ธนาคารบริการทางการเงินที่ชำระด้วยสกุลเงินหยวน (RMB) เปิดทำการแล้วที่ สปป.ลาว

The ICBC Vientiane Branch ได้รับอนุญาตจากจีนในการเปิดให้บริการทางการเงินที่ชำระด้วยสกุลเงินหยวน (RMB) ใน สปป.ลาว โดยจะใช้เป็นช่องทางในการชำระหนี้ข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดระหว่าง สปป.ลาว กับจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือองค์กรและสถาบันทางการเงินในลาวให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในรูปสกุลเงินหยวนของจีนได้สะดวกมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยน อำนวยความสะดวกการลงทุนและการค้าระหว่างสองประเทศ และรักษาเสถียรภาพทางการเงินของ สปป.ลาว และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/20231025/a6c4ec1bf93e4cf2a17b97ed390e71ac/c.html

ต้นทุนการผลิตน้ำมันลดลงเนื่องจากราคาถั่วลิสงลดลง

ผู้ผลิตน้ำมันกล่าวกับ The Global New Light of Myanmar (GNLM) ว่า ราคาถั่วลิสงที่ลดลง ช่วยลดต้นทุนการผลิตน้ำมันถั่วลิสง นอกจากนี้ อุปสงค์ของถั่วพัลส์ที่ลดลงของจีนทำให้ราคาลดลงเหลือ 5,500 จ๊าดต่อ viss จากเดิม 7,500 จ๊าดต่อ viss ในเดือนตุลาคม ราคาของถั่วลิสงป่นก็ลดลงเหลือ 2,500 จ๊าดต่อ viss จากเดิม 3,300 จ๊าดต่อ viss  ผู้ผลิตน้ำมันกล่าวอีกว่า ต้นทุนการผลิตน้ำมันถั่วลิสงลดลงอย่างมากเนื่องจากราคาถั่วลิสงที่ลดลง ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และปริมาณการผลิตน้ำมันด้วย ซึ่งต้นทุนการผลิตน้ำมันต่อเที่ยวอยู่ที่ 10,000 – 11,500 จ๊าดต่อ viss ซึ่งหากรวมต้นทุนอื่นๆด้วย จะอยู่ที่ 14,000 – 15,000 จ๊าดต่อ viss เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ราคาขายส่งน้ำมันถั่วลิสงปรับตัวอยู่ในช่วงระหว่าง 12,500 – 16,000 จ๊าดต่อ viss ขึ้นอยู่กับภูมิภาค ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มอยู่ที่ 4,500-5,500 จ๊าดต่อ viss ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันถั่วลิสง น้ำมันงา และน้ำมันดอกทานตะวันยังไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นจึงยังคงมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มอยู่ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาถั่วลิสง งาขาว และน้ำมันปาล์ม อยู่ที่ 1,627.28 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน 2,104.17 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และ 815 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ได้ตรวจพบการเจือปนของน้ำมันปาล์มกับน้ำมันถั่วลิสงในท้องตลาด ผู้ผลิตบางรายจึงประสบปัญหาจากราคาถั่วลิสงในตลาดลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันถั่วลิสงลดลงตาม และทำให้ความต้องการน้ำมันถั่วลิสงและน้ำมันงาบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/oil-production-cost-declines-as-peanut-price-drops/

เมียนมานำเข้าปูนซีเมนต์กว่า 16,400 ตัน เป็นมูลค่า 1.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนกันยายน

ตามการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เมียนมามีการนำเข้าปูนซีเมนต์ทั้งหมดกว่า 16,400 ตัน โดยผ่านช่องทางหลัก ได้แก่ การนำเข้าทางเรือประมาณ 400 ตัน แบ่งเป็น 250 ตันจากมาเลเซีย และกว่า 150 ตันจากจีน คิดเป็นมูลค่ารวม 0.075 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้าผ่านทางชายแดนกว่า 16,000 ตัน จากประเทศไทย คิดเป็นมูลค่ารวม 1.365 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมียนมามีการนำเข้าปูนซีเมนต์ทางเรือมากกว่า 3,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.302 ล้านเหรียญสหรัฐ  และนำเข้าปูนซีเมนต์ผ่านทางชายแดน ประมาณ 20,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.585 ล้านเหรียญสหรัฐ  รวม 23,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.887 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ จากการนำเข้าปูนซีเมนต์ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น คาดว่าธุรกิจก่อสร้างมีแนวโน้มจะเติบโตได้ดี

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imports-over-16400-tonnes-of-cement-worth-us1-44-mln-in-sept/

Vietnam Economic Factsheet : Q3/2566

FACTSHEET VIETNAM Q3.66

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขยายตัว 5.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566  (ม.ค.-ก.ย.) ขยายตัว 4.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านการผลิต : ภาคบริการขยายตัว 6.24% ภาคเกษตรกรรม ป่าไม้และประมง ขยายตัว 3.72% และภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ขยายตัว 5.19%

ด้านการใช้จ่าย : การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน ขยายตัว 3.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว, การสะสมทุนในสินทรัพย์ ขยายตัว 6.61%, การส่งออกสินค้าและบริการ ขยายตัว 2.27% และการนำเข้าสินค้าและบริการ ขยายตัว 1.42%

บริษัทสัญชาติกัมพูชาลงนาม MoU ร่วมกับบริษัทอินโดนีเซีย พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร

บริษัท V-Consolidated Co., Ltd. ของกัมพูชาได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับ บริษัท PT Niramas Utama ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้ผลิตภัณฑ์อาหารรายใหญ่ของอินโดนีเซีย หวังดันการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ดัง ‘Inaco’ สำหรับบันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้รับการลงนามนอกรอบในงาน Trade Expo Indonesia (TEI) ครั้งที่ 38 ประจำปี 2023 ซึ่งจัดขึ้น ณ ICE BSD City ในทังเกอรัง ตั้งแต่วันที่ 18 – 22 ตุลาคม และทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 18 ตุลาคม – 18 ธันวาคม 2023 ผ่านทางเว็บไซต์ www.tradexpoindonesia.com ด้าน Sovann Heng กรรมการผู้จัดการของ V-Consolidated และสมาชิกของคณะผู้แทนกัมพูชา กล่าวเสริมว่า บันทึกความเข้าใจดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงข้อตกลงในการนำเข้าและจัดจำหน่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นความร่วมมือทางธุรกิจที่เป็นก้าวที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซีย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501380749/cambodian-firm-signs-mou-with-indonesian-food-products-major/

ACFTA ดันการค้าทวิภาคี กัมพูชา-จีน แตะ 11.69 พันล้านดอลลาร์

ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ได้ส่งเสริมการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนนับตั้งแต่ปี 2010 โดยปัจจุบันทางการจีนพยามยามผลักดันการเจรจา FTA เป็นเวอร์ชัน 3.0 ซึ่งข้อตกลง ACFTA ได้เริ่มมีผลบังคับใช้มาแล้ว 13 ปี ส่งผลทำให้การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนเติบโตถึง 10 เท่า นับตั้งแต่ปี 2010 จากมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ สู่ 11.69 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 21.37 กล่าวโดย Tat Puthsodary รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ ณ กรุงพนมเปญ ขณะที่ Academy for International Business Officials (AIBO) หน่วยงายร่วมของกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ 4 วัน โดยมุ่งสร้างขีดความสามารถให้กับเจ้าหน้าที่กัมพูชาในเรื่องกฎแห่งถิ่นกำเนิดสินค้า ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าของกัมพูชา สำหรับการค้าระหว่างทั้งสองประเทศมีมูลค่าเกือบ 980 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 มากกว่าปี 2013 ถึง 1.2 เท่า ที่มูลค่าประมาณ 440 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501380743/acfta-boosts-cambodia-china-bilateral-trade-to-11-69-billion/