ปีงบฯ 64 ค้าชายแดนเมียนมา – อินเดีย พุ่ง 84 ล้านดอลลาร์ ฯ

จากรายงานขอวงกระทรวงพาณิชย์ การค้าชายแดนระหว่างเมียนมาและอินเดียแตะ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 16 เมษายนในปีงบประมาณปัจจุบัน (63-64) ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายนนี้ โดยเพิ่มขึ้น 84.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แบ่งเป็นการส่งออก 160.086 ล้านดอลลาร์สหรัฐและการนำเข้า 0.811 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้าชายแดนส่วนใหญ่จะผ่านด่านทามู ด่านรีด และด่านถลาง สินค้าส่งออกประกอบด้วย ถั่วเขียว ถั่วลันเตา ขิง หญ้าฝรั่น ขมิ้น ใบกระวาน สินค้าประมง ผลไม้ และผัก ส่วนการนำเข้าจะเป็น ยา ออยล์เค๊ก เครื่องใช้ไฟฟ้ารถจักรยานยนต์ เหล็ก และเครื่องจักรก่อสร้างอื่น ๆ และวัสดุก่อสร้าง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-india-border-trade-up-by-84-mln-this-fy/#article-title

ญี่ปุ่นไฟเขียวร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนการค้า RCEP ร่วมกับจีนและอาเซียน

รัฐสภาญี่ปุ่นได้อนุมัติในวันนี้ให้ญี่ปุ่นมีส่วนร่วมในข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยข้อตกลงดังกล่าวลงนามโดย 15 ประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกซึ่งรวมถึงจีน และ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน ข้อตกลง RCEP จะช่วยสร้างเขตการค้าเสรีที่มีสัดส่วนสูงถึงราว 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), การค้าและประชากรของโลก โดยนับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมในข้อตกลงการค้าที่เกี่ยวข้องกับจีนและเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ข้อตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้หลังการให้สัตยาบันของ 6 ชาติสมาชิกอาเซียน และอีก 3 ประเทศ โดยในวันนี้ (28 เม.ย.) ข้อตกลง RCEP จะช่วยให้ประเทศที่ลงนามไม่ต้องเสียภาษีสำหรับรายการสินค้า 91% จากทั้งหมด และยังออกกฎระเบียบที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับการลงทุนและทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อส่งเสริมการค้าเสรี

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq29/3218572

เวียดนามเผยดัชนีราคาผู้บริโภค เม.ย. ลดลง 0.04%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนเมษายน ลดลง 0.04% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 1.27% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สาเหตุส่วนใหญ่ที่ดัชนีดังกล่าวปรับตัวลดลง เนื่องมาจากปริมาณสินค้าที่ล้นตลาดและความต้องการบริโภคไฟฟ้าและน้ำอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ดัชนี CPI เดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ ดัชนี CPI  เฉลี่ยในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 0.89% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559

ที่มา :https://english.vov.vn/en/economy/cpi-in-april-records-decline-of-004-853791.vov

เวียดนามเกินดุลการค้า 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

กระทรวงวางแผนและการลงทุน และสำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ เปิดเผยว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามเกินดุลการค้า 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาคการลงทุนจากต่างประเทศ เกินดุลการค้า 14.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ธุรกิจในประเทศ ขาดดุลการค้า 12.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน 17 ภาคอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปดึงดูดเม็ดเงินทุนจากต่างชาติมากที่สุด ด้วยมูลค่า 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลักและค้าส่ง ตามลำดับ ขณะเดียวกัน หัวเมืองของเวียดนามที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด คือ เมืองลองอัน (Long an) มูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเกิ่นเทอและโฮจิมินห์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่ากระทรวงจะดำเนินงานตามกลไกต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแก่นักลงทุนต่างชาติ และกำหนดการให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีขั้นสูง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-racks-up-nearly-19-billion-usd-in-trade-surplus-in-four-months/200766.vnp

เกษตรกรเมืองซะไกง์ โอด ราคาแตงโม ดิ่งฮวบ

นาย U Wai Myint ผู้ปลูกแตงโมและรองประธานสมาคมผู้ส่งออกในเขตซะไกง์ เผย เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมและเมล่อนผิดหวังกับราคาที่ลดลง ปัญหาเกิดจากผลผลิตเกินความต้องการเพราะขายแตงโมต่อวันได้เพี่ยง 100 หรือ 200 ลูก แต่มีการประมาณขนส่งประมาณ 1,000 ลูกต่อวัน ดังนั้นรถบรรทุกจึงต้องจอดรอคิวที่ด่านชายแดนมูเซ (Muse 7 Mile และ 5 Mile) ทำให้ผลผลิตไม่สดใหม่และเน่าเสีย ซึ่งปีที่แล้วผลผลิตแตงโมและเมล่อนจากเขตซะไกง์เสียหายประมาณ 90% ดังนั้นปีนี้จึงลดลงอย่างมากเทียบกับปีที่แล้ว ด้านพื้นที่เพาะปลูกเขตซะไกง์ เติบโตขึ้นทุกปี พื้นที่แตงโมประมาณ 20,000 เอเคอร์และเมล่อน 40,000 เอเคอร์ ส่วนแหล่งเพาะปลูกสำคัญอยู่ในเมืองช่องอู้ (Chaung-U) เขตซะไกง์

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/growers-in-sagaing-frustrated-over-lower-prices-of-melons/

Taskforce สั่งให้ดำเนินการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิดที่ทวีความรุนแรงขึ้น

หน่วยงานแห่งชาติด้านการป้องกันและควบคุมโควิด -19 ได้แจ้งให้หน่วยงานในเต่ละแขวงเร่งดำเนินการเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เวียงจันทน์และกว่า17 แขวงทั่วประเทศได้กำหนดให้มีการปิดล็อกและมาตรการรับมือกับสถานการณ์การแพรระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายขึ้น จากตัวเลขผู้ติดเชื่อสะสมที่672 ราย ณ วันที่ 29 เมษายน โดยเพิ่มขึ้นล่าสุดที่วันละ 68 ราย ซึ่งถือเป็นการระบาดระลอกที่รุนแรงที่สุดของสปป.ลาว เป็นเรื่องน่ากังวลหากรัฐบาลสปป.ลาวไม่สามารถควบคุมจะทำให้สปป.ลาวเข้าสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขจองประเทศ จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานแห่งชาติด้านการป้องกันและควบคุมโควิด -19 เน้นย้ำถึงมาตรกรป้องที่เข้มกับหน่วยงานทั่วประเทศและขอความร่วมมือทุกส่วนในการสนับสนุนกันและกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Taskforce82.php

ADB ปรับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาหลังล็อกดาวน์

หลังจากที่ทางการกัมพูชาได้ทำการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่เขตที่มีการระบาดของโควิด-19 เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ทำให้การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดภายในกัมพูชาจำเป็นต้องทำการประเมินใหม่อีกครั้ง โดย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มองว่าการฟื้นตัวในปีนี้และปีหน้าจะอยู่ที่ในกรอบร้อยละ 4 และร้อยละ 5.5 ตามลำดับ ซึ่งในปี 2020 เศรษฐกิจของกัมพูชาหดตัวร้อยละ 3.1 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยในปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาจะกลับมาเติบโตในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50847837/lockdown-length-could-alter-growth-predictions-adb/

EXIM แบงก์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไทย ในกัมพูชาและเมียนมา

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM bank) ออกมาตรการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ทำธุรกิจในกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) เพื่อลดผลกระทบทางการเงินจากการระบาดของโควิด-19 และความไม่สงบทางการเมืองในเมียนมา ผ่านมาตรการช่วยเหลือด้านเงินกู้ซอฟท์โลนและกำหนดให้หยุดชำระคืนเงินต้นชั่วคราวเป็นระยะเวลา 12 เดือน ส่วนมาตรการเสนอวงเงินกู้ใหม่สำหรับผู้ประกอบการใน CLMV เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยคิดเป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 638,000 ดอลลาร์ต่อปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน 3 ปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50847917/thai-bank-aids-smes-in-kingdom-over-myanmar/

เวียดนามเผย 4 เดือนแรกของปีนี้ ดึงดูด FDI กว่า 12.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) เผยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) 12.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามสถิติชี้ให้เห็นว่าเงินทุนจดทะเบียนใหม่และการปรับเพิ่มเงินทุน รวมถึงเม็ดเงินซื้อหุ้นกิจการ มีมูลค่าสูงถึง 12.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 20 เมษายน ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ การลงทุนจากต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยมูลค่า 10.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ด้วยสัดส่วน 42.4% ของยอดลงทุนรวม รองลงมาการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์และภาคการค้าปลีกค้าส่ง ตามลำดับ ในขณะที่ สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ด้วยมูลค่า 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ตามลำดับ

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietnam-lures-us1225-billion-in-foreign-investment-over-four-month-period-853531.vov

ADB เศรษฐกิจเวียดนามโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตเร็วที่สุดในบรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปีนี้ คาดว่าขยายตัว 6.7% ได้รับแรงหนุนมาจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตและการค้า ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เปิดเผยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ คาดขยายตัว 4.4% ในขณะที่เศรษฐกิจเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ 7% ในปีหน้า ซึ่งขยายตัวสูงที่สุดในภูมิภาค ด้วยเฉลี่ยประมาณ 5.1% ทั้งนี้ การบริโภคในประเทศที่ซบเซาและอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอ ล้วนเกิดมาจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวในปีที่แล้ว แต่ทิศทางเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่งในปีนี้ เนื่องจากการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน จะช่วยให้เวียดนามมีโอกาสที่จะขยายการค้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/data-speaks/vietnam-to-lead-southeast-asia-in-growth-adb-4269618.html