กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรโต 46% ในช่วง 9 เดือน

กัมพูชาส่งสินค้าเกษตรปริมาณกว่า 3,894,485 ตัน ในจำนวนนี้ไม่รวมข้าวสารและข้าวเปลือก ที่ได้ทำการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ แม้จะเกิดวิกฤตโควิด-19 ทั่วโลก คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 46.47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 รายงานโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ซึ่งสินค้าเกษตรสำคัญที่ทำการส่งออก ได้แก่ มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด กล้วย ส้มโอ มะม่วง พริกไทย พริก และอื่นๆ โดยสรุปรายงานดังกล่าว ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเกือบ 100 ชนิด ยกเว้นข้าวสารและข้าวเปลือก ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก สร้างรายได้ประมาณ 2,710 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50945748/agricultural-exports-up-46-percent-in-first-nine-months/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-สหรัฐฯ เติบโตต่อเนื่อง

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทั้งสองประเทศจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ระบุว่า มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่ามากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรก เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้รัฐมนตรีฯ ยังได้กล่าวถึงสถานการ์การกระจายวัคซีนภายในประเทศกัมพูชา ต่อนักการทูตสหรัฐฯ เพื่อทราบความคืบหน้า และกล่าวขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้บริจาควัคซีน จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันกว่า 1 ล้านโดสให้กัมพูชาผ่านโครงการ COVAX Facility โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นที่จะดำเนินการช่วยเหลือกัมพูชาในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50946046/cambodia-u-s-bilateral-trade-grew-despite-covid-19-crisis-achieving-4billion-in-1st-seven-months/

คาดค้าชายแดนไทยปี 64 ฝ่าวิกฤตเติบโตกว่า 28%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 เติบโตสูง 38% ผลจากเศรษฐกิจในหลายประเทศมีสัญญาณพื้นตัวจากโควิด-19 โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนตอนใต้ คาดว่าการส่งออกชายแดนและผ่านแดนตลอดปี 2564 เติบกว่า 28% ทำสถิติใหม่ที่ราว 980,000 ล้านบาท และมีโอกาสขยายตัวถึง 33% แตะมูลค่าสูงถึง 1,020,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ตลาดจีนตอนใต้เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย แซงหน้ามาเลเซียได้เป็นครั้งแรก โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมจีน-สปป.ลาว ในเดือนธ.ค.64 ทำให้การขนส่งสินค้าไปยังมณฑลหยุนหนานมีความรวดเร็ว ประหยัดค่าขนส่ง และมีมูลค่าการส่งออกช่วยขับเคลื่อนการส่งออกไปจีนตอนใต้ให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก จากเดิมที่สินค้าส่วนใหญ่ไปกระจุกตัวที่เขตปกครองตนเองกว่างซีเป็นหลัก

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/664721

 

‘เวียดนาม’ เผยเที่ยวบินในประเทศจะกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.

เที่ยวบินภายในประเทศจะกลับมาให้เปิดบริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ภายใต้แผนพัฒนาระยะที่ 4 (เฟส 4) ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งบังคับใช้ในพื้นที่ที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยระยะแรกนั้น มีระยะเวลาดำเนินการ 10 วัน สายการบินจะกลับมาเปิดบริการ ด้วยจำนวนเที่ยวบินไม่เกินครึ่งหนึ่งในช่วง 10 วันแรกของเดือนเม.ย. ถือเป็นช่วงก่อนที่เกิดการระบาดระลอกที่ 4 และในระยะที่สองนั้น ไม่เกิน 10 วัน จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้น 70% ของจำนวนเที่ยวบินในเดือนเม.ย. ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างที่นั่ง และในระยะที่สาม จำนวนเที่ยวบินจะกลับมาสู่ระดับที่ 10 วันแรกของเดือนเม.ย. โดยไม่ต้องเว้นระยะห่างที่นั่ง และในระยะสุดท้าย เส้นทางการบินจะกลับมาดำเนินกิจกรรมตามปกติ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1052045/domestic-flights-resume-from-october-1.html

 

‘เวียดนาม’ คาดเศรษฐกิจปี 64 โต 2.1%

นาย Nguyen Xuan Thanh ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่าถึงแม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปรับตัวลดลงอย่างมากในไตรมาสสุดท้าย แต่เศรษฐกิจเวียดนามอาจขยายตัว 2.1% ในปีนี้ หากเวียดนามกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งและใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ คุณ  Vo Tan Thanh รองผู้อำนวยการของสำนักงาน VCCI ชี้ว่าการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจเวียดนาม อ้างมาจากตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ลดลง 6.17% ในขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่ 94% ทั่วประเทศประสบปัญหาจากการได้รับผลกระทบเชื้อไวรัส โดยเฉพาะธุรกิจในภาคใต้ที่ขาดทุนอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เวียดนามจำเป็นต้องเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและยกเลิกมาตรการเว้นระยะทางสังคม พร้อมกับการใช้นโยบายการเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-gdp-growth-predicted-at-2-1-this-year/

 

ณ วันที่ 17 ก.ย.64 เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่ไปแล้วมากกว่า 27,000 ตัน

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมถึง 17 กันยายนของปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่ (chick peas) ไปแล้วมากกว่า 27,160 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่งและการอ่อนค่าของเงินจัตในตลาดฟอเร็กซ์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 ราคาถั่วอยู่ที่ 90,000 จัตต่อถุง ในขณะที่ปัจจุบันพุ่งขึ้นเป็น 131,000 จัตต่อถุง เป็นผลมาจากผลผลิตที่ต่ำในปีนี้ และการส่งออกชะงักเนื่องจากการปิดด่านชายแดนของจีน ทั้งนี้เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่ไปยังอินเดีย ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี และตลาดอื่นๆ ในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่การเพาะปลูกจะอยู่ในเขตย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ พะโค ซากาย และอิรวดี และเนปิดอว์ คิดเป็น 890,000 เอเคอร์ของพื้นที่เพาะปลูกถั่วลูกไก่ทั่วประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-27000-tonnes-of-chickpea-to-external-market-as-of-17-sept/

รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนลุยหารือฟื้นเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนก.ย.2564 ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และรัสเซีย ผ่านการประชุมทางไกล เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และติดตามความคืบหน้าความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยการประชุมร่วมกับกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ได้เห็นชอบแผนงานด้านการค้าและการลงทุนร่วมกัน การหารือเกี่ยวกับการเตรียมการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรป โดยจะจัดประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในประเด็นการค้าใหม่ ๆ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และการค้าและพัฒนาที่ยั่งยืน และเห็นพ้องที่จัดประชุมระดับรัฐมนตรีและระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมถึงกิจกรรมความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนให้แน่นแฟ้นขึ้น

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/118394

นครโฮจิมินห์กลับมาเปิดประกอบการค้าปลีกใน ‘โซนสีเขียว’

เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการและผู้ค้าปลีกในเมืองโฮจิมินห์ เตรียมเปิดกิจการอีกครั้งในพื้นที่ “โซนสีเขียว” ทันทีหลังจากมาตรการเว้นระยะทางสังคม หลายๆพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ของประเทศสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ เช่น กู๋จี, เกิ่นหย่อ, ฟูญวนและท๋าบิ่ญ เป็นต้น ในเมืองถูดึ๊ก (Thu Duc) ทั้งนี้ คุณเหงวียน ถิ กีม เงิน (Nguyen Thi Kim Ngoc) รองผู้อำนวยการเมืองอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าทางสำนักงานได้ประสานงานกับผู้ประกอบการ ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าจัดสรรสินค้าจำเป็นพร้อมแล้วและยังส่งเสริมการขายแก่ผลผลิตทางการเกษตร อีกทั้งได้ร้องขอให้เขตต่างๆ และเมืองถูดึ๊ก วางแผนที่จะเปิดตลาดอีกครั้ง ในขณะที่ยังควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hcm-city-resumes-retail-activities-in-green-zones/208885.vnp

 

‘เวียดนาม’ เผยการเติบโตทางเศรษฐกิจดิ่งลง เหตุโควิด-19 ระบาดหนัก

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)  ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 1.42% เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการเว้นระยะทางสังคม โดยเฉพาะอัตราการขยายตัวของจีดีพีในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ คาดว่าจะลดลง 6.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรก การผลิตของภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 4.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่เงินลงทุนไหลเข้ารวมจากต่างประเทศ มีมูลค่าราว 22.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ เวียดนามมีมูลค่าการส่งออก-นำเข้า ประมาณ 53.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 69.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnams-gdp-growth-sees-sharp-decrease-in-first-nine-months-of-2021-due-to-pandemic-36326.html

 

เมียนมางดนำเข้ารถยนต์ หวังลดการใช้สกุลเงินต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาประกาศระงับการนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศเพื่อลดการใช้เงินตราต่างประเทศ โดยจะระงับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 ผลพวงของการระบาดของ COVID-19 ทำให้ธุรกิจล่าช้า หวังลดการใช้เงินตราต่างประเทศอันเนื่องมาจากการส่งออกที่ลดลงของประเทศ ทั้งนี้การนำเข้าและการออกใบอนุญาตนำเข้ารายบุคคลต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้าราชการ ตำรวจ และทหารที่มีความประพฤติที่ดีหรือได้รับเหรียญตราของหน่วยงานเท่านั้น

ที่มา: https://news-eleven.com/article/216866