เมียนมาอนุญาตเพิ่มวงเงินการลงทุนในระดับภูมิภาค

กระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศเผย คณะกรรมการการลงทุนของภูมิภาคและรัฐสามารถเพิ่มการลงทุนในโครงการพัฒนาระดับภูมิภาคได้ จากเดิมที่มีอำนาจการลงทุนสูงสุด 5 ล้านเหรียญสหรัฐและ 6 พันล้านจัต และถ้าหากจำนวนมากกว่านี้ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม MIC จะเพิ่มจำนวนเงินหากการลงทุนนั้นมีไว้เพื่อการพัฒนา ตัวอย่างคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการก่อสร้างถนนและโทรคมนาคมนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้วงเงินจำนวนมาก หากสามารถทำได้จะพัฒนาภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของคณะกรรมการด้านลงทุนและบริหารบริษัท (DICA) รัฐและภูมิภาคได้รับอนุญาตให้ตั้งคณะกรรมการการลงทุนเพื่อกำกับดูแลและปรับปรุงการลงทุน ในขณะเดียวกันก็ต้องส่งข้อมูลกลับไปยัง MIC

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/approval-investment-limits-can-be-raised-official-says.html

เกษตรกรเลี่ยงชำระเงินกู้ตั้งแต่ปี 55

เกษตรกรที่เป็นหนี้เงินกู้ธนาคารเพื่อการพัฒนาการเกษตรของเมียนมา (MADB) จำนวน 200 พันล้านจัต ยังไม่ได้ชำระตั้งแต่ปี 55 ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดอิรวดี พะโค และย่างกุ้ง ปัจจุบันการออมลดลงต่ำมากขณะที่สินเชื่อเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบพบว่ามีเงินฝาก 77 พันล้านจัต แต่เงินกู้ยืมรวมทั้งสิ้น 1.7 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณ 61-62 เหตุผลหนึ่งที่เกษตรกรเลี่ยงการชำระคือ การชำระหนี้เจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า MADB ที่มีอัตราดอกเบี้ยเพียง 8% ขณะเดียวกันสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ยากที่จะรักษาคุณภาพและผลผลิตไม่คงที่ ซึ่งส่งผลให้รายได้ผันผวนตลอดหลายปี และการขาดแรงงานรุ่นใหม่ๆ ที่หลั่งไหลไปทำงานในต่างประเทศแทน MADB ได้ขยายการชำระคืนเงินกู้ในเดือน ต.ค. – ธ.ค. ปีที่แล้วจนถึงเดือน มิ.ย. – ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งการที่ธนาคารปล่อยเงินกู้มากขึ้น เช่น เกตรกรผู้ปลูกข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 จัต จาก 100,000 จัต ขณะเดียวกันเกษตรกรที่ปลูกพืชอื่น ๆ สามารถกู้เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 100,000 จัต ปัจจุบัน MADB ให้สินเชื่อแก่เกษตรกรตาม 3 ฤดูการเพาะปลูกหลัก ได้แก่ มรสุม ก่อนมรสุม และฤดูหนาว

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/farmers-have-shirked-loan-repayments-2012.html

โครงการที่จะนำการเปลี่ยนแปลงสู่ฝั่งแม่น้ำของซิตตเวในปีหน้า

ซีอีโอ BXT International Co (BXT) บริษัทพัฒนาแห่งเกาหลีใต้กล่าวว่าโครงการพัฒนาริมน้ำที่หลากหลายตามแนวแม่น้ำกาลาดานในเมืองซิตตเว ของรัฐยะไข่ ตอนนี้คืบหน้าไป 90% แล้ว ส่วนที่เหลือคือการสร้างถนน ท่อระบายน้ำ และโครงข่ายพลังงาน โครงการพัฒนาฝั่งแม่น้ำของซิตตเว ประกอบไปด้วยหน่วยงานราชการ เขตอุตสาหกรรม โรงแรมและร้านค้าต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 3 เฟสบนพื้นที่ 36 เฮคเตอร์ใกล้กับตลาดเมียวมาและท่าเรือ ในเฟส 3 เป็นการพัฒนาอาคารพาณิชย์โดยความร่วมมือกับบริษัทของสหรัฐอเมริกาเมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) จะมีการสร้างทั้งหมด 70 รายการ เนื่องจากรัฐยะไข่เป็นหนึ่งในรัฐที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดรัฐบาลจึงได้ยกเว้นภาษีเป็นเวลา 7 ปี แม้จะห่างไกลและยากจนแต่ซิตตเวมีความปลอดภัย สวยงาม และเหมาะสมสำหรับการลงทุน ถึงแม้จะมีปัญหาในรัฐยะไข่ โครงการนี้รัฐถือหุ้น 30% ซึ่งผู้ซื้อหลังจากทำการดาวน์ 20% และ BXT จะยกเว้นดอกเบี้ยให้ถ้าสามารถชำระคืนทั้งหมดภายใน 2 ปี

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/project-bring-changes-sittwes-waterfront-next-year.html

กระทรวงการก่อสร้างเดินหน้าโครงการที่พักให้เช่าราคาถูกสำหรับพนักงาน

กระทรวงการก่อสร้างเริ่มดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยราคาถูกใกล้กับเขตอุตสาหกรรมติว่า ในเขตเมืองตาน-ลยีน เขตการปกครองไลง์ตายา เขตการปกครอง Dagon Seikkan (Yoma) และโครงการที่อยู่อาศัยให้เช่าสำหรับพนักงานในเนปิดอร์ ภายในปีงบประมาณ 62-63 ที่พักจำนวน 7,300 หน่วยสำหรับข้าราชการถูกสร้างขึ้นในเนปิดอร์, ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ เป็นเวลาสามปีจากปีงบประมาณ 59-60 ถึง 61-62 ส่วนใหญ่อยู่ในมัณฑะเลย์ สามปีที่ผ่านมาได้สร้างที่พักอาศัย 520 แห่งในรัฐคะฉิ่น 318 แห่งในรัฐกะยา 150 แห่งในรัฐกะเหรี่ยง 162 รัฐชิน 1,262 แห่งในเขตซะไกง์ 252 แห่งในเขตตะนาวศรี 672 ในเขตพะโคะ 552 ในเขตมะกเว 1,530 ในมัณฑะเลย, 252 ในรัฐมอญ 666 ในรัฐยะไข่ 732 ในรัฐฉาน และ 224 ในเขตอิระวดี ตั้งแต่ปี 60 -62 ได้ขาย 8,416 หน่วยให้กับเจ้าหน้าที่บริการและคนที่มีรายได้น้อยในเมืองใหญ่รวมถึงย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปิดอว์ นอกจากนี้ยังมีแผนการผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งการให้สินเชื่อมีไว้สำหรับผู้ซื้อที่ผ่านเกณฑ์ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA)

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/construction-ministry-continues-implementing-low-cost-staff-rental-housing-projects

FDI เมียนมาสูงกว่า 81 ล้านเหรียญสหรัฐ

คณะกรรมการการลงทุนของเมียนมา (MIC) ระบุว่า 50 ประเทศมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 81,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากปี 2531-2532 ปีงบประมาณถึงปี 2561-2562 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติและภาคไฟฟ้า MIC จัดประชุมครั้งที่ 18/2019 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.และอนุญาตให้ธุรกิจใหม่ 8 ธุรกิจในการผลิตสัตว์และการประมง บริการอื่น ๆ และที่อยู่อาศัย การลงทุนรวมของธุรกิจใหม่มีมูลค่าประมาณ 165.853 ล้านเหรียญสหรัฐและ 99,443 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถสร้างโอกาสในการจ้างงาน 1,739 ตำแหน่งให้กับคนในท้องถิ่น โดย MIC เปิดโอกาสให้มีการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่า 220 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในระยะเวลา 20 ปี และดำเนินการตามแผนส่งเสริมการลงทุนในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ระหว่างปี 2559-2560 ถึงปี 2563-2564 ปีงบประมาณระยะกลางจากปี 2564-2565 ถึงปี 2568-2569 ปีงบประมาณและระยะยาวจาก 2569-2570 ถึงปี 2578 2579 เมียนมาคาดจะมีเงินลงทุนต่างประเทศประมาณ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562-2563

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/foreign-investment-reaches-over-us81-b

อินโดนีเซียจับมือเมียนมาพัฒนาการค้าทวิภาคี

นักธุรกิจเมียนมากว่า 30 คนเข้าร่วมการประชุมธุรกิจอินโดนีเซีย – เมียนมาที่โรงแรมในย่างกุ้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียได้ร่วมมือจากศูนย์ส่งเสริมธุรกิจระหว่างประเทศจัดให้มีการประชุมทางธุรกิจสำหรับผู้แทนอินโดนีเซีย 10 คนจาก 6 บริษัท และบริษัทคู่ค้าในเมียนมา โดยเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียกล่าวว่าอินโดนีเซียและเมียนมาจะเพิ่มความพยายามในการส่งเสริมปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้นถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว ทั้งนี้ยังสนับสนุนให้นักธุรกิจชาวอินโดนีเซียสำรวจโอกาสในการลงทุน องค์กรที่เป็นตัวแทนในครั้งนี้มีตั้งแต่บริษัทน้ำมันและก๊าซ การรถไฟ การจัดการน้ำและสุขาภิบาล บริษัทผู้ผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค โลจิสติกส์ การเลี้ยงสัตว์ปีก ยา ธุรกิจการเกษตร การก่อสร้างและการบำบัดน้ำเสีย

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/indonesia-myanmar-keen-keep-bilateral-trade-growing.html

สหรัฐฯ ส่งเสริมภาคเกษตรในรัฐคะฉิ่น

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาได้พบปะกับสมาชิกภาคเกษตรของรัฐคะฉิ่นกว่า 60 คนในเมืองมิตจีเกี่ยวกับกิจกรรมของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ในการพัฒนาการเกษตรและการพัฒนาระบบอาหาร ในการปรับปรุงความเป็นอยู่ของเกษตรกร กิจกรรมพัฒนาระบบเกษตรและอาหารเป็นโครงการเกษตรซึ่งเป็นครั้งแรกของ USAID ที่ขยายไปสู่รัฐคะฉิ่น โครงการมีระยะเวลาห้าปีมูลค่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐคาดเข้าถึงประชาชนกว่า 125,000 คนในรัฐคะฉิ่น รัฐฉาน และเขตแห้งแล้งส่วนกลาง การสนับสนุนมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดขายและบริษัทเกษตรในพื้นที่ โดยเงินทุน 42 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนภาคเอกชนอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐและช่วยสร้างงานได้ 3,500 ตำแหน่ง แนวทางดังกล่าวคาดจะสร้างโอกาสการทำมาหากินมากขึ้นสำหรับชุมชนที่หลากหลายในรัฐคะฉิ่น ซึ่งสหรัฐอเมริกามุ่งมั่นที่จะดำเนินการโครงการอย่างเปิดและเผยโปร่งใส

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/us-promotes-inclusive-agriculture-led-growth-kachin-state.html

มาเลเซียคาดมีผู้ป่วยเมียนมาเพิ่ม

สภาการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของมาเลเซียคาดนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourist) สร้างรายได้ 22 ล้านริงกิต (8 พันล้านจัตหรือ 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยชาวเมียนมาที่เดินทางมามาเลเซียจะต้องจ่ายราคาเดียวกับชาวมาเลเซีย ปีที่แล้วโรงพยาบาลในมาเลเซียมีรายได้ 12.8 ล้านริงกิตจากผู้ป่วยชาวเมียนมาและจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มาเลเซียมีโรงพยาบาลเอกชน 200 แห่งไม่รวมถึงคลินิกทันตกรรมและศูนย์สุขภาพและสุขภาพ มีโรงพยาบาลพันธมิตรที่ดีที่สุด 78 แห่ง พันธมิตรยอดเยี่ยม 21 รายและสมาชิกสามัญ 52 ราย ส่วนใหญ่ชาวเมียนมาที่เดินทางไปมาเลเซียนั้นเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ มะเร็ง การทำเด็กหลอดแก้ว และโรคเบาหวาน ในปี 54 มีผู้ป่วยมากกว่า 2,000 รายที่มาจากเมียนมา ภายในปี 61 เพิ่มขึ้นเป็น 16,000 คน อนาคตอาจมีการร่วมมือกันสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์และทำงานร่วมกับโรงพยาบาล 7 แห่งรวมถึงโรงพยาบาลวิคตอเรีย ในย่างกุ้ง ทั้งนี้ยังได้รับรางวัล“ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกด้านการดูแลสุขภาพ” และ“ประเทศอาเซียนที่ดีที่สุดสำหรับคนวัยเกษียณ” เร็ว ๆ นี้รายงานปี 61 มาเลเซียติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำระดับโลก

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/malaysia-expects-more-myanmar-patients.html

ซูซูกิเปิดแผนผ่อนชำระสำหรับรถสี่รุ่น

บริษัท รถยนต์ซูซูกิเมียนมาร์มอเตอร์ จำกัด เปิดตัวแผนการผ่อนชำระใหม่สำหรับรถยนต์สี่รุ่นในสายการผลิตในประเทศ โดยร่วมมือกับธนาคารสหกรณ์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการใหม่นี้สำหรับผู้ที่ซื้อรุ่น Ciaz, Ertiga, Swift GL และ Swift GLX ในเดือนนี้ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อด้วยการชำระเงินดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์จากนั้นชำระยอดเป็นรายเดือนรวมถึงประกันของ GGI Insurance วัตถุประสงค์ของธนาคารคือการส่งเสริมการบริการทางการเงินใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค รถซูซูกิที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ได้แก่ Ciaz ราคาอยู่ที่ 27 ล้านจัต, Ertiga mpv ที่ 27.2 ล้านจัต, Suzuki Swift GL และ GLX  แฮทช์แบค ที่ .9.9 ล้านจัตและ 24.1 ล้านจัตตามลำดับ

ที่มา :https://www.mmtimes.com/news/suzuki-launches-instalment-plan-purchases-four-models.html

ตัวเลขนักท่องเที่ยวเมียนมาเพิ่ม

กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวเผยข้อมูลตั้งแต่เดือน ม.ค-ก.ย.ปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 390,000 รายหรือ 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นเ กาหลีใต้ และจีน ผลจากการผ่อนคลายวีซ่าในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว วีซ่าอนุญาตให้พำนักในประเทศได้นานถึง 28 วัน ในวันที่ 1 ตุลาคมรัฐบาลได้ขยายวีซ่าเดินทางเข้าประเทศจากเยอรมนี รัสเซีย สเปน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลียเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกให้มากขึ้น นักท่องเที่ยวมีเวลาน้อยมากในการเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวในปีนี้รับรู้เรื่องการผ่อนคลายวีซ่าล่วงหน้าแค่ 3 เดือน มีเพียงนักเดินทางแบบแบ็คแพ็คเท่านั้นที่สามารถเพลิดเพลินกับนโยบายใหม่ได้ ตั้งแต่ ม.ค. –ก.ย.ปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปกว่า 120,000 คน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากข้อมูลพบว่าผู้มาเยือนจากเยอรมนี อิตาลี รัสเซีย สเปน และโปแลนด์ใช้เวลาเฉลี่ย 14 วันและอยู่ในกลุ่มผู้ใช้จ่ายสูงสุด

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/tourist-numbers-myanmar-rise.html