เวียดนามเรียกร้องให้สถานะ ‘เศรษฐกิจแบบตลาด’

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม และนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

โดยทางรัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมว่าเวียดนามเรียกร้องให้สหรัฐฯ กำหนดสถานะเวียดนามว่าเป็น ‘เศรษฐกิจแบบตลาด’ ในขณะที่ว่าหุ้นส่วนชาวอเมริกัรพูดถึงเวียดนามว่ามีความเข้มแข็ง อิสระ ยืดหยุ่นและเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะมีความสัมพันธ์ดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเวียดนามเสนอศักยภาพของอุตสาหสาหกรรมที่ได้รับความสนใจจากสหรัฐฯ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ แร่ธาตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และปัญญาประดิษฐ์ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยยกระดับของเวียดนามในตำแหน่งห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกและเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ อีกด้วย

นอกจากนี้ การลาออกของนายโว วัน เทืองที่ละเมิดและข้อบกพร่องของพรรค ไม่มีผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจ

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/vietnam-appeals-for-market-economy-status/

‘เวียดนาม’ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 6% มีผล 1 ก.ค.

จากพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 38 ที่เสนอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยกระทรวงแรงงาน ผู้พิการ และสวัสดิการสังคม (MOLISA) รายงานว่าค่าแรงขั้นต่ำในภูมิภาคจะเพิ่มขึ้น 6% ทั้งค่าจ้างรายเดือนและรายชั่วโมง เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะช่วยค่าครองชีพของแรงงานและคนในครอบครัว รวมถึงหนุนตลาดแรงงานเวียดนามฟื้นตัวดีขึ้นและส่งเสริมการผลิตและการดำเนินธุรกิจของกิจการ อย่างไรก็ตามยังมีอุปสรรคใหม่บางประการที่มีผลต่อการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000-280,000 ดองต่อเดือน เมื่อเทียบกับระดับปัจจุบัน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/minimum-wage-to-increase-by-6-from-july-1-2263650.html

‘วินฟาสต์’ ผู้ผลิตรถ EV สัญชาติเวียดนาม วางขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม ประกาศเมื่อวันอังคารว่าทางบริษัทวางแผนที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย และร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในการเปิดโชว์รูม อย่างไรก็ดี วินฟาสต์ที่เริ่มส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้ว เผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดไทยจากคู่แข่งรถยนต์สัญาชาติจีน ‘บีวายดี’ รวมถึงเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐฯ ก็เริ่มเข้าสู่ตลาดรถยนต์นี้ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมดจะเข้าร่วมงานบางกอก มอเตอร์โชว์

ทั้งนี้ จากรายงานของ เคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช บริษัทวิจัยตลาด เปิดเผยว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย คิดเป็นสัดส่วน 58% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2565 แซงหน้าเวียดนามและอินโดนีเซีย แต่ว่าเมื่อพิจารณามูลค่าของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังคงมีสัดส่วนเล็กน้อยที่ 0.5% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโลกในปี 2565

ที่มา : https://www.khaosodenglish.com/news/2024/03/27/vietnamese-automaker-vinfast-to-start-selling-evs-in-thailand/

‘แบงก์ชาติเวียดนาม’ แจ้งสถาบันผู้ออกบัตร เร่งตรวจสอบขั้นตอนการออกบัตร

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ประกาศคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการทบทวนในเรื่องขั้นตอนการออกบัตรและการจัดการบัตรธนาคาร (Bank Card) ซึ่งธนาคารกลางให้ความสำคัญมากที่สุดในการรักษาความปลอดภัย สิทธิของผู้บริโภคและธนาคารที่ได้รับความคุ้มครอบภายใต้กฎหมายและระเบียบในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์จะต้องเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ย วิธีการคำนวณดอกเบี้ย เป็นต้น การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของธนาคารกลางอย่างเคร่งครัดและจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับแจ้งสิทธิและภาระผูกพันของตน โดยเฉพาะบัตรเครดิต

นอกจากนี้ ธนาคารกลางเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ใช้มาตรการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและทราบถึงสิทธิของตน รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1652701/central-bank-told-card-issuers-to-review-procedures.html

‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ คาดการณ์ GDP เวียดนามไตรมาส 1/67 โต 6.1%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) จาก 6.7% ในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว และคาดการณ์ว่า GDP ของปี 2567 จะขยายตัวที่ 6.7% โดยจากข้อมูลในเดือน มี.ค. แสดงให้เห็นว่าทิศทางของภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว จากแรงหนุนภาคการค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 9.2%YoY ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 5.2%YoY และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 5.0%YoY ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2%YoY ในเดือน มี.ค ดีดตัวสูงขึ้นจาก 4.0% ในเดือน ก.พ.

ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้จะมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง แต่คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดีควรประเมินและเตรียมการรับมือในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเผชิญกับปัญหาอุปสรรคการค้าโลก

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/standard-chartered-forecasts-vietnam-s-gdp-in-q1-to-moderate-to-6-1-2263679.html

‘ส่งออกข้าวเวียดนาม’ ส่งสัญญาณเชิงบวก

เหงียนอันเซิน ผู้อำนวยการฝ่ายนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ประเมินว่าอุตสาหกรรมข้าวของเวียดนามมีการเติบโตที่โดดเด่นผ่านการปฎิรูปทั้งด้านการผลิตและการส่งออก รวมถึงปรับปรุงคุณภาพสินค้าและกระบวนการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อขยายตลาดและยกระดับอันดับข้าวเวียดนามในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป สหรัฐฯ เกาหลีใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มต้องการข้าวเวียดนามที่มีคุณภาพสูง

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ตลาดข้าวในปีนี้ เห็นได้ว่าตลาดข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น ปริมาณอาจมากกว่า 9 แสนตันในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ร้องขอให้หน่วยงานท้องถิ่นและสมาคมธุรกิจข้าวให้แบ่งปันข้อมูลและเสนอแนวทางแก้ไขในการพัฒนาตลาด เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมข้าว ใช้ประโยชน์จากการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศและยกระดับแบรนด์ข้าวเวียดนาม

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/positive-outlook-for-vietnams-rice-exports/

‘เวียดนาม’ เผชิญกับดักรายได้ปานกลาง งานไม่ดี ค่าจ้างต่ำ

หลังจากมีการปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจ “โด่ยเหมย” เวียดนามก็ขึ้นแท่นประเทศดาวรุ่งและมีการพัฒนาทุกภาคส่วนด้วยการใช้โมเดลแรงงานจำนวนมากหรือแรงงานเข้มข้น ซึ่งแรงงานเหล่านี้ไม่ได้รับการฝึกอบรมและผลักดันให้เวียดนามเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำ อย่างไรก็ดี เวียดนามใช้โมเดลนี้จนนานเกินไปและไม่ได้เตรียมบุคลากรและเทคโนโลยีให้มีความพร้อมที่ไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูง จึงจำเป็นที่จะต้องฝึกอบรมแรงงานและยกระดับขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยี

ทั้งนี้ Pham Manh Hung อาจารย์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนามฮานอย กล่าวว่าเวียดนามยังไม่ได้ลงทุนกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณที่ยังไม่เพียงพอ

ในขณะที่จากรายงานพบว่าแรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกอบรมและมีเพียงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น ทำให้ไม่ตอบสนองกับความต้องการของตลาดแรงงานได้ และส่งผลให้แรงงานมีทักษะต่ำและค่าจ้างไม่ดี

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/bad-jobs-low-pay-and-the-risk-of-a-middle-income-trap-2256840.html

‘เมตา’ เผยเวียดนามมีศักยภาพขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยี AI

นายราฟาเอล ฟรังเคล (Rafael Frankel) ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Meta Group กล่าวในงานแถลงข่าวของโครงการ “Vietnam Innovation Challenge 2024” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา และมองเห็นความมุ่งมั่นของคนเวียดนามที่จะนำไปสู่การเติบโตของประเทศ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี และความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและธุรกิจจากสหรัฐฯ

ทั้งนี้ รายงานจาก McKinsey 2023 เปิดเผยว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นับเป็นรากฐานที่สำคัญของการการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งจากผลกระทบในครั้งนี้ จะปฏิรูปเทคโนโลยี งานแบบพลวัตและการสร้างเนื้อหาดิจิทัล ตลอดจนรายได้ของเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้นหลายล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ทางบริษัท Meta มีแผนงานในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใน WhatsApp, Messenger และ Instagram ปี 2567 ในเอเชียแปซิฟิกแล้ว และเวียดนามก็อยู่ในแผนงานดังกล่าว โดยเชื่อว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถรองรับกับความต้องการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเวียดนามได้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1652586/viet-nam-s-potential-to-become-an-ai-dragon-meta.html

ส่องตลาดดาต้าเซ็นเตอร์เวียดนาม มูลค่า 1.26 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2573

รายงานของ Viettel IDC เปิดเผยว่าตลาดศูนย์ข้อมูล (Data Center) ของเวียดนาม คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1.26 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 ด้วยอัตราการขยายตัว 10.8% ต่อปี ในขณะที่ตลาดศูนย์ข้อมูลโลก จะมีมูลค่าอยู่ที่ราว 321 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ และอัตราการขยายตัว 7.3% ต่อปี

ทั้งนี้ นาย Hoang Van Ngoc ผู้อำนวยการของ Viettel IDC กล่าวไว้ในที่ประชุม Data Center & Cloud Infrastructure Summit (DCCI Summit) ปี 2567 ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก้าวไปสู่การขับเคลื่อนของศูนย์ข้อมูล ด้วยอัตราการขยายตัว 19% โดยมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญทั้งในตลาดหลักและตลาดรอง

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงการเติบโตของตลาดศูนย์ข้อมูลเวียดนามเทียบกับประเทศอื่น พบว่าเวียดนามยังเติบโตค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnams-data-center-market-to-reach-us126-billion-by-2030-326399.html

สปป.ลาว-เวียดนาม จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมบริเวณชายแดนทั้ง 2 ประเทศ

เทศกาลการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัวพันและเซินลา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2567 จังหวัดเซินลาในเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับแขวงหัวพันทางทิศตะวันออกของ สปป.ลาว และทั้งสองเมืองกำลังทำงานเพื่อพัฒนาและได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงร่วมกัน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงทางวัฒนธรรมที่ยกย่อง ขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของท้องถิ่น รวมถึงการเต้นรำแบบดั้งเดิม นิทรรศการภาพถ่าย และรายการอาหารที่แสดงถึงแก่นสารของอาหารหัวพัน โดยผู้ที่มาร่วมงานเทศกาลสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในแขวงหัวพันผ่านงานแสดงสินค้าริมถนนที่จัดแสดงอาหารและงานฝีมือท้องถิ่นยอดนิยมที่ผลิตโดยกลุ่มชาติพันธุ์ งานนี้ถือเป็นกิจกรรมที่หาได้ยากสำหรับทุกคนที่มาเยือนและนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงประสบการณ์ที่น่าสนใจอีกมากมาย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_59_Huaphan_y24.php