แนวโน้มอุตสาหกรรมสิ่งทอเวียดนามปี 63 เติบโตสูงขึ้น

ภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามปี 2563 คาดว่าจะยกระดับความก้าวหน้าอุตสาหกรรม เนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และปัจจัยอื่นๆ เช่น ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีลบังคับใช้ในปีนี้ รวมไปถึงแบรนด์ต่างชาติรุกเจาะตลาดเวียดนาม ซึ่งภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอฯมีความโดดเด่นในเรื่องกระบวนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นด้ายและการย้อมสีผ้าที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยช่วยในการผลิตสินค้า ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม ระบุว่าผลผลิตเส้นด้ายมากกว่า 2.5 ล้านตันในปี 2562 ขณะที่ ปริมาณส่งออกอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผลกระทบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อยู่บนพื้นฐานของพฤติกรรม/แนวคิดการเพิ่มผลิตภาพและวิธีการดำเนินงานที่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเวียดนามยังคงเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงงาน ด้วยเหตุนี้ ทางสมาคมฯ มองว่าทรัพยากรมนุษย์เป็นกุญแจสำคัญต่อกระบวนการผลิตและควรส่งเสริมการฝึกอบรมให้มากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/592061/viet-nams-garment-textile-expects-boom-in-2020.html

เมืองหลวงดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติกว่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของสำนักงานวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าเมืองฮานอยได้อนุมัติโครงการใหม่ของ FDI ทั้งหมด 68 โครงการ ด้วยเงินลงทุน 30.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมี 7 โครงการเดิมที่ปรับเพิ่มเงินทุนอยู่ที่ 71.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังได้อนุมัติโครงการจากนักลงทุนต่างชาติที่มีมูลค่าราว 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเข้ามาซื้อหุ้นในกิจการท้องถิ่น ทั้งนี้ ในปีที่แล้ว ฮานอยยังคงเป็นเมืองที่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติมากที่สุด ด้วยมูลค่า 8.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ เงินทุนเบิกจ่ายสำหรับโครงการ FDI แตะระดับสูงกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 74 ของเงินทุนจดทะเบียนทั้งหมด นอกจากนี้ เมืองฮานอยยังคงส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกับการสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น การก่อสร้าง, เมืองอัจฉริยะ, เทคโนโลยี, การให้บริการขั้นสูง, ไฮเทคเกษตร และการเงินการธนาคาร เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/592039/capital-city-lures-more-than-140m-in-foreign-investment.html

สิ้นปี 62 CPI เมียนมาพุ่งขึ้นเป็น 161.72%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 161.72% เพิ่มขึ้น 9.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วตามรายงานของสำนักงานสถิติกลางแห่งเมียนมา (CSO) พบว่ากลุ่มอาหารพุ่งขึ้น 174.13% กลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มอาหาร 144.26% ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มัณฑะเลย์เพิ่มสูงสุดถึง 15.38% ส่วนยะไข่เพิ่มต่ำสุดที่ 3.16% โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 8.81% และอัตราเงินเฟ้อปีต่อปีเท่ากับ 9.45%

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/cpi-hits-16172-pc-in-late-december

ความพยายามของรัฐบาลเมียนมาในการจัดการสิ่งแวดล้อม

ธุรกิจจำนวนมากที่รัฐบาลให้ส่งแผนการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMP) เดือนมกราคม 61 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (MONREC) ได้ประกาศให้แก่ธุรกิจในเก้าภาคเพื่อส่งกระทรวง ในเดือนกรกฎาคม 62 กระทรวงออกประกาศอีกครั้งเกี่ยวกับข้อกำหนด แต่ให้ขยายเวลาหกเดือนเพื่อให้ธุรกิจสามารถวางแผน ข้อกำหนดมีไว้สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตแอลกอฮอล์ ไวน์ และเบียร์ อาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ของสารกำจัดศัตรูพืช ปูนซีเมนต์ สิ่งทอและการย้อมสี การหลอมโลหะและการกลั่นและการผลิตเหล็ก เหล็กดิบและโลหะผสมต่ำ การฟอกและตกแต่งหนัง โรงงานผลิตเยื่อและกระดาษ และการผลิตน้ำตาล กระทรวงประกาศว่าจะดำเนินการกับธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EMP ภายใต้กฎหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/govts-efforts-environmental-management-making-progress-official.html

งบปี 63 สุดอืด ใช้จ่ายรัฐสะดุด ไตรมาสแรกลงทุนต่ำเป้า 5.3%

งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ที่กำหนดไว้ 3.2 ล้านล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ (ต.ค.-ธ.ค.62) เบิกจ่ายแล้วราว 29.2% เป็นการเบิกจ่ายในส่วนงบรายจ่ายประจำปี เช่น เงินเดือนข้าราชการ เป็นต้น 700,000 ล้านบาท โดยการเบิกจ่ายนี้สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ที่กำหนดให้รัฐบาลใช้งบประมาณปีก่อนหน้าที่เหลืออยู่ไปก่อนได้ ยกเว้นการเบิกจ่ายในโครงการลงทุนใหม่ ส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุนไตรมาสแรก เป็นการเบิกจ่ายจากโครงการที่มีสัญญาผูกพันมาก่อนตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่เบิกจ่ายได้เพียง 25,000 ล้านบาท หรือ 4.4% ของงบลงทุนในปีงบ 63 ที่กำหนดไว้กว่า 600,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 5.3% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 65% คิดเป็นเงินลงทุนหายไปจากระบบเศรษฐกิจราว 50,000 ล้านบาท เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63 ยังไม่มีผลบังคับใช้ จึงเบิกจ่ายงบลงทุนใหม่ไม่ได้ รัฐบาลประกาศให้ปี 63 เป็นปี แห่งการลงทุน โดยโครงการลงทุนสำคัญ ได้แก่ รถไฟทางคู่ 7 เส้นทางของกระทรวงคมนาคม เช่น เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย เป็นต้น ส่วนการลงทุนรัฐวิสาหกิจปีนี้มีวงเงิน 346,000 ล้านบาท คาดจะเบิกจ่ายได้ 77% ของวงเงินลงทุนทั้งหมด และคาดว่าการลงทุนเอกชนปีนี้จะโต 4.2% จากปีที่แล้วที่โต 2.6%.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1768380

Heinken Vietnam เพิ่มทุน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายโรงงานในจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า

ทางหน่วยงานจังหวัดบาเหรี่ยะ-หวุงเต่าอนุญาติให้บริษัทเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่าง Heinken Viet Nam Brewery ได้เพิ่มเงินทุนจาก 312.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาเป็น 381.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการเพิ่มเงินทุนดังกล่าว บริษัทคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ 1.1 พันล้านลิตรในปี 2563 ทั้งนี้ ในต้นปี 2563  ทางจังหวัดได้ออกใบอนุญาตการลงทุนอีกหลายโครงการ รวมไปถึงโครงการที่มาจากญี่ปุ่น “Seiko PMC Corporation” (28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ), SeAH M&H Vietnam (35.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ Arakawa Chemical Industries (45.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ในปีที่แล้ว จังหวัดมีโครงการลงทุนใหม่ 108 โครงการ และโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ 49 โครงการ ด้วยมูลค่าการลงทุน 623 ล้านดอลลาร์สหรัฐและโครงการลงทุนภายในประเทศ 59 โครงการ ด้วยมูลค่าการลงทุน 566 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีนี้ จังหวัดบาเหรี่ยะ-หวุงเต่าจะอนุญาติโครงการที่ดำเนินงานอยู่ 40 โครงการ ให้สามารถเพิ่มเงินลงทุนอยู่ที่ 524 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/heineken-vietnam-invests-additional-70-million-usd-in-vung-tau-factory/168247.vnp

ทิศทางส่งออกกุ้งเวียดนามปี 63 เติบโตได้ดี

จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่ามูลค่าส่งออกอาหารทะเลปีที่แล้ว อยู่ที่ 3.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แม้ว่าการส่งออกลดลง แต่ในปัจจุบันน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกจากการส่งออกไปยังผู้นำเข้ารายใหญ่ในปีนี้ ซึ่งในปีที่แล้ว พบว่ายอดส่งออกกุ้งขาวแปซิฟิก (White Leg Shrimp) อยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.4 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.1 ของมูลค่าส่งออกกุ้งรวมทั้งสิ้น ทั้งนี้ มูลค่าส่งออกกุ้งกุลาดำและกุ้งประเภทอื่นๆ มีส่วนแบ่งส่งออกกุ้งทั้งหมดร้อยละ 15.9 และ 9.4 ตามลำดับ สำหรับตลาดจีนมีความเข็มงวดในด้านคุณภาพสินค้าและการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าย้อนหลังที่ผ่านตามเขตชายแดน รวมไปถึงสถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่มีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ในปี 62 สหภาพยุโรปยังคงเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.5 ของมูลค่าการส่งออกกุ้งทั้งหมด ด้วยมูลค่า 689.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 17.7 เมื่อเทียบกับปี 61 ซึ่งในปีนี้การส่งออกกุ้งจะฟื้นตัวจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสหรัฐที่เรียกเก็บสำหรับการนำเข้าสินค้ากุ้งจากเวียดนามร้อยละ 0 ขณะที่ ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เดือนมิ.ย.63 จะส่งผลให้เวียดนามส่งออกกุ้งไปยังตลาดสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/shrimp-exports-expected-to-enjoy-fruitful-advantages-throughout-2020-409701.vov

จังหวัดเตี่ยงยางตั้งเป้าส่งออกปี 63 แตะ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จังหวัดเตี่ยงยางตั้งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกปี 63 อยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งผู้อำนวยของกรมอุตสาหกรรมและการค้าประจำจังหวัด ระบุว่าด้านการผลิตและการส่งออกในปีนี้จะราบรื่น เนื่องมาจากหน่วยงานรัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ปัญหา/อุปสรรคในการทำธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมสตาร์ทอัพและนวัตกรรม ทั้งนี้ จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้จังหวัดดังกล่าวดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นและเปิดโอกาสให้การส่งออกเติบโตด้วย ดังนั้น ทางหน่วยงานจังหวัดจึงได้กำหนดแนวทางพัฒนากระบวนการผลิตและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในท้องถิ่น รวมไปถึงส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำธุรกิจและขยายตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด ระบุว่าในปี 63 มูลค่าส่งออกของจังหวัดมากกว่า 178 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ข้าว ผักผลไม้ เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/591878/tien-giang-sets-export-target-of-34-billion-in-2020.html

อนุมัติวงเงิน 50 ล้านยูโรสำหรับโครงการพลังงานจากขยะในย่างกุ้ง

รัฐสภาแห่งเมียนมา ได้อนุมัติเงินกู้ยืมจำนวน 50 ล้านยูโรจากโปแลนด์เพื่อใช้สำหรับโครงการพลังงานขยะในย่างกุ้ง ในระหว่างการประชุมเมื่อวันที่ 31 มกราคมด้วยคะแนนเสียง 534 เสียงต่อ 12 เสียง โครงการจะดำเนินการที่หลุมฝังกลบ Hteinpin ในเมือง Hlaing Tharyar เมืองย่างกุ้งและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 65 โดยจะถูกผลิตเป็นก๊าซธรรมชาติอัด (CNG), คาร์บอนไดออกไซด์, เชื้อเพลิงที่ได้จากขยะ (RDF) และปุ๋ยหมัก CNG ที่ผลิตได้ 30 ตันต่อวันจะถูกขายให้กับรถยนต์ โดยจะมีการเจรจากับธุรกิจ เช่น โรงงานทำอิฐ และสำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ  ตัวอย่างเช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหลวประมาณ 40 ตันจะขายให้กับผู้ผลิตน้ำอัดลมและห้องเย็นสำหรับเนื้อสัตว์และผักในทุกๆ วัน มีระยะเวลาชำระหนี้ 62 ปี ระยะเวลาผ่อนผัน 5 ปีอัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อปี รายรับคาดว่าจะมีอย่างน้อย 1,750 ล้านจัต หรือประมาณ 950,000 ยูโร ซึ่งสามารถชำระเงินคืนการกู้ยืมได้แน่นอน ขยะจาก 33 เมืองในย่างกุ้งอยู่ระหว่าง 2,300 ถึง 2,500 ตันต่อวัน ขยะอุตสาหกรรมอีก 150 ตัน และขยะทางการแพทย์ 2.4 ตัน ทั้งหมดถูกส่งไปยัง Hteinpin ทุกวัน ส่วนการเจรจาอื่น ๆ กำลังดำเนินการสำหรับโครงการนำร่องกับกลุ่ม Right Right Group จากประเทศเยอรมนีเพื่อผลิตพลังงานจากขยะ 120 ตัน และการแปรรูปขยะ 380 ตันโดยความร่วมมือกับเกาหลีใต้ จากการศึกษาในสี่ปีข้างหน้าย่างกุ้งจะไม่มีที่ว่างในหลุมฝังกลบขยะอีกต่อไป

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/approval-given-eu50-million-loan-waste-energy-project-yangon.html

ผลผู้ชนะการประมูลโครงการทางหลวงย่างกุ้งจะรู้ผลเร็วๆ นี้

กระทรวงการก่อสร้างจะประกาศผลผู้ชนะการประมูลในช่วงแรกของโครงการทางด่วนยกระดับย่างกุ้ง (YEX) ในเดือนพฤษภาคมนี้ กระทรวงได้กำหนดให้ข้อเสนอ (RFP) ขั้นที่ 1 ของ YEX ในฐานะหุ้นส่วนภาครัฐ (PPP) ถึง 10 ราย โดยกำหนดเวลาส่งการเสนอราคาภายในวันที่ 31 มีนาคม 63 ระยะที่หนึ่งของโครงการ YEX ซึ่งเป็นโครงการขนส่งแรกที่ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการ PPP ซึ่งมีความสำคัญสำหรับรัฐบาล การก่อสร้างคาดว่าจะใช้เวลาประมาณสามปีครึ่ง โดยจะสร้างถนนยกระดับสี่เลนระยะทาง 47.5 กิโลเมตรซึ่งเชื่อมโยงตอนใต้ของย่างกุ้งรวมถึงท่าเรือย่างกุ้งและเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า ทางทิศเหนือเป็นสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง นิคมอุตสาหกรรมมิงกะลาดอน สวนสาธารณะและทางด่วนย่างกุ้ง – มันดาเลย์ การประมูลระยะที่สองคาดจะเริ่มปลายปีนี้ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในกรุงย่างกุ้งและปรับปรุงการเชื่อมต่อสำหรับธุรกิจและชุมชนในศูนย์กลางการค้าของประเทศ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/winning-bidder-yangon-highway-project-be-announced-soon-ministry.html