“เวียดนาม-ไทย” แสวงหาความร่วมมือในทุกมิติ

นายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย พบปะหารือกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการลงทุน การค้า เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วัฒนกรรมและการแลกเปลี่ยนบุคลากร ระหว่างส่วนท้องถิ่นของทั้งสองประเทศ ผู้ว่าฯ ได้ต้อนรับการมาเยือนของคณะผู้แทนเวียดนามในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ ครบรอบ 133 ปี พร้อมเสริมว่าอนุสรณ์สถานที่อุทิศให้กับผู้นำเวียดนามผู้ล่วงลับและหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามในจังหวัดนครพนม อีกทั้ง เอกอัครราชทูตเวียดนามได้เน้นย้ำถึงผลความสำเร็จของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในภาคส่วนต่างๆ และยังกล่าวว่าจังหวัดนครพนมมีข้อได้เปรียบอย่างมากในด้านการร่ววมือกับท้องถิ่นเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-thai-localities-seek-multifaceted-cooperation/253399.vnp

“เวียดนาม” ซื้อไฟฟ้าจากจีน เหตุบรรเทาปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าหนัก

บริษัท นอร์ทเทิร์ด พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ซื้อไฟฟ้าจากบริษัท Guangxi Power Grid ของจีน เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนนี้ บริษัทสัญชาติจีนจะเตรียมจัดหาไฟฟ้าให้กับเวียดนามโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ภาคเหนือของประเทศเวียดนามเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพลังงาน 1,600-4,900 เมกะวัตต์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม เนื่องจากปัญหาความร้อน นอกจากนี้ การไฟฟ้าเวียดนามได้เสนอเรื่องไปยังบริษัท Vietnam Oil and Gas Group (PetroVietnam) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ให้ทำการจัดลำดับความสำคัญของการจัดหาก๊าซสำหรับการผลิตไฟฟ้า ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-to-buy-electricity-from-china-to-ease-shortage-2145690.html

“รัฐบาลไทย” ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาลไทย มอบความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน “โมคา” และได้แสดงความเสียใจแก่ชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนในครั้งนี้ และหวังว่าชาวเมียนมาจะฟื้นตัวจากช่วงเวลาที่ยากลำบากได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่นายอูชิซเว (H.E. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมา และยังกล่าวเสริมว่ามี 18 เมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุไซโคลน โดยกองทัพและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นเร่งทำการช่วยเหลือผู้คน

ที่มา : https://tna.mcot.net/english-news-1176401

คาด “Belt and Road Initiative” ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ สปป.ลาว

โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ สปป.ลาว กล่าวโดยรองประธานรัฐสภา นาง Sounthone Xayyachack และเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆ ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum for Land-Sea Interconnected Development ซึ่งได้จัดขึ้น ณ เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการ Belt and Road Initiative มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ สปป.ลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเพื่อปรับปรุงการเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการให้บริการด้านการขนส่งทางรางบนเส้นทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ทั้งในแง่ของการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Belt96.php

รัฐบาลกัมพูชา เห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนินสินค้า

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติร่างกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ได้รับประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้า นอกจากนี้ยังจะช่วยป้องกันการปลอมแปลงของสินค้าที่มีการผลิตในกัมพูชา ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติในการประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ที่มีนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เป็นประธาน ซึ่งร่างกฎหมายนี้มี 9 บท และมี 35 มาตรา ในการกำหนดหลักการและกฎเกณฑ์สำหรับการกำหนดแหล่งกำเนิดของสินค้าที่ส่งออกและนำเข้าระหว่างกัมพูชา

นอกจากนี้ยังช่วยให้กัมพูชาสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กรอบ WTO และส่งเสริม อำนวยความสะดวกทางการค้ากับภาคเอกชน โดยเฉพาะการส่งออกสินค้ากัมพูชาที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศผู้นำเข้าที่ให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับกัมพูชาและภายใต้การค้าเสรีต่างๆ รวมถึงความตกลงที่กัมพูชาเป็นสมาชิก ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรที่ได้รับการรับรองรวม 8.6 ล้านตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ 74 แห่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294323/government-approves-draft-law-on-rules-of-origin/

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ารวม 588 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 65 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 588 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีนเป็นสำคัญ คิดเป็นกว่าร้อยละ 73.5 ของ FDI ทั้งหมดที่ได้เข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Chea Vuthy รองเลขาธิการ CDC กล่าวเสริมว่า FDI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา รวมถึงก่อให้เกิดการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น และเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยการลงทุนของจีนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ไปจนถึงกัมพูชายังมีข้อตกลงการค้าเสรีในระดับทวิภาคีอีกหลายฉบับ อาทิเช่น FTA กัมพูชา-จีน, FTA กัมพูชา-เกาหลี และ RCEP

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294135/588m-investment-projects-approved-in-four-months/

พาณิชย์ เดินหน้าทำเอฟทีเอใหม่สร้างโอกาสทางการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม” อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ขณะนี้ไทยกำลังเดินหน้าเร่งเจรจาเอฟทีเอทั้งที่ทำใหม่และที่ยังค้างอยู่ ประกอบ  1.เอฟทีเอระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) หรือ การเจรจาจัดทำ CEPA โดยจะมีการนัดประชุมครั้งที่ 1  ระหว่างวันที่ 16 – 18 โดยตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน 2.เอฟทีไทยกับสหภาพยุโรปหรืออียู โดยจะมีการประชุมรอบแรกในเดือน ก.ย. 2566 คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี จบได้ในปี 2568 3.เอฟทีเอไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์) 4.เอฟทีเอไทย -ศรีลังกา  ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันมีการเจรจาไปแล้ว 4 รอบ  และได้นัดเจรจารอบที่ 5 ในเดือน มิ.ย. นี้ ตั้งเป้าสรุปผลต้นปี 67 และ 5.เอฟทีเออาเซียน – แคนาดา โดยเริ่มเจรจารอบแรกเมื่อปี 2565  ล่าสุดเจรจารอบ 3 เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้เตรียมจัดประชุมอีก 2 รอบ ตั้งเป้าสรุปผลเจรจา ปี 2567

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1069312

“อิออน” รุกเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้ามากกว่า 20 แห่งในเวียดนาม

AEON บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในญี่ปุ่น เตรียมเปิดศูนย์การค้าเพิ่มอีกในเวียดนาม และนำเข้าสินค้าเพิ่มจากเวียดนาม เพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ จากงานเลี้ยงรับรองของบริษัทอิออน ทางนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ชื่นชมบริษัทในการมีส่วนร่วมเชิงบวกและการพัฒนาภาคการค้าปลีกและภาคการส่งออกในเวียดนาม ตลอดจนเสนอแนะให้บริษัทเลือกเวียดนามเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก และเดินหน้าลงทุนศูนย์การค้าและเอาท์เล็ท มอลล์ในบริเวณชานเมือง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอให้บริษัทอิออนนำเข้าสินค้าจากเวียดนามมากขึ้น เพื่อให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะสินค้าที่เวียดนามมีความแข็งแกร่ง เช่น เครื่องแต่งกาย รองเท้า ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและผลผลิตทางการเกษตร

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/companies/prime-minister-receives-japanese-corporate-executives-4607658.html