TOYOTA พร้อมดำเนินการผลิตชุดสายไฟรถยนต์ในปอยเปตกัมพูชา

Chea Vuthy รองเลขาธิการ สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) กล่าวในแถลงการณ์ว่าปัจจุบัน Toyota Tsusho Corporation (Toyota Tsusho) วางแผนที่จะเริ่มผลิตชุดสายไฟสำหรับรถยนต์ในกัมพูชา ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปต โดยได้กำหนดไว้ในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ สำหรับ บริษัท Toyota Tsusho Corporation ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวและตลาดหลักทรัพย์นาโกย่า ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างมูลค่าประมาณ 36.7 ล้านดอลลาร์ โดยมีแผนที่จะรับสมัครพนักงานทั้งในและต่างประเทศประมาณกว่า 800 คน เพื่อทำงานในโครงการดังกล่าว ด้าน Aun Pornmoniroth รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจและการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้อุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์เป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก รวมถึงส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501339087/toyota-to-produce-auto-wire-harness-in-poipet/

ในช่วงครึ่งแรกของปีจำนวนโรงงานในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) รายงานสถานการณ์การจัดตั้งโรงงานใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แม้ว่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมจะลดลงเนื่องจากความต้องการที่ชะลอตัวจากตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,995 แห่ง ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ สร้างการจ้างงานใหม่เกือบ 1 ล้านตำแหน่ง ซึ่งในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการจดทะเบียนจัดตั้งโรงงานใหม่ที่ 1,974 แห่ง สำหรับการส่งออกของกัมพูชาลดลงเล็กกน้อยร้อยละ 2.1 หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 11,489 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นับเป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มอยู่ที่ 3,654 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 19 การส่งออกรองเท้ามูลค่า 702 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 17.2 สินค้าเดินทางที่มูลค่า 999 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 17.1 การส่งออกจักรยานคิดเป็น 332 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 30.5 อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.3 เท่าหรือคิดเป็นมูลค่ารวมกกว่า 1,440 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501338601/number-of-factories-in-kingdom-rises-in-h1/

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรในช่วง 7 เดือน แตะ 2.6 พันล้านดอลลาร์

ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรไปยัง 68 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นการส่งออกข้าวสารที่มูลค่า 504 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งหากนับเป็นปริมาณตันรวมทั้งสิ้น 4.5 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 19.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งออกเป็นข้าวสาร 3.63 แสนตัน, ข้าวเปลือก 1.51 ล้านตัน และสินค้าการเกษตรอื่นๆ 2.64 ล้านตัน แม้ว่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดต่างประเทศจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ยังคงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอนาคต เนื่องจากการที่ประเทศอินเดียประกาศลดโควต้าการส่งออกข้าวเพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารในประเทศ ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เป็นผลทำให้ปริมาณสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวในตลาดโลกอาจจะเกิดความต้องการเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณข้าวที่อาจน้อยลง ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้กัมพูชาต้องเร่งศึกษากลยุทธ์ในการตักตวงโอกาสดังกล่าวที่จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ โดยการเพิ่มขีดความสามารถของโรงสีในท้องถิ่นในการจัดเก็บสต๊อก และเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปเพื่อการส่งออก เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501339005/cambodias-agricultural-exports-reach-more-than-2-6-billion-in-seven-months/

SME Bank ปล่อยกู้ 54 ล้านดอลลาร์ แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวกัมพูชา

ธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งกัมพูชา (SME Bank) ปล่อยเงินกู้รวม 54 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ให้แก่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชา ผ่านโครงการความร่วมมือทางการเงินเพื่อการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว โดยจำนวนเงินกู้ที่เบิกจ่ายคิดเป็นร้อยละ 36 ของเป้าหมายในการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจที่กำหนดไว้ที่ 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวคิดเป็นการสนับสนุนจากรัฐบาลมูลค่ารวม 75 ล้านดอลลาร์ ร่วมกับเงินสมทบของสถาบันการเงินอีก 75 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันมีบริษัท/องค์กรกว่า 349 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการในการฟื้นฟูธุรกิจหลังนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวยังกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งภายใต้โครงการดังกล่าวให้สินเชื่อสูงสุด 400,000 ดอลลาร์ต่อราย ที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 6.5 ต่อปี และมีระยะเวลาเงินกู้สูงสุด 7 ปี สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักของเศรษฐกิจกัมพูชา โดยในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดกัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 6.6 ล้านคนในช่วงปี 2019 สร้างรายได้รวมกว่า 4.9 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501337906/sme-bank-disburses-54m-loans-to-tourism-related-biz/

มิ.ย. เบี้ยประกันภัยรับในกัมพูชาพุ่งแตะ 28.7 ล้านดอลลาร์

ภาคธุรกิจประกันภัยในกัมพูชารายงานสถานการณ์เบี้ยประกันภัยรับภายในประเทศมีมูลค่าแตะ 28.7 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจุบันมีบริษัทประกันทั่วไป 18 แห่ง, บริษัทประกันชีวิต 14 แห่ง, บริษัทประกันรายย่อย 7 แห่ง, บริษัทรับประกันภัยต่อ 1 แห่ง, นายหน้าประกันภัย 20 แห่ง และบริษัทตัวแทนนายหน้าประกัน 34 แห่ง รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ดำเนินการอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งเบี้ยประกันขั้นต้นของตลาดประกันทั่วไปในเดือนมิถุนายนปีนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24.2 คิดเป็นมูลค่ารวม 11 ล้านดอลลาร์ จาก 8.9 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายนปีก่อน สำหรับเบี้ยประกันชีวิตมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 17 ล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.1 ขณะที่เบี้ยประกันรายย่อยที่ 562,487 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ด้านมูลค่าเงินค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายโดยบริษัทประกันในช่วงเวลาดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันร้อยละ 88 หรือคิดเป็นมูลค่า 3.3 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่า 1.7 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501338092/insurance-sector-logs-28-7m-premium-in-june/

ยอดขายตั๋วเช้าชมนครวัดอังกอร์ขยายตัวกว่า 500%

กัมพูชาทำรายได้เข้าประเทศมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์ จากการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 430,000 คน ซึ่งซื้อตั๋วเข้าชมนครวัดอังกอร์ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 500% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในการเติบดังกล่าวนับเป็นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกว่า 2.6 ล้านคน ที่เดินทางมาเยือนยังนครวัด ในเสียมราฐ คิดเป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 2,203,696 คน และชาวต่างชาติ 439,365 คน รายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ขณะที่ในช่วงครึ่งแรกของปี กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่า 2.57 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน สปป.ลาว สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เป็นสำคัญ ขณะที่การคาดการณ์ล่าสุดในปีนี้ กัมพูชาคาดว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่า 5 ล้านคน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 120% เมื่อเทียบกับปี 2022

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501337271/over-500-increase-in-angkor-ticket-sales/

กัมพูชาหารือร่วมกับสหรัฐฯ หวังต่ออายุสิทธิพิเศษ GSP

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาและสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาหารือร่วมกัน นำโดย Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือทางการค้าในแง่มุมต่างๆ รวมถึงข้อตกลงทางการค้าใหม่ๆ และการต่ออายุระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) โดยปัจจุบันด้วยยุทธศาสตร์ชาติของกัมพูชา ประกอบกับฐานการผลิตในประเทศที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต่างเข้ามาแสวงหาโอกาสสำหรับทั้งการค้าและการลงทุน ซึ่งการต่ออายุระบบสิทธิพิเศษดังกล่าว มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ จากความได้เปรียบทางภาษีศุลกากรสำหรับผู้ส่งออกกัมพูชา ที่มีส่วนในการสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของกัมพูชาเป็นอย่างมาก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501337672/renewal-of-generalised-system-of-preferences-gsp-discussed-in-cambodia-u-s-trade-talks/

คนกัมพูชาหันมาใช้ e-Wallet แตะ 20.2 ล้านบัญชี ณ เดือน มิ.ย.

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ระบุว่า กัมพูชามีการชำระเงินผ่านมือถือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนจำนวนมากหันมาใช้ตัวเลือกการทำธุรกรรมทางการเงิน จากเงินสดเป็นเงินดิจิทัล โดยปัจุบันจำนวนบัญชี e-wallet ที่ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 20.2 ล้าน ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ ซึ่งจำนวนธุรกรรมทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 333.7 ล้านรายการ ภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จาก 211.2 ล้านรายการในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 58.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 98.3 โดยระบบการชำระเงินของกัมพูชาได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยโดยผสมผสานชุดเทคโนโลยีใหม่ที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินค้าและบริการได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบริษัท องค์กร และผู้บริโภค ซึ่งพึ่งพาการซื้อสินค้าออนไลน์และการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นในยุคปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501336216/cambodia-sees-significant-increase-in-digital-payments-with-e-wallets-exceeding-20-2-million/

ครึ่งแรกของปี กัมพูชาส่งออกอุปกรณ์ไฟฟ้าแตะ 1.4 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกอุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มูลค่ารวมกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 1.3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ต่างกันกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม รวมถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มปรับตัวลดลงในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ต่างประเทศลดลง ด้าน Heng Sokkung เลขาธิการแห่งรัฐของกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม กล่าวเสริมว่า การส่งออกสำหรับสินค้าที่ไม่อยู่ในกลุ่มเครื่องนุ่งห่มขยายตัวอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แซงหน้าการเติบโตของการส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชา โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตอย่างมากจนกลายเป็นภาคส่วนสำคัญที่สร้างรายได้จากการส่งออกและการจ้างงานจำนวนมาก รวมถึงเป็นองค์ประกอบสนับสนุนที่สำคัญในกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การศึกษา และการเงิน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501335905/cambodias-electrical-exports-rise-to-1-4-billion-in-1h/

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี นักท่องเที่ยวเดินทางมายังอังกอร์กว่า 2.64 ล้านคน

Seng Sotheara ผู้อำนวยการ สำนักงานอัปสรา (APSARA National Authority) หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวกัมพูชา รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่มาเยือนยังนครวัดในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีมากกว่า 2.64 ล้านคน สร้างเงินเข้าประเทศจากการขายบัตรเข้าชมสถานที่กว่า 2.44 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนดังกล่าวนับเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 439,365 คน ขณะที่ทางการกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยในเดือนตุลาคมที่กำลังจะมาถึงรัฐบาลกัมพูชาพร้อมเปิดสนามบินนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501335116/more-than-2-64-million-tourists-visited-angkor-in-the-first-seven-months-of-2023/