ITD งานเข้าเมียนมายกเลิกสัญญาทวาย

บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) แจ้งว่าตามที่บริษัท และคู่สัญญากลุ่มธุรกิจร่วมทุนภายใต้บริษัทที่จดทะเบียนในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (Project Companies) รวม 5 บริษัท ได้รับสัมปทานโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก โดยได้ลงนามสัญญาสัมปทานกับคณะกรรมการบริหารงานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (Dawei Special Economic Zone Management Committee :DSEZ MC) เพื่อดำเนินการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่รวม 27 ตารางกิโลเมตร พร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จำเป็นต่อนิคมอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558 จำนวน 6 ฉบับ และเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559 อีก 1 ฉบับ รวมสัญญาสัมปทานจำนวน 7 ฉบับ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา Project Companies ทั้ง 5 บริษัท ได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทานรวม 7 ฉบับ จาก DSEZ MC เนื่องจาก DSEZ MC อ้างว่า Project Companies ผิดนัดไม่ชำระค่าสิทธิตามสัญญาสัมปทาน และไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนบางประการในการเริ่มดำเนินการตามสัญญาสัมปทานได้

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/464152

เวียดนามตั้งเป้าเศรษฐกิจโตเฉลี่ย 7% ในปี 64-73

เวียดนามตั้งเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เติบโตราว 7% ในอีก 10 ปีข้างหน้า นับว่าเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-สูง ที่มีอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในโลก นาย Tran Hong Quang ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์เวียดนาม กล่าวถึงการร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสำหรับในปี 2564-2573 จากการประชุมเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา โดยในปี 2573 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว จะเพิ่มขึ้น 4,700-5,000 เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,521 เหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าว่าจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีระดับรายได้สูงในปี 2588 ทั้งนี้ ภายใต้ร่างยุทธศาสตร์นั้น รัฐบาลได้นิยามถึง 3 สิ่งที่จะผลักดันการเติบโตของเวียดนามในอีก 10 ปีข้างหน้า ได้แก่ กรอบเชิงสถาบัน ทรัพยากรมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) กำหนดหลักเกณฑ์แก่ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ต้องมีมูลค่าการผลิตเพิ่มต่อหัวที่ 1,000-2,500 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.5 ของมูลค่าการผลิตทั้งหมดทั่วโลก

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-aims-for-average-annual-growth-of-7-in-2021-30-315839.html

ภาคอสังหาฯ มีสัดส่วน 7.6% ของเศรษฐกิจเวียดนาม

สมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเวียดนาม (VNREA) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7.62% ของ GDP เวียดนามในปี 2562 ในแง่ของสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์นั้น มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 20.8% ของสินทรัพย์รวมของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2563 ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ทั้งประเทศ 986.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ทั้งนี้ ตามงานวิจัย ซึ่งเป็นการศึกษาค้นคว้าอิสระ ชี้ให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยส่วนใหญ่จะกระจายไปอยู่ในการก่อสร้าง อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร การเงินและการธนาคาร อย่างไรก็ตาม นาย Vo Tri Thanh นักเศรษฐศาสตร์และสมาชิกสภาที่ปรึกษาด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางเวียดนาม กล่าวว่าควรจะจัดลำดับความสำคัญของนโยบายในการพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ สมาคมดังกล่าว มีแผนที่จะส่งงานวิจัยและข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล คณะกรรมการธิการ สมัชชาแห่งชาติ กระทรวงก่อสร้าง กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดนโยบายระยะยาวต่อภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : http://hanoitimes.vn/real-estate-accounts-for-76-of-vietnam-economy-315846.html

ธนาคารเพื่อการพัฒนาปล่อยเงินสนับสนุนให้กับภาคการเกษตรของกัมพูชา

ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทเพื่อการเกษตร (ARDB) กล่าวว่าสถาบันการเงินได้ปล่อยวงเงินกู้รวม 245 ล้านดอลลาร์ ให้กับ ผู้ผลิตและส่งออกข้าว ภาคปศุสัตว์ และ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในภาคเกษตรกรรม โดย ARDB ได้เพิ่มกองทุนพิเศษอีก 50 ล้านดอลลาร์ สำหรับภาคธุรกิจ SMEs ซึ่งกระจายไปยังธุรกิจมากถึง 600 แห่ง เพื่อมุ่งเน้นเฉพาะด้านการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร การแปรรูปอาหาร ธุรกิจเกษตรพืชผล รวมทั้งผัก ปศุสัตว์และธุรกิจสัตว์น้ำ รวมถึงองค์กรใด ๆ ที่ใช้วัตถุดิบจากภาคการเกษตร โดยธนาคารได้ลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 6 สู่ร้อยละ 5 สำหรับเงินทุนหมุนเวียน และร้อยละ 6.5 สู่ร้อยละ 5.5 สำหรับเงินลงทุน นอกจากนี้ระยะเวลาการชำระหนี้ได้เลื่อนขึ้นเป็นระยะเวลา 7 ปี ซึ่งธุรกิจ SMEs สามารถกู้ได้มากถึง 300,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ธนาคารจะจัดฝึกอบรมให้กับธุรกิจ SMEs เกี่ยวกับแผนธุรกิจ งบการเงิน ธรรมาภิบาล แผนการตลาด การจัดการทางการเงิน และการฝึกอบรมเกี่ยวกับการสนับสนุนทางเทคนิคร่วมด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50802809%20/development-bank-delivers-245mn-to-agri-sector-producers-exporters-smes

ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้ยังไม่บรรลุผล

การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีที่ทางกัมพูชาได้เสนอต่อเกาหลีใต้ กำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีเป้าหมายที่จะจัดทำร่างฉบับสุดท้ายภายในสิ้นปี 2020 โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าการเจรจา FTA กับเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในการหารือรอบที่สี่ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างกัมพูชากับเกาหลีใต้ เกี่ยวกับข้อตกลง FTA อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายกำลังผลักดันข้อตกลงนี้ให้เสร็จสิ้นภายในต้นปีนี้ โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่าอยู่ 724 ล้านดอลลาร์ลดลงร้อยละ 16 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้าไปเกาหลีใต้อยู่ที่ 267 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5 โดยกัมพูชานำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้มีมูลค่าอยู่ที่ 457 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าสำคัญที่กัมพูชาส่งออกไปเกาหลีใต้ ได้แก่ เสื้อผ้าและสิ่งทอ รองเท้า กระเป๋าเดินทาง อะไหล่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ส่วนการนำเข้าสินค้าสำคัญของกัมพูชาจากเกาหลีใต้ ได้แก่ ยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในครัว เครื่องดื่ม ยา และผลิตภัณฑ์พลาสติก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50802798/free-trade-deals-yet-to-come-to-fruition/

สปป.ลาวเปิดใช้ทางด่วนอัจฉริยะ 5G

ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ขยายตัวสู่ระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วในช่วง COVID-19 แต่ข้อจำกัด ทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ก่อนแล้วในสปป.ลาว แม้ว่าผลกระทบ จาก COVID-19 ต่อเศรษฐกิจคาดว่าจะยังคงมีอยู่แต่รัฐบาลเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นบ้างการลงทุนในโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงการเสร็จสิ้นในเฟสแรกของทางด่วนจีน – สปป.ลาวซึ่งเป็นทางด่วนอัจฉริยะสายแรกของประเทศที่เชื่อมต่อเวียงจันทน์-วังเวียงซึ่งพัฒนาร่วมกันโดย Yunnan Construction and Investment Holding Group ของจีนร่วมมือของรัฐบาลสปป.ลาว ทางด่วนดังกล่าวจะช่วยลดเวลาการเดินทางระหว่างเมืองหลวงเวียงจันทน์และวังเวียงรวมถึงการเชื่อมโยงระบบคมนาคมในประเทศเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในท้องถิ่นอีกด้วย การจัดตั้งทางด่วนอัจฉริยะแห่งแรกนี้ถือเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสปป.ลาวและเป็นก้าวแรกในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าของสปป.ลาว

ที่มา : https://techwireasia.com/2021/01/laos-first-smart-expressway-to-integrate-5g-ai-and-it/

รมต.ต่างประเทศจีนเข้าพบซูจีหารือความสัมพันธ์ทวิภาคี

เมื่อวานนี้ (11 มกราคม 64) ที่ปรึกษาแห่งรัฐนางอองซาน ซูจี ต้อนรับการาเยือนของ นายหวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เมืองเนปยีดอและลงนามในบันทึกความเข้าใจหนึ่งในนั้นคือโครงการรถไฟมัณฑะเลย์ – เจาะพยู และข้อตกลงทวิภาคีเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจและทางเทคนิคแผนห้าปีสำหรับความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ ความเป็นไปได้เกี่ยวกับโครงการพัฒนาถนนและสะพานในชนบท การจัดหาเงินสำหรับการตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้พลัดถิ่นภายในคะฉิ่นและการซื้อรถม้าจากจีนในอัตราดอกเบี้ย 0% การจัดตั้งประชาคมจีน – เมียนมา การดำเนินการตามระเบียงเศรษฐกิจจีน – เมียนมา สำหรับเมียนมาการจัดงานเฉลิมฉลองปีการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมียนมาร์ – จีนและความร่วมมือทวิภาคีเพื่อสันติภาพและสันติสุขตามแนวชายแดนพม่า – จีน ทั้งนี้นางซูจีให้คำมั่นว่าจะดำเนินกระบวนการสันติภาพและการปรองดองแห่งชาติในระหว่างที่รัฐบาลใหม่เข้ารับตำแหน่ง จากการหารือเมื่อวานนี้เมียนมาได้รับวัคซีนป้องกัน COVID -19 จำนวน 300,000 เข็มและเวชภัณฑ์มูลค่า 3 ล้านหยวนตามข้อตกลงทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/state-counsellor-meets-with-chinese-foreign-minister