ตลาดผลไม้มัณฑะเลย์ขายแอปเปิลจีนดีกว่าแอปเปิลไทย เหตุจากราคาที่ต่างกัน

แอปเปิลนำเข้าจากจีนหรือที่เรียกว่า panlonethee ขายได้ดีในตลาดผลไม้มัณฑะเลย์ เมื่อเทียบกับแอปเปิลนำเข้าจากไทย เนื่องจากราคาต่างกันมาก เฉพาะผู้ที่มีกำลังซื้อเท่านั้นจึงจะสามารถบริโภคแอปเปิลจากไทยได้ และการค้าขายแอปเปิลจากจีนก็ดีขึ้นในปีที่แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดี แอปเปิลจีน มีการบริโภคสูงและมีราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ทุกชนชั้น นอกจากนี้ แอปเปิลไทย เนื่องจากมีราคาแพง จึงมีผู้ค้าเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่สามารถขายผลไม้นำเข้าจากไทยในเมืองมัณฑะเลย์ได้ และตลาดผลไม้ส่วนใหญ่พึ่งพาผลไม้นำเข้าจากจีนและผลไม้พันธุ์พื้นเมืองเป็นหลัก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/chinese-apples-sell-better-than-thailand-apples-in-mandalay-fruits-market-due-to-price-gap/

‘ไทย’ เตรียมเปิดเส้นทางเชื่อมโยงทางทะเลเวียดนามและกัมพูชา

นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดโครงการระเบียงเศรษฐกิจกัมพูชา-เวียดนาม-ไทย (CVTEC) ภายใต้ชื่องาน “CVTEC-Trat Business Roadshow 2024” โดยมีผู้แทนจาก 6 จังหวัดของ 3 ประเทศ

ในขณะที่นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่าสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ได้เร่งจัดการประชุมการเชื่อมโยงทางทะเล CVTEC ด้วยการที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เป็นผู้จัดงานร่วมและผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมเส้นทางเดินเรือเชื่อมโยง 3 ประเทศ ภายใต้วัตถุประสงค์ของโครงการ “หนึ่งตลาด 3 จุดหมาย”

ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่าถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในครั้งนี้ และภายในกรอบการประชุม ทางด้านผู้แทนภาคเอกชนและภาครัฐฯ ของทั้ง 3 ประเทศ ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/thailand-looks-to-maritime-tourism-connectivity-with-vietnam-cambodia-post288678.vnp

ไทย และ สปป.ลาว ยืนยันความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

รัฐบาลไทย และ สปป.ลาว จัดการเจรจาระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ สปป.ลาว กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยย้ำความปรารถนาที่จะกระชับความสัมพันธ์ภายใต้ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนการเชื่อมต่อด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง ความร่วมมือด้านการพัฒนาและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ในการเจรจายังได้หารือเกี่ยวกับการก่อสร้างสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 6 ข้ามแม่น้ำโขงระหว่างแชวงสาละวัน สปป.ลาว กับจังหวัดอุบลราชธานี ในประเทศไทย ตลอดจนการสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_104_Lao_Thai_y24.php

‘ไทย’ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ อันดับ 2 ของเวียดนาม

ประเทศไทยกลายมาเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าการส่งออกรวมสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และขึ้นแท่นเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ อันดับ 2 ของตลาดเวียดนามในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน ไทยนำเข้าทุเรียนจากเวียดนาม 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 82% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทั้งนี้ นาย ดัง ฟุก เหงียน เลขาธิการสมาคมผักและผลไม้เวียดนาม (Vinafruit) ได้อธิบายไว้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ ไทยนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถึงแม้ไทยจะเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ทุเรียนของไทยได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้หันมาสั่งซื้อทุเรียนจากประเทศอื่นๆ เพื่อตอบสนองกับความต้องการในประเทศและนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าจีนจะเป็นผู้นำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด แต่ไทยก็เป็นผู้นำเข้าทุเรียนแช่แข็งรายใหญ่ของเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656753/thailand-becomes-viet-nam-s-second-largest-durian-importer.html

การจ้างงานในประเทศไทย ไตรมาส 1 ปี 67 ลดลง 0.1%

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยว่าการจ้างงานของไทยลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากงานภาคเกษตรกรรมลดลง โดยการจ้างงานแรงงานต่างชาติที่มาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวน 39.6 ล้านคน ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงจากการเติบโตร้อยละ 1.7 ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 การลดลงเล็กน้อยมีสาเหตุมาจากการจ้างงานภาคเกษตรกรรมในช่วงนอกฤดูกาลหดตัวมากกว่าร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่งานนอกภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.2 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยการจ้างงานในภาคโรงแรมและร้านอาหารขยายตัวร้อยละ 10.6 จากปีก่อนหน้า ตามจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีมากกว่า 9.3 ล้านคนในช่วงสามเดือนแรกของปี 2567 ทั้งนี้ อัตราการว่างงานของไทยอยู่ที่ร้อยละ 1.01

ที่มา : https://english.news.cn/20240527/e92f9415039b4b8d8df1efa791208996/c.html

“ไทย-ภูฏาน” ถก FTA รอบแรก ตั้งคณะทำงานด้านการค้าสินค้า ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รอบ 2 ส.ค.นี้

โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นภินทร ศรีสรรพางค์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และการจ้างงานภูฏาน (นำเยล ดอร์จิ) ได้ร่วมประกาศเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับภูฏาน ในช่วงการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ไทย-ภูฏาน (JTC) ครั้งที่ 5 คณะเจรจาของไทยและภูฏานจึงได้ประชุมเจรจาจัดทำ FTA ไทย-ภูฏาน รอบแรก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ผ่านมา ณ ประเทศภูฏาน โดยมีตนเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย และ โซแนม เชอริง ดอร์จิ ผู้อำนวยการกรมการค้า เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายภูฏาน สำหรับการหารือระหว่าง นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับ เชริง ท็อปเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567นายกรัฐมนตรีภูฏานขอให้พิจารณาเร่งรัดสรุปผลการเจรจาโดยเร็วที่สุด ซึ่งทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า FTA ไทย-ภูฏาน จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยผู้บริโภคภูฏานมีความนิยม รวมทั้งยอมรับคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและบริการของไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ที่มา : https://moneylifenews.com/en/articles/294591-gov

ข้าวเหนียวมะม่วงไทยสุดฮอต จีน-อาเซียน ดันส่งออกมะม่วงสดโต 130%

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นขนมหวานไทยที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคนานาประเทศ ล่าสุด เว็บไซต์จัดอันดับอาหารระดับโลก “TasteAtlas” ได้จัดอันดับให้ข้าวเหนียวมะม่วงไทย ติดอันดับ 2 ของโลก ในฐานะพุดดิ้งข้าวที่ดีที่สุด ทำให้สินค้าดังกล่าว รวมทั้งมะม่วงสดและข้าวเหนียว ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสทองที่ผู้ประกอบการไทยจะขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ จากสถิติการค้าระหว่างประเทศ ไทยส่งออกมะม่วงสดไปตลาดโลกปริมาณเฉลี่ยกว่าปีละ 1 แสนตัน มูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 2567) ไทยส่งออกมะม่วงสดไปตลาดโลก มูลค่า 1,626 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่าถึง 1,580 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 130 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 97 ของการส่งออกมะม่วงทั้งหมด

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1565498

‘เวียดนาม’ นำเข้ารถยนต์ 4 เดือนแรก มูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าเวียดนามนำเข้ารถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ จำนวน 43,805 คัน มูลค่ากว่า 929.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.4% และ 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาเฉพาะเดือน เม.ย. พบว่าเวียดนามนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศทั้งคัน (CBU) จำนวน 11,565 คัน มูลค่าอยู่ที่ 255.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ อินโดนีเซีย ไทยและจีน เป็นซัพพลายเออร์รถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยทั้งสามประเทศมียอดขายรถยนต์รวมกันทั้งสิ้น 42,154 คัน คิดเป็น 96.2% ของปริมาณการนำเข้ารถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ นอกจากนี้ จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยยอดขายรถยนต์ในประเทศ ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655591/viet-nam-spends-nearly-1b-importing-cars-in-the-first-four-months-of-2024.html

รถไฟลาว-ไทย เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมทดลองวิ่ง

สปป.ลาวและไทยได้เริ่มทดลองใช้บริการรถไฟข้ามพรมแดนใหม่ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะประกาศภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งชาติลาว ภายใต้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การทดสอบจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 ถึง 17 พฤษภาคม 2567 จากสถานีรถไฟท่านาเล้งถึงสถานีเวียงจันทน์ ใน สปป.ลาว หลังจากการทดลองวิ่งครั้งแรกนี้ การทดสอบจะขยายเพิ่มเติมจากสถานีรถไฟอุดรธานีและสถานีหนองคายในประเทศไทย ไปยังสถานีรถไฟท่านาเล้งและสถานีคำสะวาทของลาว ตั้งแต่วันที่ 18-20 พฤษภาคม 2567 รถไฟลาว-ไทย และรถไฟลาว-จีน เป็นองค์ประกอบสำคัญของเครือข่ายรถไฟระดับภูมิภาคที่มุ่งเชื่อมโยงจีนกับสิงคโปร์ผ่านลาว ไทย และมาเลเซีย

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/05/15/laos-thailand-railway-prepares-for-official-opening-with-trial-runs/

บริษัท สปป.ลาว-ไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนด้านพลังงานสะอาด

รัฐบาล สปป.ลาว และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) จากประเทศไทย ร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Super Holding Company เพื่อบริหารจัดการธุรกิจพลังงานสะอาดขนาดกว่า 7GW สู่เป้าหมายของประเทศลาวที่ต้องการเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย” โดยบริษัทร่วมทุนจะดำเนินการดูแลจัดการและการกระจายพลังงานสะอาดจากส่วนกลาง ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้า และขับเคลื่อนความคิดริเริ่มการเติบโตที่ยั่งยืนของประเทศลาว ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้จากธุรกิจพลังงานสะอาดภายใน 3 ปี ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบ อำนวยความสะดวกในการพัฒนาโซลูชั่นการจัดเก็บพลังงาน นำเสนอโซลูชั่นยานยนต์ไฟฟ้า และลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติมเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายระดับชาติ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_91_LaosThai_y24.php