รัฐบาล สปป.ลาว สั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ‘ลดการเดินทางไปต่างประเทศ’ เพื่อคลี่คลายปัญหาเงินกีบอ่อนค่า

รัฐบาล สปป.ลาว กำหนดมาตรการเพื่อลดจำนวนความต้องการสกุลเงินต่างประเทศ หนึ่งในมาตรการ คือ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐ ลดการเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน ควบคุมราคาสินค้าในตลาดท้องถิ่น ตลอดจนดำเนินการตามวาระระดับชาติในการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ความท้าทายอีกประการของรัฐบาลลาว คือ การควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ยังมีระดับที่สูง เนื่องจากต้นทุนสินค้าและบริการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังสร้างความยากลำบากเพิ่มเติมในการลดความยากจนของประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/asiapacific/20231019/fe96906a8c2b485997cd4e092ca24049/c.html

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เดินหน้าแก้ไข‘ปัญหาท่าเรือทางบก’

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เริ่มดำเนินแผนงานปรับปรุงกระบวนการนำเข้าและส่งออกในท่าเรือทางบกทั่วประเทศ ทั้งการจัดการปัญหาการทุจริตและกระบวนการขนส่งข้ามแดนที่ยุ่งยาก โดยแบ่งระยะของแผนงานเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ปี 2566 มีเป้าหมายที่จะแก้ไขโครงสร้างการเก็บค่าธรรมเนียมและทบทวนระบบการจัดการงานข้ามหน่วยงาน ระยะที่ 2 ช่วงกลางปี 2567 จะทำการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องและกำหนดหลักการที่เป็นเอกภาพ และระยะยาวในช่วงสิ้นปี 2567 จะมุ่งเน้นการสร้างระบบวิธีการจัดการที่เหมาะสมและเชื่อมโยงการทำงานกับภาคีการค้าต่างประเทศ
เพื่อปรับปรุงข้อตกลงการขนส่งในระดับทวิภาคีและไตรภาคีระหว่างลาว จีน และไทย

ที่มา : http://: https://laotiantimes.com/2023/10/18/laos-ministry-of-industry-and-commerce-works-to-address-land-port-issues/

‘รัฐบาล สปป.ลาว’ ขอภาคเอกชนร่วมมือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

ผู้แทนจากรัฐบาล สปป.ลาว นายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์ และภาคธุรกิจในนครหลวงเวียงจันทน์ร่วมประชุมระดมความคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินที่ลาวเผชิญอยู่ ทั้งปัญหาเงินเฟ้อ สินค้ามีราคาแพง และการอ่อนค่าของเงินกีบ โดยผลการประชุมสรุปว่า ควรเร่งสร้างความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการดำเนินมาตรการและกลไกการแก้ไขปัญหาให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ทั้งการส่งเสริมให้เกิดการผลิตสินค้าภายในประเทศ ลดการนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับสินค้านำเข้าเพื่อลดการขาดดุลทางการค้า ส่งเสริมกิจการด้านการท่องเที่ยวให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงรัฐบาลควรออกนโนยบายลดราคาค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือน

ที่มา : https://english.news.cn/20231018/ae565798a40548bb9eedba88bc5d26a6/c.html

ตม.จีน เผย ‘รถไฟจีน-ลาว’ มียอดผู้ใช้บริการทะลุ 81,000 คน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนานของจีน เผย 6 เดือนแรก มีผู้ใช้บริการรถไฟจีน-ลาวแล้วกว่า 81,000 คน ในที่นี้เป็นผู้โดยสารต่างชาติกว่า 15,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ สะท้อนความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้
ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีราคาค่าโดยสารไม่แพงและมีความสะดวกสบาย อีกทั้งตั้งแต่
เดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางที่ด่านโม่ฮานถึงสถานีปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์มีการปรับลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 9 ชั่วโมง จากผลของการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกากร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_202_China_y23.php

นักเศรษฐศาสตร์ลาวแนะ ‘ต้องดึงเม็ดเงินต่างชาติ’ เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินกีบ

ศ.ภูเพชร เคียวภิลาวงศ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว เสนอแนะวิธีรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบและจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจของลาวที่ตกต่ำจากปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยลาวจำเป็นต้องดึงดูดเงินตราต่างประเทศเข้ามามากขึ้นด้วยการเพิ่มมูลค่าของการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศจะช่วยรักษาเสถียรภาพของค่าเงินกีบไม่ให้อ่อนค่าลงไปกว่าปัจจุบัน นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องแก้ไข คือ แก้ไขกฎระเบียบการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในลาว โดยปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎระเบียบดังกล่าวมารองรับว่าชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลาวได้ หากแก้ไขได้จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาได้อีกทางหนึ่ง

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40031972

‘รถไฟจีน-ลาว’ มียอดผู้ใช้บริการทะลุ 81,000 คน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนานของจีน เผย 6 เดือนแรก มีผู้ใช้บริการรถไฟจีน-ลาวแล้วกว่า 81,000 คน ในที่นี้เป็นผู้โดยสารต่างชาติกว่า 15,000 คน จากกว่า 60 ประเทศ สะท้อนความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีราคาค่าโดยสารไม่แพงและมีความสะดวกสบาย อีกทั้งตั้งแต่กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา ระยะเวลาเดินทางจากต้นทางที่ด่านโม่ฮานถึงสถานีปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์มีการปรับลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 9 ชั่วโมง จากผลของการลดขั้นตอนพิธีการทางศุลกากร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_202_China_y23.php

นักเศรษฐศาสตร์ลาวแนะ ‘ต้องดึงเม็ดเงินต่างชาติ’ เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินกีบ

ศ.ภูเพชร เคียวภิลาวงศ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว เสนอแนะวิธีรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบและจัดการกับความท้าทายทางเศรษฐกิจของลาวที่ตกต่ำจากปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยลาวจำเป็นต้องดึงดูดเงินตราต่างประเทศเข้ามามากขึ้นด้วยการเพิ่มมูลค่าของการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศจะช่วยรักษาเสถียรภาพของค่าเงินกีบไม่ให้อ่อนค่าลงไปกว่าปัจจุบัน นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องแก้ไข คือ แก้ไขกฎระเบียบการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในลาว โดยปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎระเบียบดังกล่าวมารองรับว่าชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลาวได้ หากแก้ไขได้จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาได้อีกทางหนึ่ง

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40031972

‘ลาว-สิงคโปร์’ ร่วมประชุมหารือทวิภาคี ตอกย้ำความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน

กระทรวงการต่างประเทศลาวและสิงคโปร์ จัดการประชุมทวิภาคีความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนความคืบหน้าในความพยายามร่วมกันในการปกป้องสิ่งแวดล้อม การจัดการแหล่งน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ ฝ่ายลาวได้ขอให้รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนให้นักธุรกิจสิงคโปร์เข้าลงทุนในลาวมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในด้านการเกษตร พลังงานสะอาด การท่องเที่ยวและโรงแรม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_Laosomga201_23.php

‘ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเวียดนาม’ เตรียมเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไฟฟ้าในสปป.ลาว

นาย Nguyen Van Thanh ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทกรีน แอนด์ สมาร์ท โมบิลลิตี้ เจเอสซี (GSM) กล่าวว่าบริษัทได้ดำเนินโครงการส่งรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทวินฟาสต์ (VinFast) จำนวน 150 คัน ไปยังประเทศสปป.ลาว เพื่อให้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้า และนับเป็นครั้งแรกของบริษัท GSM ที่เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยตามแผนของบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่ไฟฟ้าในสปป.ลาว ในปี 2566 ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1,000 คัน รุ่นวินฟาสต์ วีเอฟ อี5 พลัส (VF 5 Plus) และวินฟาสต์ วีเอฟ อี34 (VF e34) หลังจากนั้นจะพัฒนาระบบนิเวศการบริการอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าและให้บริการเสริม เช่น การจองรถแบบแพ็คเกจ การจองรถท่องเที่ยว และการจองรถยนต์ส่วนบุคคล

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-e-taxi-firm-gsm-to-provide-service-in-laos-post1052518.vov

เกาหลีใต้-สปป.ลาว พร้อมหนุนระบบการซื้อขายการปล่อยก๊าซคาร์บอน

การประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่าง เกาหลีใต้-สปป.ลาว ในหัวข้อ “การสร้างแผนแม่บทสำหรับการนำระบบการค้าคาร์บอนไปใช้ใน สปป.ลาว” ซึ่งจัดขึ้น ณ เวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา นำโดย ดร. Kim Jaehong ที่ปรึกษาอาวุโสของโครงการอดีตประธาน สำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนของเกาหลี (KOTRA) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับผู้แทนกระทรวงและเอกชน ได้แก่ KOWEPO, EDL-GEN, บริษัท ไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ราย, กลุ่มพงษ์ทรัพย์ทวี และ AIDC เข้าร่วมประชุมสัมมนาในการแบ่งปันความรู้ในการจัดทำระบบการค้าคาร์บอนระหว่างเกาหลีและ สปป.ลาว ในอนาคต รวมถึงการพัฒนาระบบพลังงานทดแทน, REDD+, การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาภาคอื่นๆ ภายในระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ยังต้องมีรากฐานทางกฎหมายที่จำเป็นในการขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_SKorea200_23.php