แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจลาวอยู่ในระดับสูง แต่การจ้างงานต่ำ

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยรายงานข้อมูลอัปเดตเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาว ในช่วงปี 2543-2561 ขยายตัวเฉลี่ย 7.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และการเติบโตทางการค้าเฉลี่ย 17% ต่อปี แต่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากการค้าและการลงทุนในด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการขุดเจาะและพลังงาน ทั้งนี้ ตามรายงาน Lao Economic Monitor for October 2022: Tackling Macroeconomic Vulnerabilities พบว่าการจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวลดลงจากปี 2555-2561 โดยส่วนใหญ่ได้รับงานจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การจ้างงานนอกภาคเกษตรยังไม่สามารถรองรับกับจำนวนแรงงานเกินที่อยู่ในภาคเกษตรได้ ส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 4.1% ในปี 2555 มาอยู่ที่ 15.7% ในปี 2561 อีกทั้ง ปัญหาความยากจนส่งสัญญาลดลง แต่ยังคงช้ากว่าประเทศอื่น และในอีก 10 ปีข้างหน้า สปป.ลาวจะต้องสร้างงานกว่า 60,000 ตำแหน่งต่อปี เพื่อรองรับกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Despite03.php

สมัชชาแห่งชาติ (NA) ตั้งเป้าเศรษฐกิจ สปป.ลาว โต 4.5% ปีนี้

สมัชชาแห่งชาติ (NA) ตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อยร้อยละ 4.5 ในปี 2023 ตามที่รัฐบาล สปป.ลาว เสนอ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก โดยภาคการเกษตรคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 2.5 คิดเป็นร้อยละ 17.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตที่ร้อยละ 5 คิดเป็นร้อยละ 34.2 ของ GDP ภาคบริการคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.7 คิดเป็นร้อยละ 37.5 ของ GDP ในขณะที่การจัดเก็บภาษีคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.3 คิดเป็นร้อยละ 11.1 ของ GDP ซึ่งมูลค่าของ GDP คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 234,160 พันล้านกีบภายในสิ้นปีนี้ โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 1,625 ดอลลาร์ และรายได้มวลรวมประชาชาติ (GNI) ต่อหัวอยู่ที่ 1,534 ดอลลาร์ ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2022 อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดกว่าที่ร้อยละ 38.46 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36.75 ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ปริมาณเงินในความหมายอย่างกว้าง (M2) หรือเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten02_Na_23y.php

‘ทองลุน สีสุลิด’ ประธานประเทศลาว ให้แรงบันดาลใจคนทั้งประเทศ ฟันฝ่าความท้าทาย

นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว กล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ และกระตุ้นให้ประชาชนทั้งประเทศรวมพลังและสามัคคีกัน เพื่อให้สปป.ลาวก้าวข้ามอุปสรรคหรือความท้าทายในปี 2566 และยังได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของลาวในปี 2565 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำก็ตาม โดยทั้งปี 2565 สปป.ลาวเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงสถานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่เผชิญกับความรุนแรง แต่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทั้งพรรค รัฐบาลและสังคม ตลอดจนความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทำให้สปป.ลาว สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านั้นได้ในระดับหนึ่ง และป้องกันไม่ให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้ได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten01_President_y23.php

CNN เผย สปป.ลาวเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดของการท่องเที่ยวในปี 2566

สำนักข่าว CNN เผย สปป.ลาว ติด 1 ใน 23 ประเทศที่สมควรไปเยือนในปี 2566 ซึ่งการเปิดให้บริการของรถไฟกึ่งความเร็วสูงในปี 2565 ทำให้การเดินทางทั่วประเทศง่ายขึ้นและประหยัดเวลาในการเดินทางหลายชั่วโมงจากที่เคยใช้เวลาเกือบเต็มวันในการเดินทาง นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวสามารถที่จะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย เช่น ยอดเขาสูงตระหง่านของวังเวียง หรือหลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกเต็มที่ไปด้วยมรดกจากอาณานิคมของฝรั่งเศส พิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่น่าสนใจ และความงามตามธรรมชาติ ทั้งนี้สื่อชั้นนำระดับโลกอย่าง Wanderlust และ Fodor’s ยังได้บรรจุสปป.ลาว เป็นหนึ่งในลิสต์รายชื่อเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของปี 2566

ที่มา: https://laotiantimes.com/2023/01/03/laos-is-one-of-cnns-best-destinations-to-visit-in-2023/

สปป.ลาว มุ่งผลักดันเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2568

จากรายงานของเวียงจันทน์ไทมส์ เผย รัฐบาลสปป.ลาว ยืนยันว่าจะได้รับเงินทุนจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศในการสนับสนุนโครงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศ ซึ่ง นายบุญคำ วรชิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของสปป.ลาว  เปิดเผยว่า สปป.ลาว คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจำนวน 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้นี้  ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แห่งสปป.ลาวกำหนดนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2568

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/19/laos-commits-to-zero-greenhouse-gas-emissions-by-2025/

ADB ปรับลดการเติบโต GDP ของกลุ่มประเทศอาเซียนลง

เดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เผยข้อมูล GDP ของประเทศในอาเซียนจะเติบโต 4.3% แต่ล่าสุดปรับลดลงเหลือ 4.2% นอกจากนี้ยังลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566 จาก 4.9% ลดลงเหลือ 4.6% เนื่องจากการล็อกดาวน์เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีนและภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อออกไป ทั้งนี้ ADB ยังได้ประเมินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในสปป.ลาวจะอยู่ที่ประมาณ 23% ในปี 2565 และจะลดลงเหลือ 10% ในปี 2566

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/16/adb-lowers-gdp-growth-for-asia-in-latest-forecast/

ปี 65 คาด นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือน สปป.ลาว ทะลุเกิน 1 ล้านคน

จากข้อมูลของฝ่ายการตลาดการท่องเที่ยว กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ 644,756 คนเดินทางเยือนสปป.ลาวตลอดเดือนกันยายน 65  และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 300,000 คนภายในปีนี้ นักท่องเที่ยวเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย (364,515 คน) ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยตื่นเต้นและนิยมที่จะได้เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงสปป.ลาว-จีน และท่องเที่ยวสถานที่ยอดนิยม เช่น หลวงพระบางและวังเวียง แม้ว่าชายแดนจีนจะยังคงปิดอยู่ แต่จีนก็รั้งอันดับ 2 โดยมีนักท่องเที่ยวจีน 18,902 คน ที่เข้ามาเที่ยวสปป.ลาว โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ พุ่งถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สหรัฐตลอดเดือนกันยายน 2565 และเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/12/overseas-visitors-to-laos-could-exceed-one-million-in-2022/

การขนส่งทางรถไฟ ดันส่งออกกล้วย สปป.ลาว ไปยังจีน

คาดเกษตรกรใช้เส้นทางรถไฟ สปป.ลาว-จีน ขนส่งกล้วยจาก สปป.ลาวไปยังจีน ซึ่งจะใช้เวลาอันสั้นเพื่อให้มั่นใจว่าผลไม้จะถึงปลายทางก่อนที่ผลผลิตจะสุกงอม โดยในอดีตการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรประสบปัญหาเนื่องจากใช้เวลานาน จากการขนส่งโดยรถบรรทุกไปยังประเทศจีน ซึ่งสินค้าจำนวนมากเน่าเสียก่อนส่งมอบ โดยการเข้ามาของเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการภายในประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการขนส่งที่ลดลง ซึ่งปัจจุบันกระทรวงเกษตรและป่าไม้กำลังเร่งสนับสนุนการเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตรให้มากขึ้นเพื่อลดความต้องการนำเข้าผักและผลไม้จากต่างประเทศ รวมถึงเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง โดยเกษตรกรชาวลาวสามารถขายพืชผลทางการเกษตรให้กับจีนได้มากขึ้น นับตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองในปี 2012

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Railway238.php

รัฐบาล สปป.ลาว ลงนามข้อตกลงฟาร์มกังหันลมในเขตเซกองและอัตตะปือ

รัฐบาล สปป.ลาว ไฟเขียวให้ บริษัท Monsoon Wind Power Company Limited ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ขนาด 600MW ในอำเภอดังจึง จังหวัดเซกอง และอำเภอซานไซ ในแขวงอัตตะปือ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,000 เฮกตาร์ใน 25 หมู่บ้าน ด้วยเงินลงทุนรวม 930 ล้านดอลลาร์ ในโครงการดังกล่าว และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 โดยมีการลงนามในสัญญาสัมปทานระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง และตัวแทนจาก Monsoon Wind Power Company Limited ซึ่งได้ร่วมวางแผนและกำหนดกรอบในการดำเนินระหว่างกัน โดยฟาร์มกังหันลมถือเป็นโครงการพลังงานลมแห่งแรกใน สปป.ลาว และคาดว่าจะใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งกระแสไฟทั้งหมดจะขายให้กับเวียดนาม ระยะเวลาสัมปทานดำเนินการ 25 ปี นับจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten237_govtinks.php

เงินเฟ้อ สปป.ลาว เดือนพ.ย.65 พุ่ง 38.46%

สำนักงานสถิติแห่งสปป.ลาว เผย อัตราเงินเฟ้อของสปป.ลาว เดือนพฤศจิกายน 2565 พุ่งขึ้นเป็น 36.75%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และเพิ่มจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 36.75% ส่งผลให้ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น จากสถานการณ์ดังกล่าวพบว่า ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 55.4% เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อราคาของใช้จำเป็นอื่นๆ เพิ่มขึ้นไปด้วย ส่วนค่าเงินกีบอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ อย่าง ดอลลาร์สหรัฐฯ, เงินบาทไทย และเงินหยวนของจีน เป็นต้น ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ และเลขาธิการพรรคประชาชนปฏิวัติสปป.ลาว ได้ให้คำมั่นว่าจะเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/05/laos-inflation-rate-shoots-up-to-38-46-percent-in-november/