“อียู” ประกาศผ่อนปรนกฎระเบียบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากเวียดนาม

การแก้ไขกฎระเบียบฉบับที่ 2019/1973 ที่แผยแพร่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เกี่ยวกับมาตรการฉุกเฉินในการควบคุมการส่งออกอาหารไปยังสหภาพยุโรป ด้วยเหตุนี้ สหภาพยุโรปจึงย้ายข้อกำหนดของสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเวียดนามจากภาคผนวก 2 ซึ่งต้องมีใบรับรองสุขอนามัย (HC) และการควบคุมในอัตรา 20% ที่ประตูชายแดนไปยังภาคผนวก 1 ที่กำหนดให้ควบคุมผลิตภัณฑ์เพียง 20% ที่ประตูพรมแดนสหภาพยุโรป การตัดสินใจครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) ในการควบคุมความปลอดภัยของอาหารและสนับสนุนธุรกิจในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมคุณภาพของผลิตภัณฑ์เวียดนามที่จะเข้าไปสู่ตลาดสหภาพยุโรปนั้น จำเป็นที่ต้องผลักดันภาคธุรกิจให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของอาหารของสหภาพยุโรปอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://en.baochinhphu.vn/eu-eases-regulations-on-viet-nams-instant-noodles-11123061211192207.htm

“THG” อัดงบ 170 ล้านบาท รุกลงทุนธุรกิจคลินิกในเวียดนาม

นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ และ Ms.Nguyen Thi Mai และ คุณวรศักดิ์ มานิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมิตรไมตรีการแพทย์ จำกัด ร่วมพิธีลงนามข้อตกลงการพัฒนาคลินิกสุขภาพในเวียดนาม ด้วยมูลค่ากว่า 170 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการลูกค้าที่มีฐานะสูงในเวียดนาม ตลอดจนมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าที่มีความสนใจในการดูแลสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย ทั้งนี้ นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์. ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (THG) กล่าวว่ากลุ่มลูกค้าเวียดนามที่มีกำลังซื้อสูง เล็งมองหาการให้บริการทางการแพทย์โดยหมอไทย และเวียดนามยังเป็นตลาดการแพทย์ที่มีแนวโน้มสดใส พร้อมกับเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัท THG คาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากโครงการดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 20% โดยมีระยะเวลาคืนทุน 4.5 ปี

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2588951/thg-invests-in-vietnam-clinic

“จีน” ชื่นชมสินค้าเกษตรเวียดนาม แต่ซื้อเพียงเล็กน้อย

นายเจิ่น แทงห์ นาม รมช.เกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวกับสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ว่าด้วยจำนวนประชากร 1.41 พันล้านคน และรายได้เฉลี่ย 13,800 เหรียญสหรัฐในปี 2565 ส่งผลให้จีนเป็นตลาดสินค้าเกษตรรายใหญ่ รัฐบาลและองค์กรต่างๆ ของเวียดนามและจีน ร่วมมือเป็นคู่ค้าสำคัญทางด้านภูมิศาสตร์ โดยมีปัจจัยบวกหลายประการ อาทิเช่น ระยะเวลาในการขนส่งที่ต่ำ ต้นทุนต่ำและรูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย เป็นต้น โดยเฉพาะอาหารทะเล ผลไม้ งานไม้และเนื้อไก่ของเวียดนามเป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาดจีน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความต้องการผลผลิตทางการเกษตรสูงจากทั้งสองประเทศ แต่ว่าในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานตามแนวชายแดนที่มีมากเกินไป จำเป็นที่ต้องหันมามุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ประกอบกับความร่วมมือทางการค้าของทั้งสองประเทศยังคงไม่มีเสถียรภาพ ผู้ค้าส่วนใหญ่เพียงแค่ทำธุรกรรมเท่านั้น และขาดความต่อเนื่องในการติดต่อสื่อสาร เนื่องจากปัญหาการขาดข้อมูล

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/china-praises-vietnam-s-farm-produce-but-makes-modest-purchases-2152940.html

“เวียดนาม” ส่งออกลิ้นจี่ไปสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการครั้งแรก

คุณ Thai Tran กรรมการผู้จัดการของบริษัท กล่าวว่านับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเข้าลิ้นจี่สุกก่อนกำหนดจากเวียดนาม เพื่อที่จะแข่งขันกับเม็กซิโกและจีนที่ได้จำหน่ายลิ้นจี่ในตลาดสหราชอาณาจักร (UK) โดยปัจจุบันลิ้นจี่ของเวียดนามติดรูปธงชาติไว้บนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมแบรนด์ของเวียดนามและช่วยให้ผู้บริโภคจดจำผลิตภัณฑ์ของเวียดนามในซูเปอร์มาร์เก็ตได้ ทั้งนี้ กระบวนการจัดเก็บลิ้นจี่ไปจนถึงการวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ใช้เวลาเพียง 36 ชั่วโมง ขณะที่ความต้องการลิ้นจี่ในตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากคุณภาพสูงและฤดูการปลูกอายุสั้น ตลอดจนกิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการส่งเสริมการค้า นอกจากนี้ ราคาลิ้นจี่ของเวียดนามในปัจจุบัน อยู่ที่ 15 ปอนด์ (18.65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อกิโลกรัม ที่วางขายในสหราชอาณาจักร

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-first-official-channel-lychee-shipment-arrives-in-uk-2151932.html

“เวียดนาม” เผย พ.ค. ส่งออกโต 4.3%

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าการส่งออกของเวียดนามในเดือน พ.ค. ปรับตัวดีขึ้น ขยายตัว 4.3% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. ที่มีมูลค่า 29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามทำรายได้จากการส่งออก 136.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าอุตสาหกรรมมีสัดส่วนมากถึง 88% ของมูลค่าทั้งหมด โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ทั้งนี้ การดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเสรี อาทิเช่น ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) และข้อตกลงสหราชอาณาจักร-เวียดนาม (UKVFTA) ได้อำนวยความสะดวกในการส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดอียู โดยจากข้อมูลทางสถิติแสดงให้เห็นว่าการส่งออกข้าวของเวียดนาม ม.ค.-พ.ค. เพิ่มขึ้น 40.8% ในเชิงปริมาณ และ 49% ในเชิงมูลค่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-exports-grow-4-3-in-may/

“เวียดนาม” กลายมาเป็นตลาดบริการรับฝากเซิร์ฟเวอร์ที่น่าสนใจ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

จากรายงานของ KPMG ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ พบว่าเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 7 ของตลาดเกิดใหม่ชั้นนำที่ให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับการวางเซิร์ฟเวอร์ (Server) และคาดการณ์ว่าขนาดตลาดจะพุ่งสูงขึ้นแตะ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2569 ทั้งนี้ คุณ Meir Tlebalde ผู้อำนวยการของบริษัท KPMG ประจำเวียดนาม กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Vietnam Investment Review ว่าการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับตลาดเทียร์-1 เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซิดนีย์และโตเกียว คิดเป็นสัดส่วน 82% ของขนาดข้อมูลทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิก อย่างไรก็ดี ตลาดเทียร์-1 กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนที่ดินจำนวนมากที่ใช้ในการพัฒนาและต้นทุนของพลังงานทดแทนที่มีราคาสูง เป็นต้น อีกทั้ง จากข้อมูลของ Tlebalde ชี้ให้เห็นว่าตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญของตลาดให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับการวางเซิร์ฟเวอร์ของเวียดนาม มาจากต้นทุนที่ต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และระบบอินเทอร์เน็ตที่มีศักยภาพ ประกอบกับแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เร่งดีดตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-becomes-attractive-colocation-markets-for-foreign-investors-2151582.html

“เวียดนาม” ความต้องการจ้างงานลดน้อยลง

บริษัท ‘Navigos Group’ ผู้ให้บริการด้านการว่าจ้างพนักงานที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม เปิดเผยว่าความต้องการแรงงานยังอยู่ในระดับต่ำในหลายภาคส่วนของประเทศ รวมไปถึงภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการและภาคเทคโนโลยี โดยจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย. ความต้องการจ้างแรงงานลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 และ 16% เมื่อเทียบกับช่วงฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การจัดเลี้ยงและบริการที่พัก เผชิญกับความต้องการจ้างแรงงานที่ลดลงอย่างรวดเร็วถึง 43% แม้ว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับที่เคยตกต่ำถึง 55% ในปี 2565 ในขณะที่อุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกจากต่างประเทศ ได้แก่ สิ่งทอและรองเท้า ประสบกับปัญหาการจ้างงานที่ตกต่ำถึง 39% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นและยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ชะลอตัวลง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/employment-demand-slumps-navigos-group/

ไฟฟ้าดับ! เวียดนาม กระทบศูนย์กลางการผลิตของธุรกิจข้ามชาติ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สภาหอการค้าสหภาพยุโรป (EuroCham) ได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าถึงประเด็นการตัดไฟฟ้าบ่อยครั้งและไม่มีการแจ้งล่วงหน้าต่อสวนอุตสาหกรรมในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีผู้ผลิตระดับโลก อาทิเช่น ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) และซัมซุง (Samsung) ตลอดจนเรียกร้องให้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อจัดการกับเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้ การไฟฟ้าเวียดนาม เร่งหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และมาตรการที่จะสามารถจำกัดถึงผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้ จากรายงานของสื่อที่อ้างหน่วยงานการไฟฟ้า (EVN) ระบุว่ากำลังไฟฟ้าของโรงงานแคนอนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดบั๊กนิญ จะถูกตัดไฟฟ้าตั้งแต่เวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันอังคาร ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังให้กับสวนอุตสาหกรรมอย่างน้อย 5 แห่งและหมู่บ้านหลายแห่งในจังหวัด ถูกตัดบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นเวลาหลายชั่วโมงในช่วงวันแรกของสัปดาห์นี้

ที่มา : https://www.reuters.com/markets/asia/vietnams-power-blackouts-hit-multinationals-manufacturing-hubs-2023-06-05/

“อุตสาหกรรมน้ำตาลเวียดนาม” มุ่งฟื้นฟูตลาดในประเทศ

จากข้อมูลของ Mercantile Exchange of Vietnam (MXV) เปิดเผยว่าราคาน้ำตาลในตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ (ICE) ของสหรัฐฯ ณ วันที่ 30 พ.ค. อยู่ที่ 559.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นับว่าเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับสูงหลังจากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับต้นปีนี้ แม้ว่าเผชิญกับผลผลิตตกต่ำในประเทศ โดยเฉพาะอินเดียที่เป็นซัพพลายเออร์น้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ทำการส่งออกน้ำตาลได้เพียง 6 ล้านตันในปี 2565-2566 ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12 ล้านตันจากครั้งก่อน ทั้งนี้ จากข้อมูลของคุณ Pham Quang Anh จากบริษัท MXV ระบุว่าราคาน้ำตาลคาดว่าจะยังคงสูงต่อไปในอนาคต เนื่องจากข่าวที่แพร่หลายในตลาดถึงเรื่องการขาดแคลนน้ำตาล เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมน้ำตาลของเวียดนามและบริษัทน้ำตาลในประเทศที่จะกลับมาฟื้นตัว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-sugar-industry-hopes-to-regain-home-market-2150036.html

กัมพูชา-เวียดนาม ลงนามข้อตกลงส่งเสริมการค้าระหว่างกัน

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนาย Nguyen Hong Dien รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของเวียดนาม ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองกระทรวงเข้าร่วมในพิธีลงนาม ซึ่งการลงนามในข้อตกลงส่งเสริมการค้าในระดับทวิภาคีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมระหว่างประเทศ และคาดว่าข้อตกลงนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน รวมถึงจะเป็นการส่งเสริมการลงทุน และเพิ่มการค้าทวิภาคีในระยะถัดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสินค้าและอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งทั้งสองประเทศพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกทางการค้าทวิภาคีระหว่างกันในทุกมิติ สำหรับการค้าระหว่างกัมพูชาและเวียดนามในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 2,430 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501301992/cambodia-vietnam-sign-trade-enhancement-pact/