‘สถิติอีคอมเมิร์ซ’ ชี้เวียดนาม โต 15.9% ปี 67

จากรายงานของ Momentum Works เปิดเผยข้อมูลว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเวียดนาม ปี 2567 มีมูลค่าสินค้ารวม (GMV) ที่ซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ขยายตัว 15.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ในขณะที่ไทยและมาเลเซีย เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีการขยายตัว 21.7% และ 19.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ และอินโดนีเซียยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนราว 44% ของ GMV แม้ว่าจะเติบโตชะลอตัวลง

นอกจากนี้ จากการประเมินมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2567 อยู่ที่ 128.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 12%YoY โดยแพลตฟอร์มรายใหญ่ที่สุดมีจำนวน 3 ราย ได้แก่ Shopee, TikTok Shop และ Lazada ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 84% ทั่วภูมิภาคในปัจจุบัน

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/vietnam-records-double-digit-e-commerce-growth-in-2024-momentum-works.htm

‘นายกฯ เวียดนาม’ หวังบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายภาษีศุลกากรเดือน ก.ค.

จากการประชุมใหญ่ของ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน โดยทางนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมว่าทางเวียดนามคาดว่าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนที่การหยุดชะงักการขึ้นภาษีศุลกากร 46% สำหรับสินค้าส่งออกของเวียดนามจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม และทางนายกฯ เห็นว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศที่ผ่านมา เป็นไปได้ด้วยดี

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าสหรัฐฯ ได้ยื่นรายการข้อเรียกร้องทางการค้าต่อเวียดนาม ซึ่งทางการเวียดนามระบุว่าเป็น “เรื่องยาก” และยังกดดันให้เวียดนามลดการใช้เทคโนโลยีจีนในอุปกรณ์ที่ประกอบในประเทศ ก่อนที่จะส่งออกไปยังสหรัฐฯ และภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ทำให้เวียดนามเร่งปราบปรามการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสินค้าจีน

นอกจากนี้ เวียดนามยังแสดงความเต็มใจที่จะลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร (NTB) และขยายการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/general/3058397/vietnam-pm-expects-us-trade-deal-before-july-tariff-deadline

‘เซ็นทรัล รีเทล’ เดินหน้าทุ่มเงิน 1.38 พันล้านดอลลาร์ ลงทุนไทยและเวียดนาม

เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เตรียมลงทุนกว่า 45 พันล้านบาท หรือประมาณ 1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2027 เพื่อขยายตลาดสำคัญและเร่งการเติบโตทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โดยกลยุทธ์ของทางบริษัทในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ ‘New heights, Next growth’ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า 26 ล้านราย การเร่งพัฒนาธุรกิจใหม่ และการขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรวมศูนย์ เพื่อเปิดประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Omnichannel และยกระดับ AI โดยมุ่งเป้าไปที่การเติบโตของยอดขายออนไลน์เป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเร่งขยายธุรกิจอาหารและห้างสรรพสินค้าในเวียดนาม และส่งเสริมให้ร้านค้าสามารถตกแต่งตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/central-retail-unveils-138-billion-usd-expansion-plan-for-thailand-and-vietnam-post321602.vnp

‘เวียดนาม – ไทย’ ตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกข้าวไปญี่ปุ่น

เวียดนามและไทย เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และคาดว่าจะส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยทางรัฐบาลไทย นำโดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ารัฐบาลต้องการที่จะเจาะตลาดที่ข้าวไทยสามารถขายได้ในราคาสูงและเพิ่มการส่งออกข้าวได้ โดยเฉพาะตลาดข้าวในญี่ปุ่น ในขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมข้าวเวียดนาม (VIETRISA) เปิดเผยว่าเวียดนามเดินหน้าส่งออกข้าวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ข้าวคาร์บอนต่ำ ปริมาณราว 500 ตัน โดยชูจุดเด่น คือ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระหว่างการเจริญเติบโตได้

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นจำเป็นที่จะต้องประเมินช่องว่างระหว่างราคานำเข้าข้าวและราคาข้าวที่ปลูกในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเกษตรกรในประเทศ และมีโอกาสที่จะเกิดการโต้เถียงกันได้จากเหตุการณ์ข้างต้น

ที่มา : https://www.nationthailand.com/blogs/news/40051487

‘เวียดนาม’ เร่งปราบปรามสินค้าปลอม ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้า

นับตั้งแต่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าเวียดนามเป็นศูนย์กลางของสินค้าปลอม ทางรัฐบาลเวียดนามก็เริ่มเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อให้ยกเลิกการขึ้นภาษีนำเข้า 46% และพร้อมที่จะปราบปรามสินค้าปลอม ซึ่งการมุ่งมั่นของรัฐบาลนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองต่อข้อกังวลของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ร้านค้าและแผงขายของในกรุงฮานอยปิดตัวลงจำนวนมาก และจากการให้สัมภาษณ์ผู้ประกอบการแห่งหนึ่ง กล่าวว่าสินค้าปลอมของร้าน เช่น Nike, Lacoste และ North Face เกือบทั้งหมดที่ขายในร้าน สินค้าส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน แต่ติดป้ายสินค้าว่าผลิตในเวียดนาม (Made in Vietnam) เพื่อให้ดูเหมือนสินค้าแท้ และยืนยันว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถซื้อของแท้ได้ โดยทางกระทรวงพาณิชย์ สั่งให้ทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมแหล่งกำเนิดสินค้าให้มีความเข็มงวดมากขึ้น

ที่มา : https://www.thedailystar.net/business/news/made-vietnam-hanoi-cracks-down-fake-goods-us-tariffs-loom-3920571

‘เวียดนาม’ เผยครึ่งปีแรก ศูนย์กลางอุตสาหกรรม ทำรายได้จากการส่งออกพุ่ง 14%

ศูนย์กลางอุตสาหกรรมในจังหวัดบิ่ญเซือง (Bình Dương) ทำรายได้จากการส่งออกสูงถึง 18.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของจังหวัดดังกล่าวที่เป็นกลไกหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ถึงแม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลก แต่อุตสาหกรรมจังหวัดบิ่ญเซืองยังคงรักษาโมเมนตัมที่แข็งแกร่งทั่งในด้านการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ทั้งนี้ จากตัวเลขดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) ของจังหวัด เพิ่มขึ้น 10.19%YoY ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 2 เท่า จากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากภาคการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม และอุปกรณ์เทคโนโลยี

นอกจากนี้ เขตอุตสาหกรรม (IZs) ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของการพัฒนาจังหวัด และจากตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 785 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.04%YoY

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/industrial-hub-sees-nearly-14-export-growth-in-first-half-post321042.vnp

‘เวียดนาม’ เดินหน้าดึงดูดเงินลงทุน FDI ในกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และ AI ระดับโลก

นายเล ตัน คาน (Le Tan Can) รองรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเวียดนาม กล่าวว่าการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ‘Qualcomm’ และเวียดนาม เดินหน้าส่งเสริมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และร่วมมือการพัฒนากับศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติเวียดนาม (NIC) โดยทางบริษัทสหรัฐฯ เปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (R&D) ในเวียดนาม ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณของเวียดนามที่จะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชั้นนำในภูมิภาคและระดับโลก อีกทั้ง บริษัทรายใหญ่หลายแห่งจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป กำลังทุ่มเงินลงทุนและสร้างห่วงโซ่อุปทานในเวียดนามมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัท Qualcomm ยังมีแผนอื่นๆ ที่จะผลักดันการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมทักษะของบุคลากรเวียดนามให้มีความสามารถในการพัฒนา AI และยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-seeks-to-draw-more-fdi-inflows-into-semiconductors-ai-post321033.vnp

‘เวียดนาม’ เจรจาการค้าสหรัฐฯ รอบ 3 แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

นายเหงียน ฮ่อง เดียน (Nguyen Hong Dien) รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม และคณะฯ ได้หารือกับนายโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา และนายจามิสัน กรีเออร์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ในการเจรจารอบที่ 3 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างวันที่ 9 – 12 มิ.ย. โดยการหารือและการเจรจาในครั้งนี้ เป็นการหารืออย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ทางการเวียดนามส่งเอกสารไปยังผู้แทนสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งสองคณะผู้แทนจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการวิคราะห์และหาจุดร่วมกัน เพื่อหาทางออกของทั้งสองปะเทศ

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดการประชุมระดับปฏิบัติการทางออนไลน์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ และเวียดนาม

ที่มา : https://en.nhandan.vn/viet-nam-us-conclude-third-round-of-bilateral-trade-talks-post149432.html

‘เวียดนาม’ ทำลายสถิติส่งออกกาแฟ 4.7 พันล้านดอลลาร์ หนุนความต้องการตลาดสหรัฐ – ยุโรป

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าการส่งออกกาแฟในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีความต้องการของตลาดส่งออกหลัก เช่น สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา และหากพิจารณาเฉพาะในเดือน พ.ค. 2568 พบว่าการส่งออกกาแฟ มีปริมาณราว 149,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 60.5% และเพิ่มขึ้นเกือบ 2.2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกในช่วง ม.ค. – พ.ค. จะหดตัวเล็กน้อย 0.6% แต่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่ 63.2%

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีการนำเข้ากาแฟมากกว่า 367,000 ตัน มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาสหรัฐอเมริกา ปริมาณ 54,310 ตัน มูลค่า 299 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี แนวโน้มการส่งออกกาแฟของเวียดนาม ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระดับโลก และราคากาแฟที่มีทิศทางลดลง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/coffee-exports-hit-record-on-eu-us-demand-post320946.vnp

‘เวียดนาม’ ไฟเขียวปรับขึ้นภาษีสุรา 90% ปี 2574

รัฐสภาเวียดนาม (NA) อนุมัติข้อเสนอที่จะปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากอัตราเดิม 65% มาอยู่ที่ 90% ภายในปี 2574 โดยภายใต้กฎหมายฉบับนี้ จะกำหนดอัตราภาษีเบียร์และสุราที่มีแอลกอฮอล์ สูงถึง 70% ภายในปี 2570 ซึ่งล่าช้ากว่าข้อเสนอในครั้งก่อน 1 ปี ก่อนที่จะขยับขึ้นเป็น 90% ภายในปี 2574 และกระทรวงการคลังให้ความเห็นว่าเป้าหมายของการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว เพื่อควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษา KPMG ระบุว่าอุตสาหกรรมเบียร์ของเวียดนาม ผู้นำตลาดเบียร์ชื่อดังอย่างไฮเนเก้น (Heineken) รวมถึง Carlsberg Sabeco และ Habeco ได้รับผลกระทบจากกฎหมายเมาแล้วขับที่มีความเข็มงวด ซึ่งกำหนดให้ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เป็นศูนย์

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/asia/vietnam-parliament-approve-proposal-raise-tax-alcohol-90-cent-2031-5181876