แรงงานสปป.ลาว ที่มีทักษะมีสิทธิ์ได้งานในญี่ปุ่น

แรงงานจำนวนจำกัดที่มีทักษะสามารถทำงานในประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนและญี่ปุ่น ในองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง ด้นการเกษตรและสาขาอื่น ๆ จะต้องผ่านตัวแทนจัดหางาน โดยบริการจัดหางานของเวียงจันทน์ประกาศโครงการนี้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหางานเวียงจันทน์อธิบายถึงความสำคัญของแรงงานฝีมือที่ได้รับการจัดสรรงานในต่างประเทศในปีนี้คาดว่าจะมีคนประมาณ 20,000 คนที่ได้รับการคัดเลือกให้เดินทางไปประเทศไทยและญี่ปุ่นหลังจากผ่านการทดสอบทักษะ ซึ่งจะได้รับการบริการด้านการจ้างงาน ผู้สมัครต้องมีสุขภาพที่ดีและสามารถเดินทางได้ หลังจากการสัมภาษณ์ผู้สมัครจะทราบผลการทดสอบในวันเดียวกัน ผู้สมัครประมาณ 90% จะมาจากจำปาสัก สะหวันนะเขต สะระวันและคำม่วน อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นดูเหมือนว่าจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับแรงงานเนื่องจากประเทศนี้ต้องการจ้างชาวต่างชาติมากขึ้น กระทรวงศึกษาธิการยังคงจัดหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในปีที่ผ่านมาได้มีการจัดให้แรงงานไปญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาทักษะผ่านโครงการฝึกอบรมด้านเทคนิคของญี่ปุ่น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชาวสปป.ลาวอย่างน้อย 50,000 คนรวมถึงผู้หญิง 27,176 คนได้รับการจ้างงานในประเทศอื่น ๆ พบมากที่สุดในประเทศไทย ในขณะที่เพียง 50 กว่ารายได้งานในญี่ปุ่น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Skilled_52.php

สปป.ลาว หลีกเลี่ยงการจ้างแรงงานต่างชาติจากพื้นที่ระบาด: กระทรวงแรงงาน

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ได้ออกประกาศให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมแรงงานเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ Covid-19 ก่อนเข้าประเทศ แรงงานต่างชาติต้องตรวจสอบอุณหภูมิที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและผ่านการตรวจสอบอื่น ๆ ที่กำหนดโดยทางการ ยังได้แจ้งแผนกแรงงานและสวัสดิการสังคมเพื่อทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติ ยังได้รับคำสั่งให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและใช้ความระมัดระวังเมื่อส่งแรงงานไปต่างประเทศรวมถึงรับจากต่างประเทศ ให้นายจ้างจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับพนักงาน ได้แก่ สบู่ เจลล้างมือและมาสก์และต้องจัดให้ฟรี นายจ้างจะต้องตรวจสอบพนักงานอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวันและผู้ที่พบว่ามีอาการคล้ายไข้หวัด ต้องส่งโรงพยาบาลไปตรวจ ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อแผนกจัดการแรงงาน ที่หมายเลขโทรศัพท์: 021 213007 หรือโทรสาร: 021 213247 โดยก่อนหน้านี้ได้เตือนชาวสปป.ลาวว่าไม่ควรเดินทางไปยังเมืองหรือพื้นที่ที่เกิดการระบาด ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาระงับหรือเลื่อนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และยังได้แจ้งให้สายการบินต่างประเทศตรวจสอบอุณหภูมิของนักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและผู้โดยสารก่อนที่จะบินไปสปป.ลาวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ Covid-19  ซึ่งเมื่อวานนี้ยังไม่มีการยืนยันกรณีของไวรัสในสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Avoid_52.php

การประชุมที่จะเกิดขึ้นบ่งบอกถึงชื่อเสียงของกัมพูชาในฐานะศูนย์กลางด้านการขนส่ง

กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในการรวมตัวกันของผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศในเดือนหน้า ที่แสดงถึงชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของกัมพูชาในฐานะศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามที่ บริษัท วิจัยของอินเดีย Mordor Intelligence ตลาดการขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.25 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 โดยจากผลการศึกษาที่ออกโดย Agility ซึ่งเป็นหนึ่งใน บริษัท โลจิสติกส์ชั้นนำของโลกแสดงให้เห็นว่าการถูกจัดอันดับของกัมพูชาบนดัชนีซึ่งเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกในตลาดโลจิสติกส์ที่เกิดขึ้นใหม่ได้ลำดับดีขึ้นเป็นอย่างมากจากปีที่แล้ว โดยกัมพูชายังเห็นการเติบโตอย่างมากจากจำนวนบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตามตัวเลขที่จัดทำโดยสมาคมผู้ขนส่งสินค้าทางอากาศแห่งกัมพูชาพบว่ามีบริษัทโลจิสติกส์จดทะเบียนจำนวน 500 แห่งได้เริ่มดำเนินกิจการในสีหนุวิลล์พนมเปญและส่วนอื่นๆของกัมพูชา โดยผู้จัดงานคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วม 100-500 คน จากกัมพูชาและประเทศอื่นๆเพื่อเข้าร่วมการประชุมโลจิสติกส์ครั้งที่ 3 ซึ่งจะจัดขึ้นที่โรงแรม Dyvith ในกรุงพนมเปญระหว่างวันที่ 18 ถึง 20 เมษายน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50700678/upcoming-confab-signifies-cambodias-growing-reputation-as-key-logistics-hub

เรือขนส่งวัตถุดิบจากจีน 12 ลำสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะมาถึงกัมพูชาในสัปดาห์นี้

สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศกัมพูชา (GMAC) กล่าวถึงเรือขนส่งสินค้าจากจีน 12 ลำที่ขนวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะมาถึงกัมพูชาภายในสัปดาห์นี้ ณ ท่าเรือ Sihanoukville Autonomous Port ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเสริมว่ามาตรการ “กรีนเลน” ที่ดำเนินการโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินผ่านกรมศุลกากรและสรรพสามิตช่วยทำให้ง่ายต่อการขนส่งวัตถุดิบไปยังโรงงานในพื้นที่ต่างๆรวมถึงกรุงพนมเปญ นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ากว่า 60% ของวัตถุดิบสำหรับการผลิตในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าในกัมพูชานำเข้าจากจีน กระทรวงแรงงานกล่าวว่าอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเป็นภาคการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชามีพนักงานประมาณกว่า 750,000 คน ในโรงงานและมีสาขากว่า 1,100 แห่ง ซึ่งภาคดังกล่าวมีรายรับรวม 9.32 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50700937/12-more-chinese-ships-carrying-garment-raw-materials-to-arrive-in-cambodia-this-week

สำรวจแหล่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4 จ. ภาคเหนือ เจาะสถานการณ์นำเข้าจากเมียนมาผ่านด่านแม่สอดไทย

เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จังหวัดตาก น่าน พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทางภาคเหนือ โดยข้อมูลพยากรณ์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่า เนื้อที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2562/63 รวม 4 จังหวัด มีจำนวน 2.319 ล้านไร่ ลดลงจากปี 2561/62 ที่จำนวน 2.419 ล้านไร่ (ลดลงร้อยละ 4) ผลผลิต 1.509 ล้านตัน ลดลงจากปี 2561/62 ที่จำนวน 1.743 ล้านตัน (ลดลงร้อยละ 13) เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง อีกทั้งยังประสบปัญหาหนอนกระทู้ระบาด ภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) กำหนดให้มีการนำเข้าโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคมของทุกปี ในอัตราภาษีนำเข้า 0% และโดยในช่วงวันที่ 1 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2563 พบว่า มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแหล่งผลิตที่สำคัญของเมียนมา ได้แก่รัฐฉาน อิระวดี ซึ่งมีแนวชายแดนติดต่อกับจีน จำนวนมากถึง 279,000 ตัน โดยนำเข้าทางด่านพรมแดนแม่สอดจังหวัดตาก เนื่องจาก มีการระบาดของโรคอหิวาต์อาฟริกาในสุกร ทำให้จีนมีนโยบายไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเมียนมา ส่งผลให้ราคาข้าวโพดในประเทศมีแนวโน้มลดลงโดยราคาเฉลี่ยในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์อยู่ที่กิโลกรัมละ 7.77 บาทลดลงจาก 8.65 บาท (ร้อยละ 10) ในช่วงเดียวกันของปี 2562 ทั้งนี้ จากการสอบถามเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตาก น่าน พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เกษตรกรมีความพึงพอใจที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือ แต่เกษตรกรในบางพื้นที่ยังไม่เข้าใจหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควรประชาสัมพันธ์รายละเอียดโครงการให้เกษตรกรทราบ และแนะนำให้ไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับกรมส่งเสริมการเกษตรภายหลังจากที่ได้ทำการเพาะปลูกไปแล้ว 15 – 60 วัน เพื่อรับสิทธิในการช่วยเหลือต่อไป

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3104872

กรมการค้าต่างประเทศ เดินสายประชาสัมพันธ์ข้าวไทย

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เข้าร่วมงานงานแสดงสินค้า Gulfood 2020 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 16 – 20 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ข้าวไทยรวมทั้งสร้างความรับรู้เกี่ยวกับมาตรฐานข้าวไทยและศักยภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยได้นำตัวอย่างข้าวคุณภาพดีของไทย ชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวเหนียว ไปจัดแสดงร่วมกับการจัดบอร์ดประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับมาตรฐานข้าวไทยนอกจากนี้ยังได้นำเสนอข้าวที่มีคุณลักษณะพิเศษของไทยและข้าวเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าวกล้องแดง ข้าว กข 43 และข้าว กข 79 ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ตลอดจนการจัดให้ชิมตัวอย่างข้าวไทยชนิดต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า และผู้สนใจทั่วไป ได้มีการสอบถามรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณลักษณะและมาตรฐาน รวมถึงเรื่องราคาข้าวรวมทั้งยังได้นำผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรนวัตกรรมเข้าร่วมจัดแสดงและประชาสัมพันธ์ด้วย โดยผู้นำเข้าทั้งจากตะวันออกกลางและจากทั่วโลกกว่า 100 ราย อาทิ อินเดีย ฟิลิปปินส์ บาห์เรน จอร์แดน ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้  ได้ให้ความสนใจสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร  ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ กระเทียมดำ โยเกิร์ตจากมะพร้าว น้ำนมข้าวยาคู ผลิตภัณฑ์แต่งกลิ่นเทียมจากส่วนผสมธรรมชาติ และอาหารสำหรับทารก

ที่มา :https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/870189?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=economic