นักลงทุนมาเลเซียเข้าลงทุนในกัมพูชามูลค่ารวมกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้รายงานถึงการจดทะเบียนโครงการลงทุนของมาเลเซียรวมจำนวน 162 โครงการ มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดย CDC ได้กล่าวรายงานในการประชุมระหว่างรองเลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนกัมพูชาของ CDC และเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำกัมพูชา ซึ่งผู้แทนมาเลเซียแสดงความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมในด้านการศึกษา อสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ และพลังงานในระหว่างการประชุม

โดยปัจจุบันกัมพูชามีข้อตกลงพิเศษทางการค้า ได้แก่ FTA กับจีน เกาหลีใต้ ไปจนถึง RCEP และ GSP ของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา และ EBA ของสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้นจากผลประโยชน์ทางการค้าต่างๆ อย่างเช่นมาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลุ่มสำคัญของกัมพูชาในภาคอสังหาริมทรัพย์ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และโรงงานแปรรูป ปัจจุบันปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชา-มาเลเซียเกินกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501048791/3-2-billion-worth-malaysia-investment-projects-registered-in-cambodia/

การลงทุน FDI ไตรมาสแรกปี 65 ไหลเข้ามายังเวียดนามพุ่ง 7.8% จำนวน 4.42 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าเวียดนามได้รับเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จำนวน 4.42 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม บริษัทที่ทำ FDI คิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของมูลค่าการส่งออกในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ การลงทุน FDI ส่วนใหญ่ 59.5% ไหลเข้าไปยังอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ในขณะที่ 30.3% อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/business/vietnam-fdi-q1-inflows-78per-cent-yy-442-billion-investment-ministry-2590316

‘เวียดนาม’ เผยไตรมาสแรกปี 65 ปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือ 180 ล้านตัน

สำนักงานบริหารการเดินเรือเวียดนาม (VMA) เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 การขนส่งสินค้าทั้งหมดผ่านท่าเรือเวียดนาม อยู่ที่ 180 ล้านตัน โดยเฉพาะปริมาณการขนส่งทางเรือด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ 6.2 ล้าน TEUs เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค. เพียงเดือนเดียว ปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือของเวียดนาม 67.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และปริมาณการขนส่งทางเรือด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ เกินกว่า 2.3 ล้าน TEUs นอกจากนี้ จังหวัดบางพื้นที่ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือ ได้แก่ จังหวัดกว๋างนิญ (48%), จังหวัดกว๋างจิ (38%) และจังหวัดเหงะอาน (14%)

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11333202-vietnamese-seaports-handle-180-million-tonnes-of-goods-in-q1.html

 

ไทยส่งผลไม้ไปจีนโดยใช้รถไฟลาว

การรถไฟลาว-จีน ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อขนส่งผลไม้ไทยไปยังประเทศจีน ตามรายงานใน The Nation ของประเทศไทย ตู้คอนเทนเนอร์สองตู้บรรทุกทุเรียน 40 ตัน และอีกหนึ่งตู้บรรจุมะพร้าว 20 ตันจากระยอง เดินทางไปยังสถานีธนาเล้ง ในสปป.ลาวมีจุดหมายลายทางมุ่งหน้าสู่ประเทศจีน การขนส่งครั้งนี้ไม่ชาครั้งแรกก่อนหน้านี้ ในเดือนมกราคมไทยขนส่งข้าว 1,000 ตัน ไปยังจีนผ่านทางรถไฟลาว-จีนโดยสินค้ายังคงสภาพดีและตรงตามเวลา แถมประหยัดระยะเวลาและต้นทุนของภาคธุรกิจอีกด้วยซึ่งคาดว่าการรถไฟจะลดต้นทุนการขนส่งผ่านสปป.ลาวได้ร้อยละ 30-40 เมื่อเทียบกับการเดินทางทางถนน ส่งผลให้การค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thailand_61.php

ทางการกัมพูชาวางแผนอัพเกรดสนามบินพระตะบองเป็นประเภท 4C

รัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาสนามบินในเมืองพระตะบองปรับขึ้นเป็นประเภท 4C โดย Soy Sokhan เลขาธิการแห่งสำนักเลขาธิการการบินพลเรือน และ Sok Lou ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูและพัฒนาสนามบินพระตะบอง ซึ่ง Sokhan กล่าวว่าสนามบินจะได้รับการอัพเกรดจากประเภท 3C เป็น 4C เพื่อเพิ่มความสามารถในการดำเนินการให้สามารถรองรับเที่ยวบินขนาดใหญ่ได้ โดยคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาที่พระตะบองเพิ่มมากขึ้น ในด้านของรัฐบาลได้ประกาศงบประมาณในการปรับปรุงรวม 3.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้าง ขยาย และปรับปรุงสนามบินกัมพูชาทั้งหมดภายใต้โครงการพัฒนาการบินตั้งแต่ปี 2015-2023 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Open Sky นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการเร่งการขนส่งภายในประเทศและเชื่อมโยงกัมพูชากับศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501048230/battambang-airport-to-be-upgraded-into-4c-category/

กระทรวงเกษตรฯ กัมพูชา แนะเกษตรกรลงทะเบียนส่งออกลำไยไปจีน

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง เรียกร้องให้เกษตรกรและเจ้าของโรงงานแปรรูปภายในประเทศกัมพูชา ขึ้นทะเบียนตรวจสอบคุณภาพลำไยเพื่อการส่งออกไปยังประเทศจีน โดยกระทรวงเกษตรระบุว่าการเพาะปลูกลำไยของกัมพูชาในปัจจุบันมีพื้นที่อยู่รวม 13,608 เฮกตาร์ทั่วประเทศ ซึ่งหนึ่งตันสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยประมาณ 440 ดอลลาร์ ต่อรอบการเพาะปลูก โดยลำไยของกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีศักยภาพในการส่งออกไปยังจีน ซึ่งนายก ฮุน เซน กล่าวเสริมว่าตั้งแต่ต้นปีนี้การส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัมพูชา-จีน ที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้ว การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 11.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501048228/ministry-urges-farmers-to-register-for-china-longan-exports/

การส่งออกกลองพื้นบ้านเมียนมา ราคาจะแตกต่างตามการออกแบบ

นาย Ko Hein Htet ผู้ผลิตกลองพื้นบ้านในเมืองมัณฑะเลย์ เปิดเผยว่า ราคาของเครื่องดนตรีพื้นบ้านของเมียนมาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการออกแบบและความมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างของเครื่องดนตรีแต่ละประเภท โดยราคากลองอยู่ในช่วง 600,000 ถึง 1,000,000 จัต ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทย และบรูไน เนื่องจากนักดนตรีเมียนมาที่ทำงานในต่างประเทศได้สั่งซื้อเข้ามา ส่วนใหญ่ผู้ผลิตมักจะใช้ไม้ยางพาราเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาไม้ยางพาราจะอยู่ที่ 3,000,000 ถึง 4,500,000 ต่อตัน กลองที่ทำจากไม้ยางพารามีคุณภาพสูงมากกว่ากลองที่ทำจากไม้พฤกษ์ (Albizia lebbek) นอกจากนี้ราคาของหนังสัตว์ที่ใช้ทำกลองยังขึ้นอยู่กับตลาดจีนอีกด้วย เพราะหนังกลองส่วนใหญ่รับซื้อมาจากโรงฆ่าสัตว์ในตลาดจีน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/e-paper/

หอการค้า จี้รัฐเปิดด่านชายแดน 3 จังหวัดอีสาน เชื่อมการค้า-ท่องเที่ยว ‘ลาว-เขมร’ ตั้งเป้าดันมูลค่าการค้าปีนี้แตะ 3 หมื่นล.

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ประชุมร่วมกับหอการค้าอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร ว่า ในปี 2564 ไทยมีมูลค่าการค้าชายแดนบริเวณด่านศุลกากรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี กว่า 2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าปี 2565 จะโตเพิ่มขึ้น 30-40% หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์การเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนสินค้านำเข้า คือ มันสำปะหลัง และผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ โดยที่ประชุมเสนอให้เร่งเปิดจุดผ่านแดนถาวร ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่ติดกับกัมพูชา, เปิดจุดผ่อนปรนการค้า บ.ยักษ์คุ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ที่ติดกับ สปป. ลาว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขยายตัวของการค้าในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สอดคล้องกับนโยบาย Trade and Travel ของหอการค้าไทย

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6967429

ญี่ปุ่นทุ่มเงินกว่า 2 แสนล้านกีบ เพื่อสนับสนุนด้านวิศวกรรมศาสตร์ใน สปป.ลาว

ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศสปป.ลาวได้มีการลงนามในข้อตกลงระหว่างผู้แทนสำนักงานองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และและอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการวางแผนและการลงทุน ในการให้เงินสนับสนุนจำนวน 2,105 ล้านเยน (ประมาณ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 200,000 ล้านกีบ) เพื่อเป็นทุนในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องปฏิบัติการด้านวิศกรรม และพัฒนาการผลิตวิศวกรที่มีคุณภาพ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสปป.ลาว โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ลงนามจนถึงเดือนธันวาคม 2569 ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถผลิตวิศวกรที่ตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมของประเทศสปป.ลาว ได้

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_provides_60.php

‘วิกฤติขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน’ ทุบสายการบินเวียดนาม

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) รายงานว่าการโจมตีของรัสเซียในยูเครน ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบิน เวลาเดือนทางและราคาตั๋วของสายการบินเวียดนาม ผลกระทบดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเส้นทางการบินหลายเส้นทางของเวียดนามแอร์ไลน์และสายการบินแบมบูแอร์เวย์ส มีจุดแวะพักเพื่อเปลี่ยนเครื่องอยู่ในประเทศรัสเซีย อีกทั้ง รัสเซียประกาศห้ามสายการบินต่างๆ จาก 36 ประเทศใช้น่านฟ้าของรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ได้คว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้สายการบินเวียดนามต้องค้นหาเส้นทางการบินใหม่ ทั้งนี้ เที่ยวบินเวียดนาม-ยุโรป ได้รับการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงน่านฟ้าของรัสเซีย ไม่ว่าจะผ่านจีน คาซัคสถาน หรือแอฟริกาเหนือ โดยจะใช้เวลาบินนานกว่า 1-2 ชั่วโมง ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 10,600-21,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเที่ยวบิน

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20220327/russia-ukraine-conflict-hurts-vietnamese-airlines-aviation-authority/66360.html