พาณิชย์เผยกัมพูชาปิดท้ายร่วม FTA อาเซียน-ฮ่องกงมีผลครบทุกชาติ 12 ก.พ.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง (ASEAN – Hong Kong Free Trade Agreement : AHKFTA) มีผลบังคับใช้ระหว่างฮ่องกงและประเทศสมาชิกอาเซียนบางส่วน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 โดยกัมพูชา เป็นประเทศเดียวในปัจจุบันที่ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ จึงได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนว่าพร้อมที่จะเริ่มใช้ความตกลง AHKFTA แล้ว ซึ่งการดำเนินการของกัมพูชา จะส่งผลให้ความตกลง AHKFTA มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์กับทุกประเทศสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย โดยในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับฮ่องกง มีมูลค่า 13,298 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก มูลค่า 11,292 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้า มูลค่า 2,006 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ อากาศยาน ยานอวกาศและส่วนประกอบ โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ และข้าว สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย เงินแท่งและทองคำ ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่นๆ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/64964

เวียดนามเผยกระทรวงฯ โต้ทุ่มตลาด จ่อเก็บภาษีน้ำตาลจากไทย

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MoIT) อนุมัติเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดน้ำตาลของไทยในอัตรา 33.88% อัตราภาษีดังกล่าวจะได้รับการทบทวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เป็นธรรม การตัดสินใจเรียกเก็บภาษีเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงฯ เปิดการสอบสวนในเดือนกันยายน 2563 เพื่อพิจารณา หากว่าน้ำตาลที่นำเข้าจากไทยนั้น ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งต่อมาพบว่าธุรกิจไทยส่งออกน้ำตาลไปยังเวียดนามราว 1.3 ล้านตัน พุ่ง 330.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลเสียหายต่ออุตสาหกรรมน้ำตาลของเวียดนาม ทำให้โรงงานแปรรูปน้ำตาลจำนวนมากต้องปิดกิจการชั่วคราวและปลดพนักงาน โดยทางกระทรวงฯ ระบุว่ามีคนตกงานมากถึง 3,300 คน และเกษตรกรกว่า 93,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ดังนั้น ทางกระทรวงฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะทำการตรวจสอบข้อมูลและหารือ คาดว่าผลการสอบสวนจะสิ้นสุดในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ministry-imposes-antidumping-tax-on-sugar-from-thailand/196207.vnp

แบงก์ยักษ์ใหญ่ไทย จ่อเปิดสาขาแรกในเวียดนาม

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เดินหน้าเปิดสาขาที่นครโฮจิมินห์ในไตรมาสที่ ทยาแรกในเวียดนาม3 ของปีนี้ นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าในปัจจุบัน เวียดนามถูกจับตามองในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค ทำให้เป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลก รวมไปถึงธุรกิจจากประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งสาขาใหม่ของธนาคารกสิกรไทยนั้น ได้รับการอนุมัติภายในเดือนมกราคมและจะให้บริการลูกค้าในท้องถิ่น รวมถึงธุรกิจไทยและต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม โดยตั้งเป้าปล่อยกู้ 10 ล้านบาท (333.11 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในช่วงปีแรกของการดำเนินงาน ในขณะที่ ยังมีการลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงวางแผนและการลงทุน เผยว่าประเทศไทยเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 7 ที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว ด้วยมูลค่า 292 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/thailands-second-largest-bank-to-open-first-branch-in-vietnam-28087.html

กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้ากว่า 10,000 รายการ ภายใต้ CCFTA

ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา – จีน (CCFTA) กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้มากกว่า 10,000 รายการ โดยได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากรและสรรพสามิต กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง และภาคเอกชน เพื่อหารือเกี่ยวกับ FTA และผลประโยชน์โดยรวม ไปจนถึงขั้นตอนศุลกากร แผนโลจิสติกส์ และกิจกรรมตลอดจนโอกาสและความท้าทายจากมุมมองของภาคเอกชนภายใต้ FTAs ที่ได้รับในปัจจุบัน ซึ่งอธิบดีการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์และสมาชิกของทีมเจรจา CCFTA ยินดีให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ FTA ที่กัมพูชาได้รับต่อผู้สนใจข้อมูล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50812421/over-10000-cambodian-products-can-be-exported-to-china-under-ccfta/

SSCA สรุปผลการศึกษาโครงการสนามบินในจังหวัดมณฑลคีรี กัมพูชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือนแห่งรัฐ (SSCA) กำลังจะสรุปการศึกษาความเป็นไปของโครงการหลังทำการศึกษามาเป็นระยะเวลา 6 เดือน เกี่ยวกับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ในจังหวัดมณฑลคีรี โดยโฆษกของ SSCA กล่าวว่าผลการศึกษาจะถูกส่งให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องตรวจสอบระหว่างกัน หลังจากนั้นการศึกษาจะถูกส่งไปยังบริษัท Powerchina เป็นจุดสิ้นสุดในการศึกษาโครงการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจในการลงทุน โดยสนามบินแห่งใหม่หากมีการอนุมัติจะมีพื้นที่ 600 เฮกตาร์ ก่อนหน้านี้มีการประมาณการค่าใช้จ่ายในการสร้างสนามบินไว้ที่ 60 ล้านดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตามการประมาณการเบื้องต้นที่สร้างขึ้นจากการศึกษาในขณะนี้คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 90 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติหลักการก่อสร้างภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) และเลือก Powerchina เป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพในโครงการ โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการศึกษาความเป็นไปได้ทั้งหมด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50812474/ssca-to-conclude-new-mondulkiri-province-airport-study/

สปป.ลาวสร้างเมืองใหม่ในเวียงจันทน์

ทางการเวียงจันทน์กำลังดำเนินการสร้างเมืองใหม่ซึ่งจะเมืองที่ 10 ในนครเวียงจันทร์ ซึ่งเมืองใหม่จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองปากงึ่มและเมืองชัยธานี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียงจันทน์ โดยจะมีหมู่บ้าน 24 แห่งรวมทั้งหมู่บ้าน 5 แห่งที่มีอยู่แล้วในเมืองปากงึ่ม และอีก 3 แห่งในเมืองชัยธานี งานพัฒนาเมืองเริ่มในปี 61 และขณะนี้ทางการกำลังเตรียมสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เช่น อาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ นายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์กล่าวว่าเมืองใหม่นี้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบชนบทมีพื้นที่ป่าและเนินเขาตลอดจนแม่น้ำ ยังมีตาดซอยวอย ซึ่งเป็นน้ำตกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และพื้นที่ใกล้เคียงของเมืองปากงึ่มเป็นที่ตั้งของน้ำกัดยอละปา ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน การก่อสร้างเมืองใหม่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียงจันทน์ในปี 68 และแผนการพัฒนาชานเมืองให้เป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัย เมืองชัยธานีมีขนาดใหญ่และมีหมู่บ้านมากกว่า 100 แห่งซึ่งมีครัวเรือนกว่า 43,900 ครัวเรือน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างชนบทจึงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับการเกษตรและการท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองใหม่จะให้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองชัยธานี และช่วยบรรเทาความแออัดของประชากรอีกด้วย

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/02/10/laos-to-create-new-district-in-vientiane

สหภาพแรงงานฯ เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ต่อต้านการประท้วงในเมียนมา

สมาพันธ์สหภาพแรงงานแห่งเมียนมา (CTUM) กล่าวว่าเจ้าหน้าที่คนใดก็ตามที่บังคับให้พนักงานที่ประท้วงกองทัพเมียนมาให้ลาออกหรือออกจากสถานสงเคราะห์จะต้องถูกตั้งข้อหา ขณะนี้มีการประณามการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่บังคับให้แรงงานออกจากงานหรือที่พักอาศัย CTUM กำลังตรวจสอบพนักงานของรัฐที่เข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านกองทัพเมียนมาที่เข้ายึดอำนาจ ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติจะขอคืนสถานะให้เป็นพนักงานของรัฐเหมือนเดิม CTUM พร้อมให้บริการทางการแพทย์ฟรีแก่ผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ไร้ซึ่งความยุติธรรม ก่อนหน้านี้ CTUM ได้ออกจากองค์กรไตรภาคีซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐ ภาคธุรกิจ และแรงงาน ที่ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาที่คนงานประท้วงการยึดอำนาจและควบคุมตัวผู้นำระดับสูงของประเทศรวมถึงนางอองซาน ซูจี ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/trade-union-myanmar-prosecute-those-taking-legal-action-against-cdm-participants.html

เวียดนามตั้งเป้าปี 73 ยอดส่งออกภาคเกษตร ป่าไม้และประมง 60-62 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ตามคำสั่งอนุมัติของนายกรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆนี้ ต่อโครงการเกษตรกรรม เผยว่าเวียดนามตั้งเป้าการส่งออกภาคเกษตร ป่าไม้และประมง อยู่ที่ประมาณ 60-62 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 โดยโครงการดังกล่าวเล็งเห็นถึงการเข้าร่วมของห่วงโซ่อุปทานภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ตลอดจนปรับปรุงคุณภาพและมูลค่า เพื่อที่จะส่งออกให้เป็นไปตามกฎระเบียบของผู้นำเข้าและพัฒนาเครื่องหมายการค้าในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ การส่งออกของภาคเกษตร ป่าไม้และประมง คาดว่าจะเติบโต 6-8% ต่อปี ประมาณ 40% มาจากการส่งออกสินค้สที่เป็นแบนด์ระดับชาติ, 70% มาจากธรรมชาติ และ 60% มาจากการส่งออกสินค้าที่ผ่านกระบวนการแปรรูป  ดังนั้น โครงการแห่งนี้จึงกำหนดเป้าหมายและนโยบาย เพื่อรองรับกับความปลอดภัยทางอาหารและพัฒนาอุตสาหกรรมที่สนับสนุน รวมไปถึงช่วยเหลือธุรกิจเกี่ยวกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในตลาดส่งออก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-targets-60-62-bln-usd-from-agroforestryfisheries-export-by-2030/196140.vnp

เวียดนามนำเข้าเนื้อหมูพุ่ง เหตุราคาในประเทศร้อนแรง

ตามรายงานตัวเลขสถิติของกรมศุลกากร เผยว่าเวียดนามนำเข้าเนื้อหมูมากกว่า 141,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 334.4 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 เพิ่มขึ้น 382% และ 500% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ซึ่งการนำเข้าเนื้อหมูที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว เนื่องมาจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาด (ASF) ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนเนื้อหมูและทำให้ราคาเนื้อหมูในประเทศขยับเพิ่มขึ้นในเดือนแรกของปี 63 ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศบราซิล รัสเซีย โปแลนด์ สหรัฐฯและแคนาดา เป็นต้น ราคานำเข้าเนื้อหมูเฉลี่ยที่ 2.2 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทั้งนี้ นาย Nguyễn Văn Trọng รองผู้อำนวยการกระทรวงของสำนักงานผลิตปศุสัตว์ กล่าวว่าราคาเนื้อหมูปรับตัวลดลงเมื่อไม่กี่วันก่อน เพราะว่าบริษัทแปรรูปมีการสั่งซื้อสินค้าลดลง เนื่องจากมีสินค้าเพียงพอต่อการบริโภคในช่วงเทศกาลเต็ด นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามมีจำนวนหมู 27.3 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 21 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/871761/vn-increases-pork-imports-to-cool-off-domestic-prices.html

วิกฤตการทางการเมืองเมียนมาส่งผล SME ส่อเค้าทรุดหนัก

นักธุรกิจจากเมืองเปียงมานา (Pyinmana)  ของเนปยีดอ เผยยอดขายสินค้าตั้งแต่อาหารไปจนถึงสินค้าฟุ่มเฟือยลดลงอย่างมากหลังจากการประกาศภาวะฉุกเฉินหนึ่งปีของกองทัพเมียนมา พบว่าผู้คนต่างจับจ่ายเฉพาะสิ่งของจำเป็นเพราะวิตกกังวลกับสถานการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ เช่น ยอดขายไข่ลดลงประมาณ 70% อีกทั้งยอดขายสัตว์ปีกและเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ๆ ยังได้รับผลกระทบอย่างหนักตามไปด้วย ขณะนี้ตลาดยังไม่เปิดเต็มรูปแบบเนื่องจาก COVID-19 ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันผู้คนกังวลว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงและหลายคนเริ่มประหยัดมากขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายที่ลดลงยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจสตาร์ทอัพในพื้นที่และธุรกิจ SMEs ส่วน MSMEs (วิสาหกิจขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดย่อม) ล้วนประสบปัญหามากมายช่วงการระบาดและบางส่วนถูกบังคับให้ปิด MSMEs คิดเป็น 90% ของเศรษฐกิจประเทศและหากเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาจกระทบต่อการว่างงานอย่างมากในอนาคต

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/growing-number-myanmar-smes-forced-fold-amid-political-crisis.html