มิน อ่อง หล่าย สถาปนาตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีเมียนมา ลั่นจัดเลือกตั้งใน 2 ปี

6 เดือนหลังการรัฐประหาร นายพลอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ได้ประกาศสถาปนาตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่าจะบริหารประเทศภายใต้ภาวะสถานกาณณ์ฉุกเฉินต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศครั้งใหม่ใน 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ เมียนมาตกอยู่ภายใต้ภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งการรัฐประหารครั้งนั้น กองทัพเมียนมาอ้างความชอบธรรมเพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ที่กองทัพมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการร่าง

ที่มา : https://www.thansettakij.com/world/490206

เวียดนามเผชิญการผลิตและผลผลิตทรุดหนัก เดือนก.ค. เหตุโควิด-19 ระลอก 4

ตามรายงาน IHS Markit เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 45.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 44.1 ในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่าสภาพธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เป็นผลมาจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ธุรกิจบางส่วนจำเป็นต้องหยุดกิจการชั่วคราว ในขณะที่ธุรกิจอีกจำนวนหนึ่งดำเนินกงานได้ลดลง เนื่องจากมาตรการเว้นระยะหางทางสังคม โดยสิ่งเหล่านี้ ส่งผลต่อยอดคำสั่งซื้อใหม่และการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อีกทั้ง กิจการยังเผชิญกับปัญหาด้านการขนส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหตุจากการระบาดและการขาดแคลนวัตถุดิบ ตลอดจนต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/83506/vietnam-faces-steep-decline-in-production-output-in-july.html

“เวียดนาม” ส่งออกไปอียูพุ่ง 15.5%

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รายงานว่ามูลค่าจากการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรปในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 22.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน, คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, รองเท้า, เครื่องนุ่งห่มและเสื้อผ้า, อาหารทะเล, กระเป๋าถือและกระเป๋าสตางค์ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าของเวียดนามจากสหภาพยุโรป อยู่ที่ 9.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป-เวียดนามที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เวียดนามได้ประโยชน์จากการส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรป

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-sees-155-percent-rise-in-exports-in-eu-market/205702.vnp

การค้าระหว่างประเทศเมียนมาพุ่ง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากของกระทรวงพาณิชย์ การในช่วง 9 เดือนแรก (1 ต.ค-9 ก.ค.) ของปีงบประมาณ 63-64 ส่งผลให้เกินดุลการค้า 363.9 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ แม้มูลค่าการค้ารวมจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 62-63 โดยการส่งออกอยู่ที่ 11.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้า 11.6 พันดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 29.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีก่อน การค้าระหว่างประเทศเมียนมาโดนผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านต้องคุมเข้มชายแดนและจำกัดการค้าขายในบางพื้นที่ชายแดน การค้าหยุดชะงักจากขนส่ง และการปิดทำการของธนาคารทำให้การค้าลดลง ทั้งนี้เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค จากสถิติพบว่าเมียนมากขาดดุลการค้ามาตลอด โดยในในปีงบฯ 62-63 ขาดดุลที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ,ปีงบฯ 61-62 ขาดดุลที่ 1.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, ,ปีงบฯ 60-61 ขาดดุลที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ , ปีงบฯ 59-60 ขาดดุลที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ และปีงบฯ 58-59 ขาดดุลที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

ที่มา : https://gnlm.com.mm/regional-trade-tops-6-billion-in-seven-months-reports-moc/#article-title

กัมพูชาส่งออกข้าวลดลงร้อยละ 27 แต่อุปสงค์จากจีนและเวียดนามกลับเพิ่มขึ้น

กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศลดลงร้อยละ 27.3 ในช่วงเดือร ม.ค.-ก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร กล่าวว่า การส่งออกลดลงเนื่องจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งกัมพูชาส่งออกข้าวสารเกือบ 310,000 ตัน ในช่วงเวลาดังกล่าว สร้างรายได้เกือบ 262 ล้านดอลลาร์ ภายใต้ผู้ส่งออก 58 ราย โดยจีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาที่ทำการนำเข้าข้าวกัมพูชาในคิดเป็นเกือบ 154,000 ตัน ซึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามถือเป็นหนึ่งประเทศที่นำเข้าข้าวจากกัมพูชามากที่สุด ซึ่งนำเข้าข้าวมากกว่าปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 81 คิดเป็นมูลค่ากว่า 330 ล้านดอลลาร์ ส่วนทางด้านสหพันธ์ข้าวกัมพูชาได้เรียกประชุมฉุกเฉินเมื่อเดือนที่แล้ว ในการหารือเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ต่อผู้ส่งออกและโรงสี โดยสมาชิกกำลังพยายามหาผู้ซื้อมากขึ้นในจีนและตลาดในภูมิภาคเอเชียอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาในการส่งออกข้าวไปยังยุโรป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50907302/rice-exports-plunge-27-percent-but-demand-from-china-and-vietnam-rises/

รัฐบาลกัมพูชาพิจารณาลดโครงการการลงทุนภาครัฐ

รัฐบาลกัมพูชากำลังพิจารณาปรับลดจำนวนโครงการการลงทุนสาธารณะภายใต้งบประมาณภาครัฐ เพื่อรักษาเงินทุนสำหรับใช้ในการต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ลดรายจ่ายลงเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกว่าเพิ่มเติมว่าหากในกรณีที่จำเป็น โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับอนุมัติบางโครงการอาจจะถูกยกเลิก เพื่อดำรงเงินทุนไว้สำหรับการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 โดยปีที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนสาธารณะทั้งหมด 629 โครงการ สำหรับปี 2021-2023 ในจำนวนนี้ 203 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่มีมูลค่าโครงการรวม 8.397 พันล้านดอลลาร์ และเป็นโครงการใหม่ 426 โครงการที่ต้องใช้เงินทุนถึง 4.399 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50907215/government-considering-reducing-public-investment-projects/

สปป.ลาวรับมอบวัคซีนโควิดครั้งแรกจากอังกฤษ

การส่งมอบวัคซีน AstraZeneca Covid-19 จำนวน 415,000 โด๊สครั้งแรกที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร (สหราชอาณาจักร) มอบให้สปป.ลาว ได้มาถึงนครเวียงจันทน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนความพยายามในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 การมาถึงของวัคซีน AstraZeneca ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักรนั้นเหมาะสมมาก เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากร 50 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ การส่งมอบครั้งนี้จะพาเราไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย ปัจจุบันถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในสปป.ลาวจะไม่รุนแรงแต่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดการระบาดระลอกที่รุนแรง เพราะหากสปป.ลาวเผชิญกับวิกฤตเช่นนั้นจะทำให้ ระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจรับลกระทบอย่างรุนแรงจนนำมาสู่วิกฤตครั้งใหม่ของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_receives_149.php

ในช่วง 7 เดือนแรก กัมพูชาส่งออกสินค้าการเกษตรขยายตัวถึงร้อยละ 87

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 87 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงเกษตรกัมพูชา โดยคิดเป็นปริมาณของสินค้าเกษตรมากกว่า 5 ล้านตัน ถูกส่งออกไปยัง 64 ประเทศ ทั่วโลก ระหว่างเดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งการส่งออกข้าวปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์นั้นลดลงมากกว่าร้อยละ 27 จากสภาวะการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าขนส่งที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการส่งออกที่ไม่ใช่ข้าวกลับปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกือบร้อยละ 109 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกผลไม้ของกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมากภายหลังการอนุมัติการจัดส่งผลไม้ไปยังจีนเพิ่มเติมตามข้อตกลงการค้าเสรีเมื่อปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50906370/agricultural-exports-rise-87-in-first-seven-months-despite-rice-shipment-drop/