บริษัทเกาหลีใต้ลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการทำระบบไร้เงินสดในเวียดนาม

บริษัทโซลูชั่นทางการเงิน Alliex ได้ลงทุนจัดทำระบบการขายหน้าร้าน (POS) ในเวียดนาม ด้วยมูลค่าราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และวางระบบการติดตั้งอุปกรณ์รวม 600,000 เครื่อง ในอีก 5 ปีข้างหน้า และทางบริษัทฯ ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น ในการดำเนินระบบ และเพิ่มคุณสมบัติของระบบดังกล่าว ได้แก่ QR-Code, Contactless payment (การชำระเงินเพียงแค่แตะบนบัตรเครดิต/เดบิต) และ Biometrics (การดึงข้อมูลทางชีวภาพ) เป็นต้น ซึ่งระบบ POS จะทำให้สามารถลดเงินสดหมุนเวียนได้ และต้นทุนการทำธุรกรรม รวมไปถึงช่วยประหยัดเงินในการเสียภาษี และทำให้การชำระเงินรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ จะทำให้เวียดนามขยับมาเป็นสังคมไร้เงินสด ในขณะที่ จากข้อมูลสถิติของบริษัทวิจัยท้องถิ่น ระบุว่าในปี 2560 การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ด้วยมูลค่า 6.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าศักยภาพของสังคมไร้เงินสดเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากกลุ่มชนชั้นกลางที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโทรคมนาคมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/south-korean-firm-to-invest-700-mln-towards-cashless-payment-in-vietnam-3985143.html

นครบิ่ญถ่วนจำเป็นต้องมีการบริหารในด้านการก่อสร้าง

จากคำแถลงการณ์ของรองนายกรัฐมนตรี ณ วันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่าในจังหวัดบิ่ญถ่วนทางตอนใต้ของเวียดนาม จำเป็นต้องให้ความสำคัญในด้านการบริหารการก่อสร้างภูมิภาคนี้ ซึ่งต้องรับมือกับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สภาพแวดล้อมมีความเหมาะสมในการลงทุน และนโยบายให้มีความน่าดึงดูดต่อนักลงทุน รวมไปถึงในจังหวัดดังกล่าว มีศักยภาพทางด้านแหล่งพลังงานทดแทน ได้แก่ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และการท่องเที่ยวสีเขียว ซึ่งทำให้ได้รับความสนใจของนักลงทุน และสามารถขยายด้านการท่องเที่ยวให้ควบคู่กับเทคโนโลยีทางการเกษตร เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์จากการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น นอกจากนี้ ภายในงานประชุมได้นำเสนอจุดแข็ง ศักยภาพ และโครงการสำคัญในจังหวัดบิ่ญถ่วน มีโครงการลงทุนกว่า 11 โครงการ ด้วยมูลค่า 23 พันล้านล้านด่อง ในขณะเดียวกัน มีอนุมัติการลงทุน 14 โครงการ ด้วยมูลค่าต่อภาคประมาณ 20.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/binh-thuan-needs-to-become-constructive-administration-deputy-pm/160863.vnp

11 เดิอนมูลค่าค้าชายแดนเมียนมาสูงถึง 9.4 พันล้านเหรียญ

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เมียนมามีรายได้มากกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐจากการค้าชายแดนในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างวันที่ 1 ต.ค.ถึง 6 ก.ย.ในปีงบประมาณปัจจุบัน 61-62 มีมูลค่าถึง 9.464 พันล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่ปีที่แล้วมีมูลค่ารวม 8.434 พันล้านเหรียญสหรัฐ ค้าชายแดนส่วนใหญ่จะเป็นจีนคือมีมูลค่ามากกว่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ลดลง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าการค้าชายแดนที่นะบูแหล่ / Htikhee ที่ค้าขายกับไทยมีมูลค่า 2.318 พันล้านเหรียญสหรัฐมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า เพื่อเป็นส่งเสริมการค้าต้องปรับปรุงทั้งด้านปริมาณและคุณภาพในการนำเข้า ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนที่สามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/border-trade-value-reaches-over-94-bn-in-11-months

CLMVT เน้นการปกป้องสิทธิแรงงาน

จากการหารือประชุมของความร่วมมือครั้งที่ 3 ระหว่างประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ในวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ “การคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในประเทศ CLMVT” โดยสปป.ลาวยังคงร่วมมือในการปกป้องสิทธิแรงงานข้ามชาติในกรุงเสียมราฐในประเทศกัมพูชา ซึ่งจากข้อมูลดร.คำเพ็ญ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการ ระบุว่าสปป.ลาวให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติ และดำเนินตามนโยบายคุ้มครองสังคมแห่งชาติ ซึ่งทำให้แรงงานข้ามชาติมีสิทธิในการเจรจาต่อสภาพการทำงานได้ และเมื่อทำงานอยู่ในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน นอกจากนี้ แรงงานยังสามารถพัฒนาทางด้านความปลอดภัย ด้วยการประกันสังคม รวมไปถึงทั้ง 5 ประเทศในกลุ่มอาเซียน เห็นด้วยว่าจะดำเนินตามกรอบกฎหมายและร่วมมือในการสนับสนุนด้านประกันสังคมของแรงงานข้ามชาติ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_CLMTV_211.php

Reed Smith สนับสนุนข้อตกลงพลังงาน 2,400 เมกะวัตต์กับสปป.เทศลาว

ข้อตกลงด้านพลังงานที่สำคัญซึ่งได้ลงนามเมื่อต้นเดือน โดย Electricité du Cambodge (EDC) และผู้ให้บริการไฟฟ้าอิสระสองรายในประเทศสปป.ลาว ซึ่งการลงนามในข้อตกลงสำคัญระหว่าง EDC และผู้ให้บริการไฟฟ้าสองรายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ​บริษัท Xekong Thermal Power Plant จำกัด และ บริษัท TSBP Sekong Power and Mineral Limited ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของสิงคโปร์ Kohe Hasan และ Bree Miechel ให้การจัดการด้านพลังงานแก่กัมพูชาระยะเวลา 30 ปีในอัตรา 7.7 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยเริ่มจากการถ่ายโอนพลังงานในปี 2567 จะทำการซื้อ 300 MW ในปี 2568-2569 เพิ่มขึ้นเป็น 600 MW และในปี 2570 เพิ่มเป็น 900 MW บนพื้นฐานความต้องการและการเติบโตอย่างรวดเร็วในกัมพูชาคิดเป็น 17-20% ในแต่ละปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645407/reed-smith-supports-2400-mw-energy-deal-with-laos/

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเซ็นสัญญาการท่องเที่ยวกับกลุ่มชาวจีน

กระทรวงการท่องเที่ยวและสถาบันการศึกษาสามแห่งจากมณฑลกวางสีของจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในความร่วมมือการฝึกอบรมด้านการท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยเฉพาะการพัฒนาขีดความสามารถของผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ซึ่งการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวในโรงเรียนกัมพูชา โดยเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้เพิ่มจำนวนบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเป็น 1.2 ล้านคนภายในปี 2568 ซึ่งในปัจจุบันมีคนงานประมาณ 800,000 คนในภาคการท่องเที่ยว แต่ส่วนใหญ่ต้องการการรับรองทักษะบางประเภทผ่านการฝึกอบรม โดยกัมพูชาตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 7 ล้านคนในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 6.2 ล้านคนในปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกกัมพูชาได้รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 3.3 ล้านคน โดย 1.2 ล้านคนมาจากจีนที่เพิ่มขึ้นถึง 38%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50645420/ministry-signs-tourism-pact-with-chinese-groups/