาคน้ำมันและก๊าซมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาวะการคลัง ในปี 2560-2561 การขนส่งก๊าซธรรมชาติคิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้การส่งออกทั้งหมดของประเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/moee-go-ahead-oil-and-gas-bidding-round-year.html

เงินบาทไทยแข็งค่ารั้งอันดับ 2 รองจากรูเปียห์อินโดนีเซีย

ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31.70-32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เกาะติดปัญหาความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน การประชุมอีซีบี ระบุเดือนพ.ค.บาทไทยแข็งค่ารั้งอันดับ 2 ในภูมิภาค  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.70-32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยแนวโน้มแข็งค่า เนื่องจากธนาคารกลางยุโรปจะออกมาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม  หลังจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิดทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นและมีแรงเทขายดอลลาร์สหรัฐกดดันให้ดอลลาร์ฯอ่อนค่าลง ด้านการเคลื่อนไหวของค่าเงินในภูมิภาค.พบว่า รูเปียห์-อินโดนีเซียแข็ง 1.86 % บาท-ไทยแข็งค่า 1.72% เยน-ญี่ปุ่นทรงตัว 0%  ส่วนสกุลอื่นอ่อนค่า เช่น  ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.1 % เปโซ-ฟิลิปปินส์  0.37% รูปี-อินเดีย 0.68%  ริงกิต-มาเลเซีย 0.96 % หยวน-จีน 1.07 % วอน -เกาหลีใต้1.6%  อย่างไรก็ตาม ทิศทางค่าเงินบาทผันผวนจากปัจจัยภายนอกประเทศและในประเทศ ดังนั้นผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขาย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/777448

พาณิชย์ เผยยอดขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทางออนไลน์โต 20% ช่วงโควิด-19 ระบาด

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระตุ้นให้การขอใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.63 ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงในภูมิภาคอาเซียน ทำให้มีผู้ประกอบการขอรับบริการ e-Form D จากกรมการค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 สำหรับ e-Form D เป็นหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนที่ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า e-Form D อย่างเต็มรูปแบบ (Live Operation) กับสมาชิกอาเซียน ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.63อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสดควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่กรมฯ ยังคงตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการด้วยการเดินหน้ายกระดับการให้บริการด้วยนวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยการผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ e-Form D มากขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการนำเข้า-ส่งออก

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq03/3128621

เวียดนามจับมือสหรัฐฯ ส่งเสริมการค้ารองเท้า หลังโควิด-19

วอชิงตัน (VNA) – การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ‘ส่งเสริมการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอเมริกา รองเท้าหลังโควิด-19’ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เพื่อเชื่อมต่อผู้ผลิตเวียดนามและผู้จัดจำหน่ายสหรัฐฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม สำนักงานส่งเสริมการค้า (Vietrade) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนามในสหรัฐฯ, ผู้จัดจำหน่ายรองเท้าและผู้ค้าปลีกสหรัฐฯ (FDRA), สมาคมหนัง รองเท้า และกระเป๋าถือแห่งประเทศเวียดนาม (Lefaso) และหน่วยงานส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการส่งออกรองเท้า นับว่าเป็นการประชุมทางไกลครั้งแรกที่ทำให้ภาคการผลิตรองเท้าเวียดนามและตลาดต่างประเทศรวมตัวกัน ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทเวียดนามได้อัพเดทถึงสถานการณ์ของตลาดรองเท้าในสหรัฐฯ และวิธีการรับมือจากไวรัสโควิด-19 ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ ยังให้คำแนะนำแก่ผู้ผลิตรองเท้าเวียดนามให้เจาะกลุ่มตลาดเฉพาะทาง และวิธีการยกระดับการแข่งขัน รวมถึงการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-us-promote-footwear-trade-postpandemic/174044.vnp