มีการลงทุน 93 โครงการเข้าสู่รัฐมอญใน 3 ปี

U Tin Tun Aung หัวหน้าคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัทของรัฐมอญ กล่าวว่า มีการลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศทั้งหมด 93 โครงการที่เข้ามาและดำเนินการในรัฐมอญ โดยมีธุรกิจทั้งหมด 56 โครงการที่เป็นของชาวเมียนมา คิดเป็นมูลค่า 934,758.248 ล้านจ๊าด และ การลงทุนจากต่างประเทศ 37 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5,136.396 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกำลังดำเนินการในรัฐมอญ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2021-22 ถึงปีงบประมาณ 2023-24 ซึ่งมีการจ้างงานเกิดขึ้นกว่า 4,487 คน อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการการลงทุนของรัฐมอญ ครั้งที่ 1/2567 ได้ไฟเขียวให้การผลิตรถจักรยานยนต์ที่บริษัท Min Oo Motor Myanmar Co. Ltd จะดำเนินการด้วยการลงทุนระดับชาติของเมียนมาอย่างเต็มรูปแบบ และการขยายขั้นตอนการพัฒนาของธุรกิจ การอัพเกรด การผลิต และการส่งออกยางที่ จะดำเนินการโดยบริษัท M Rubber Co Ltd พร้อมการลงทุนระดับชาติเต็มรูปแบบ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ คณะกรรมการการลงทุนของรัฐมอญได้อนุญาตให้การลงทุนในเมียนมาและต่างประเทศสร้างโอกาสในการทำงานภายในรัฐมอญตามกฎหมายและข้อบังคับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/93-investments-logged-in-mon-state-within-three-years/#article-title

2023 มูลค่าการค้ารวมระหว่าง กัมพูชา-RCEP เกือบแตะ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

การค้าระหว่างกัมพูชาและอีก 14 ประเทศ ในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวที่มูลค่ารวม 8.172 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 28  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2.129 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ของประเทศ โดยหลังจากการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังกลุ่มสมาชิค RCEP เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น อินโดนีเซียจากการเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 12 ของกัมพูชาในช่วงก่อนหน้านี้ ปรับมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 6 ของปีที่แล้ว โดยมีปริมาณการค้าทวิภาคีเกือบ 1.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายปีก่อนเกือบร้อยละ 15 คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 92.74 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 151.7

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501437300/cambodia-rcep-members-trade-hits-nearly-30-bn-in-2023/

2023 วิสาหกิจกัมพูชากว่า 5 หมื่นแห่ง เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงแรงงาน

ปี 2023 วิสาหกิจกัมพูชากว่า 49,075 แห่ง เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพ สะท้อนถึงการจ้างงานภายในประเทศมากกว่า 1.7 ล้านตำแหน่งในระบบ กล่าวโดย Hun Manet นายกรัฐมนตรีกัมพูชาถึงตัวเลขดังกล่าวขณะเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมประจำปีของกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพ ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยปัจจุบันวิสาหกิจในกัมพูชาจ่ายค่าจ้างรายปีรวมกว่า 5.18 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้จะสูงขึ้นหากรวมรายได้จากแรงงานนอกระบบและการส่งเงินกลับของแรงงานกัมพูชาในต่างประเทศอีกประมาณกว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023 โดยนายกรัฐมนตรียังได้ขอให้กระทรวงและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงสภาพการทำงานและเพิ่มการฝึกอบรมสายอาชีพสำหรับคนงานและลูกจ้าง พร้อมทั้งสนับสนุนให้ธุรกิจนอกระบบลงทะเบียนในระบบมากขึ้น เพื่อรับสิทธิพิเศษและความช่วยเหลือตามความเหมาะสม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501437274/registered-economic-enterprises-reach-nearly-50000-employing-some-1-7-million-people/

โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลส่งเสริมการใช้สิทธิภายใต้ FTA ส่งออก มกราคม-พฤศจิกายน 2566 รวม 75,842.65 ล้านดอลลาร์

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ FTA ช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่าส่งออกสินค้ารวม 75,842.65 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นร้อยละ 82.66 ของการส่งออกสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA โดยไทยได้ใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) สูงสุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่า 27,584.19 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของที่น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน น้ำตาลจากอ้อย น้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่บิทูมินัส รถยนต์สำหรับขนส่งบุคคล และเครื่องจักรอัตโนมัติ สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรีของไทย มากเป็นอันดับที่ 2 ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ไทยได้ใช้สิทธิประโยชน์ คิดเป็นมูลค่า 22,059.90 ล้านดอลลาร์ โดยเน้นเป็นสินค้าจำพวกทุเรียนสด ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มันสำปะหลัง สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง และโพลิเมอร์ของเอทิลีน นอกจากการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ FTA ข้างต้น ยังมีการใช้สิทธิประโยชน์ในความตกลงฉบับอื่น ๆ เช่น การใช้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) คิดเป็นมูลค่า 6,344.09 ล้านดอลลาร์ ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) คิดเป็นมูลค่า 5,802.56 ล้านดอลลาร์ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) คิดเป็นมูลค่า 4,987.16 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/78761

‘เวียดนาม’ เผย ม.ค. ยอดส่งออกกาแฟ พุ่ง 2 เท่า

กระทรวงเกษตรและพัฒนาขนบท เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกกาแฟไปยังต่างประเทศในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 230,000 ตัน ทำรายได้ราว 623 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 61.6% และ 100.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ในขณะที่ราคากาแฟเฉลี่ยของภาคกลางปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาอยู่ที่ประมาณ 78,200-79,400 ดองต่อกิโลกรัม และคาดว่าทิศทางของราคากาแฟจะสูงขึ้นทะลุ 80,000 ดองต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ราคากาแฟเพิ่มขึ้นมาจากผู้ค้าซื้อกาแฟมีความต้องการสูง ก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษเต็ด (Tet) ของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกมองว่าจะขาดแคลนผลผลิตเหมือนกับปีที่แล้ว จึงมีความต้องการซื้อมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1650432/viet-nam-s-coffee-export-value-doubles-in-january.html

‘เวียดนาม’ ส่งออก ม.ค. พุ่ง 42%

จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าในเดือน ม.ค.67 การส่งออกมีมูลค่า 33.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.65 การนำเข้ามีมูลค่า 30.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เกินดุลการค้า 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกที่ขยายตัวอย่างมากนั้น เป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นกว่า 97% และ 38% ตามลำดับ

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีการนำเข้าราว 9.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตลาดส่งออกแบบดั้งเดิม ได้แก่ จีน สหภาพยุโรปและอาเซียน มีสัดส่วนการส่งออกที่เติบโตเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ กระทรวงฯ คาดว่าสถานการณ์การส่งออกจะเผชิญกับอุปสรรค เนื่องจากได้รับภาระต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นและความตึงเครียดทางการเมืองโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1650421/viet-nam-s-exports-surge-42-in-january.html