กัมพูชาระงับการค้าข้ามพรมแดนทั้งหมดกับไทย

เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) กรมตรวจคนเข้าเมือง (GDI) ได้ระงับการขนส่งสินค้าทั้งหมด ทั้งสินค้าส่งออกและนำเข้า ผ่านด่านชายแดนระหว่างประเทศ รวมถึงจุดตรวจข้ามพรมแดนอื่นๆ ตลอดแนวชายแดน กัมพูชา-ไทย โดยการเคลื่อนไหวของ GDI เกิดขึ้นไม่ถึง 30 นาทีหลังจากที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ตอบกลับจดหมายที่ทางการไทยส่งมาเมื่อวานนี้ เพื่อขอเปิดจุดผ่านแดนบางจุดเป็นการชั่วคราว  ซึ่งข้อจำกัดนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่ารัฐบาลไทย จะตกลงเปิดด่านระหว่างประเทศและจุดตรวจข้ามพรมแดนทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ เพื่อฟื้นฟูการค้าและการขนส่งตามปกติ ด้านนักเศรษฐศาสตร์ Duch Darin กล่าวกับ Khmer Times ว่าการกระทำที่สร้างสรรค์ที่สุดที่ประเทศไทยสามารถทำได้คือการเปิดพรหมแดนให้สามารถข้ามได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพและฟื้นฟูผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน ขณะที่ Darin กล่าวเสริมต่อไปว่าการเปิดชายแดนจากฝั่งไทยก่อนจะมอบประโยชน์ที่สำคัญให้กับธุรกิจ ผู้ส่งออก และอุตสาหกรรมของไทย ในส่วนของกัมพูชา มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับเพื่อนบ้านที่ดีและผลประโยชน์ร่วมกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501709058/cambodia-suspends-all-cross-border-trade-with-thailand/

CDC กระตุ้นบริษัทจีนลงทุนในห่วงโซ่อุปทานการผลิต

Council for the Development of Cambodia (CDC) ได้เรียกร้องให้บริษัทจีนขยายการลงทุนในการผลิตวัตถุดิบและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปในกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่คุณค่าภายในประเทศและเพิ่มความยืดหยุ่นทางอุตสาหกรรม ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) ระหว่าง Chea Vuthy เลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนกัมพูชา (CIB) และ Hua Xiaofeng รองประธาน Wuxi Guolian Group Co., Ltd. ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของรัฐบาลจีน ซึ่ง Chea Vuthy ขอบคุณรัฐบาล Wuxi ที่สนับสนุนการลงทุนในกัมพูชา และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลกัมพูชาในการกระจายตลาดส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยังประเทศจีน นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนา ระเบียงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมและการแปรรูปทางการเกษตร ด้าน Hua Xiaofeng แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนของ CDC และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานของ Wuxi Guolian Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงิน หลักทรัพย์ การผลิต และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501709048/cdc-urges-chinese-firms-to-invest-in-manufacturing-supply-chains/

ฮุน เซน มั่นใจเศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตร้อยละ 5.2

ประธานวุฒิสภาและประธานพรรค Cambodian People’s Party (CPP) ฮุน เซน แสดงความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจของกัมพูชาในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 โดยเน้นย้ำถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อต่ำ ค่าเงินเรียล (Riel) ที่มีเสถียรภาพ และทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ในโอกาสครบรอบ 74 ปีการก่อตั้งพรรค CPP (28 มิถุนายน 1951-2025) โดยได้กล่าวเสริมว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศมีมูลค่าสูงถึง 2.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 โดยการส่งออกมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.20 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ขณะที่ CDC ได้อนุมัติโครงการลงทุน 290 โครงการ ในช่วงเวลา 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 137 โครงการจากปีก่อน นำมาซึ่งเงินลงทุนประมาณ 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะสร้างงานได้ประมาณ 200,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม Chey Tech นักวิจัยทางเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจกัมพูชายังคงเติบโต แต่ก็อาจได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากสงครามที่ยืดเยื้อและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชาอาจถูกจำกัด หากการเจรจาเกี่ยวกับอัตราภาษีของสหรัฐฯ ไม่เป็นผลสำเร็จ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเหลือประมาณร้อยละ 4 หรือลดลงอีกในอนาคต หากการเรียกเก็บภาษีมีผลบังคับใช้เต็มที่ แต่หากการเรียกเก็บภาษีถูกเลื่อนออกไปจนถึงสิ้นปี คาดว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะเติบโตประมาณร้อยละ 5.5 ในปี 2025

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501709052/hun-sen-projects-5-2-growth-as-economic-confidence-remains-strong/

‘อุปสรรคการค้าที่มิใช่ภาษี’ ภัยต่อสินค้าเวียดนามในการเข้าสู่ตลาดอาเซียน

คุณ Le Trong Minh รองบรรณาธิการบริหารของสื่อเวียดนาม ‘Vietnam Investment Review’ กล่าวในที่ประชุมเชิงปฏิบัติการว่าถึงแม้อาเซียนจะสามารถขจัดภาษีศุลกากรภายในกลุ่มได้ แต่อุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers: NTBs) ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการค้าและการลงทุนในภูมิภาค และในบริบทที่อาเซียนเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์ ปี 2588 เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและการค้าดิจิทัล รวมถึงการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วน

นอกจากนี้ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มองว่ามาตรการ NTBs เป็นต้นทุนที่จำเป็นในการดำเนินการ ถือเป็นภาระที่สำคัญของผู้ประกอบการ โดยต้นทุน NTBs อาจคิดเป็น 2-4% ของมูลค่าสินค้า  และหากสามารถลดต้นทุนที่เกิดจาก NTBs ได้ 10% อาเซียนจะสามารถเพิ่มการค้าได้ราว 3-4% ซึ่งเทียบเท่ากับเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/non-tariff-barriers-still-hinder-vietnamese-goods-from-entering-asean-post321781.vnp

‘คนเวียดนาม’ ช็อปออนไลน์โตแรง พุ่งแตะ 16 พันล้านดอลลาร์ ปี 67

จากรายงาน “Southeast Asia E-commerce 3.0” เปิดเผยว่าการซื้อขาย (GMV) บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่าสูงถึง 128.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2567 เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) และยอดการซื้อขายออนไลน์เฉลี่ย 43.6 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับตลาดสหรัฐฯ ทั้งนี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ได้แก่ Shopee Lazada และ TikTok Shop คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของปริมาณคำสั่งซื้อทั้งหมด โดยเวียดนามเป็น 1 ใน 5 ตลาดที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ ตามมาด้วยไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ในขณะที่อินโดนีเซีย ยังคงเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยมีมูลค่า GMV อยู่ที่ 56.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ จากรายงานฉบับดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวเวียดนามใช้จ่ายในการซื้อของออนไลน์สูงถึง 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 โดยส่วนใหญ่ซื้อผ่าน Shopee Lazada และ TikTok Shop ส่งผลให้เวียดนามอยู่ในอันดับ 3 แรกของตลาดอีคอมเมิร์ซ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-consumers-spend-16-billion-usd-on-online-shopping-in-2024-post321782.vnp

‘สถิติอีคอมเมิร์ซ’ ชี้เวียดนาม โต 15.9% ปี 67

จากรายงานของ Momentum Works เปิดเผยข้อมูลว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเวียดนาม ปี 2567 มีมูลค่าสินค้ารวม (GMV) ที่ซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ขยายตัว 15.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ในขณะที่ไทยและมาเลเซีย เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีการขยายตัว 21.7% และ 19.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ และอินโดนีเซียยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนราว 44% ของ GMV แม้ว่าจะเติบโตชะลอตัวลง

นอกจากนี้ จากการประเมินมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2567 อยู่ที่ 128.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 12%YoY โดยแพลตฟอร์มรายใหญ่ที่สุดมีจำนวน 3 ราย ได้แก่ Shopee, TikTok Shop และ Lazada ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 84% ทั่วภูมิภาคในปัจจุบัน

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/vietnam-records-double-digit-e-commerce-growth-in-2024-momentum-works.htm

‘Siemens’ บริษัทเทคยักษ์ใหญ่เยอรมัน สนใจโครงการรถไฟความเร็วสูงเวียดนาม

จากการประชุมประจำปีครั้งที่ 16 ของ New Champions 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดย World Economic Forum โดยระหว่างการประชุมดังกล่าว นาย Peter Koerte ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของบริษัทซีเมนส์ (Siemens) จากเยอรมัน ได้แสดงความสนใจในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนาม โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง ในระหว่างการประชุมกับนายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ จิญ

ทั้งนี้ นายกฯ มีความยินดีที่ให้บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ เวียดนาม มีแผนที่จะกำหนดนโยบายความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ โดยเฉพาะการขนส่ง พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/siemens-group-interested-in-vietnams-high-speed-railway-project.htm

‘นายกฯ เวียดนาม’ หวังบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายภาษีศุลกากรเดือน ก.ค.

จากการประชุมใหญ่ของ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน โดยทางนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมว่าทางเวียดนามคาดว่าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนที่การหยุดชะงักการขึ้นภาษีศุลกากร 46% สำหรับสินค้าส่งออกของเวียดนามจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม และทางนายกฯ เห็นว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศที่ผ่านมา เป็นไปได้ด้วยดี

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าสหรัฐฯ ได้ยื่นรายการข้อเรียกร้องทางการค้าต่อเวียดนาม ซึ่งทางการเวียดนามระบุว่าเป็น “เรื่องยาก” และยังกดดันให้เวียดนามลดการใช้เทคโนโลยีจีนในอุปกรณ์ที่ประกอบในประเทศ ก่อนที่จะส่งออกไปยังสหรัฐฯ และภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ทำให้เวียดนามเร่งปราบปรามการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสินค้าจีน

นอกจากนี้ เวียดนามยังแสดงความเต็มใจที่จะลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร (NTB) และขยายการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/general/3058397/vietnam-pm-expects-us-trade-deal-before-july-tariff-deadline

‘เซ็นทรัล รีเทล’ เดินหน้าทุ่มเงิน 1.38 พันล้านดอลลาร์ ลงทุนไทยและเวียดนาม

เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เตรียมลงทุนกว่า 45 พันล้านบาท หรือประมาณ 1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2027 เพื่อขยายตลาดสำคัญและเร่งการเติบโตทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โดยกลยุทธ์ของทางบริษัทในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ ‘New heights, Next growth’ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า 26 ล้านราย การเร่งพัฒนาธุรกิจใหม่ และการขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรวมศูนย์ เพื่อเปิดประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Omnichannel และยกระดับ AI โดยมุ่งเป้าไปที่การเติบโตของยอดขายออนไลน์เป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเร่งขยายธุรกิจอาหารและห้างสรรพสินค้าในเวียดนาม และส่งเสริมให้ร้านค้าสามารถตกแต่งตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/central-retail-unveils-138-billion-usd-expansion-plan-for-thailand-and-vietnam-post321602.vnp

‘เวียดนาม – ไทย’ ตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกข้าวไปญี่ปุ่น

เวียดนามและไทย เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และคาดว่าจะส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยทางรัฐบาลไทย นำโดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ารัฐบาลต้องการที่จะเจาะตลาดที่ข้าวไทยสามารถขายได้ในราคาสูงและเพิ่มการส่งออกข้าวได้ โดยเฉพาะตลาดข้าวในญี่ปุ่น ในขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมข้าวเวียดนาม (VIETRISA) เปิดเผยว่าเวียดนามเดินหน้าส่งออกข้าวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ข้าวคาร์บอนต่ำ ปริมาณราว 500 ตัน โดยชูจุดเด่น คือ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระหว่างการเจริญเติบโตได้

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นจำเป็นที่จะต้องประเมินช่องว่างระหว่างราคานำเข้าข้าวและราคาข้าวที่ปลูกในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเกษตรกรในประเทศ และมีโอกาสที่จะเกิดการโต้เถียงกันได้จากเหตุการณ์ข้างต้น

ที่มา : https://www.nationthailand.com/blogs/news/40051487