‘เวียดนาม’ มุ่งผลักดันเศรษฐกิจ 16 จังหวัด โตทะลุ 10%

รัฐบาลเวียดนามได้ออกมติที่ 25 เปิดเผยว่าเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศระดับภูมิภาค (GRDP) ในภูมิภาคต่างๆ โดยตั้งเป้า GRDP ของจังหวัดบั๊กซาง ไฮฟอง และกว๋างนิญ ขยายตัวเกินว่า 12% ในปี 2568 และตั้งเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ขยายตัวอย่างน้อย 8% ในปีนี้ ในขณะที่ 16 จังหวัดและเมืองต่างๆ ในภูมิภาค ตั้งเป้าขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคที่ 2 หลัก ทั้งนี้ เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ มุ่งเน้นไปที่การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนไว้ที่ 2 หลัก ในปี 2569-2573 ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเวียดนามมอบหมายให้หน่วยงานในท้องถิ่นและผู้ที่เกี่ยวข้อง ติดตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและดำเนินนโยบายอย่างมีประสิทธิผล

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-pushes-for-high-growth-16-provinces-set-to-achieve-10-grdp-2368893.html

ที่ดินปาล์มน้ำมัน 4,754 เอเคอร์ ในตะนาวศรี และเกาะสอง เตรียมถูกแปรรูป

กระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทานได้เรียกร้องให้มีการประมูลแบบเปิดสำหรับพลเมืองเมียนมาสำหรับการเช่าพื้นที่ปาล์มน้ำมัน 4,754 เอเคอร์ในพื้นที่ตะนินทายีและเกาะสอง อย่างไรก็ดี คณะกรรมการพิจารณาและประเมินการประมูลระบุว่า กองพืชยืนต้นของกรมเกษตรจะเช่าพื้นที่ปาล์มน้ำมัน 2,000 เอเคอร์ในตำบลตะนินทายีและ 2,753 เอเคอร์ในตำบลเกาะสอง โดยปฏิบัติตามกฎและระเบียบการประมูล แบบฟอร์มการประมูลสามารถนำไปรับได้ในวันที่ 3-14 กุมภาพันธ์ที่กรมเกษตร (สำนักงาน 43) ในเนปิดอว์ กำหนดส่งใบสมัครคือวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. บุคคลสามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ทางหมายเลขติดต่อของกรม 067 3410210 และ 067 341118

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/4754-oil-palm-acres-in-taninthayi-kawthoung-set-for-privatization/#article-title

เชิญชวนนักธุรกิจเมียนมาร่วมงาน Smart Farm Korea 2025 (SFKOREA 2025)

ตามข้อมูลขององค์กรส่งเสริมการค้าเมียนมา งาน Smart Farm Korea 2025 (SFKOREA 2025) กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2025 ที่ศูนย์การประชุมชางวอน จังหวัดคยองซังนัมโด และเปิดรับนักธุรกิจชาวเมียนมาที่สนใจซื้อเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ฟาร์มอัจฉริยะเข้าร่วมงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาภาคการเกษตรและปศุสัตว์ และสนับสนุนเกษตรกรที่จะเป็นผู้นำการพัฒนาภาคการเกษตรและปศุสัตว์ในอนาคตให้ใช้เทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะที่ทันสมัย ซึ่ง​​คาดว่าจะมีบริษัทประมาณ 120 แห่งจัดแสดงเทคโนโลยีฟาร์มอัจฉริยะ โซลูชันอัจฉริยะ และผลิตภัณฑ์ของตน โดยมีบูธ 400 แห่ง และคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมได้ประมาณ 20,000 คน รายการที่นำมาจัดแสดงประกอบด้วยเกษตรกรรมในอนาคต (ระบบอัตโนมัติ) โรงงานอัจฉริยะและอุปกรณ์ (โดรนเกษตร) เกษตรในเมือง การกลับสู่การเกษตรและหมู่บ้านชนบท วัสดุและอุปกรณ์ทางการเกษตรและปศุสัตว์ โรงงานผลิตพืชเพื่อผลิตผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพสูงตลอดทั้งปี บรรจุภัณฑ์ การจัดจำหน่าย และระบบโลจิสติกส์และการศึกษาด้านการศึกษาไอซีที การปฏิบัติภาคสนามของฟาร์มอัจฉริยะ การจัดการโรคพืชและสัตว์ การศึกษาข้อมูลด้านการเกษตรและชนบท เป็นต้น

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/smart-farm-korea-2025-sfkorea-2025-invites-myanmar-businesspeople/

‘เวียดนาม’ ส่งออกไปตลาดยุโรป ปี 67 โตแรง มูลค่าแตะ 51.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2567 เวียดนามส่งออกไปยังสหภาพยุโรป มูลค่า 51.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.5% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) โดยกลุ่มสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ มีมูลค่าราว 10.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 66.9%YoY ตามมาด้วยโทรศัพท์และชิ้นส่วน ปรับตัวลดลง 13.4%YoY มูลค่าอยู่ที่ 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของเวียดนามกับสหภาพยุโรป มูลค่า  16.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12%YoY ทั้งนี้ ผลการการเติบโตที่แข็งแกร่งทางด้านการค้าระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป เนื่องมาจากได้รับอนิสงค์จากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 5 ของการบังคับใช้ นับตั้งแต่ FTA มีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม 2563

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1691572/viet-nam-s-exports-to-eu-see-impressive-recovery-in-2024.html

‘ดัชนี PMI’ ภาคการผลิตเวียดนาม ม.ค. หดตัว

เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือน มกราคม 2568 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 48.9 จากเดือนธันวาคม 2567 ที่อยู่ระดับ 49.8 โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีฯ ในเดือนดังกล่าวปรับตัวลดลง คือ การลดลงของยอดคำสั่งซื้อใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของความต้องการจากลูกค้า อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของกลุ่มบริษัทหรือกิจการต่างๆ พบว่าภาคธุรกิจยังคงเผชิญกับอุปสรรคความล่าช้าในการจัดหาวัตถุดิบ โดยระยะเวลาในการจัดส่งของซัพพลายเออร์ล่าช้ามากขึ้น และนับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงแนวโน้มในปีหน้า พบว่าบริษัทต่างๆ ยังคงมองไปในทิศทางที่เป็นบวก และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 36% คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1691543/viet-nam-s-manufacturing-pmi-slips-into-contraction-in-january.html

‘โอกาสและความท้าทาย’ ผลักดันเงินดิจิทัลเวียดนาม

บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนของสหรัฐฯ ‘Chainalysis’ เปิดเผยการจัดอันดับประเทศโดยใช้ดัชนีประเทศที่มีการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซี ปี 2567 (Global Crypto Adoption Inde) ในการพิจารณาและวิเคราะห์ พบว่าเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 5 ของดัชนีฯ ทั้งนี้ นายฟาน ดึ๊ก จุง (Phan Duc Trung) รองประธาน สมาคมบล็อกเชนแห่งเวียดนาม คาดการณ์ว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมที่แปลงเป็นโทเค็นจะสูงถึง 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 คิดเป็น 10% ของ GDP ทั่วโลก ในขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่เพียง 0.6% เท่านั้น ดังนั้นเวียดนามจึงไม่สามารถอยู่นอกกระแสนี้ได้ และด้วยประชากรที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 17 ล้านคนในปี 2567 ด้วยเหตุนี้ เวียดนามได้วางตำแหน่งประเทศให้เป็นผู้บุกเบิกระบบบล็อกเชน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/opportunities-and-challenges-in-vietnams-crypto-boom-post309178.vnp

เมียนมาตั้งเป้าส่งออกประมง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2024-2025

สหพันธ์ประมงเมียนมาและสมาคมผู้แปรรูปและส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงระบุว่า เมียนมาตั้งเป้าที่จะบรรลุมูลค่าการส่งออกจากสินค้าประมง 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2024-2025 (ตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ถึงเดือนมีนาคม 2025) โดยเมียนมาส่งสินค้าประมงไปยังพันธมิตรการค้าต่างประเทศผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ทางถนน เรือ และอากาศ เจ้าหน้าที่ของ MFF และ MFPPEA กล่าวว่า มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าประมงจะอยู่ที่ 735 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน โดยการส่งออกสินค้าประมงสะสม ณ เดือนมกราคม มีมูลค่า 521 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว แต่ยังมีความไม่แน่นอนว่ารายได้จะถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสสุดท้ายหรือไม่ อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกอาจต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ช่องทางการค้าหลักในการส่งออกประมง คือ การขนส่งทางเรือ จากนั้นจึงส่งออกทางอากาศ โดยส่วนใหญ่ไปยังจีน นอกจากนี้ การส่งออกที่ชายแดนถือว่ามีมูลค่าไม่สูงมากนัก

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/myanmar-targets-700m-in-fishery-exports-for-fy-2024-2025/#article-title

เมียนมาดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 11 แห่ง

ตามข้อมูลของคณะกรรมการพัฒนาไฟฟ้าและพลังงาน ปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด 11 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาในเมียนมา โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,026 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้ มีโครงการก่อสร้าง 4 โครงการในเขตเนปิดอว์ 3 โครงการในเขตมัณฑะเลย์ 1 โครงการในเขตพะโค และ 1 โครงการในรัฐฉาน ซึ่งรวมกำลังการผลิต 530 เมกะวัตต์ โครงการไฮบริด (เครื่องยนต์ก๊าซ + พลังงานแสงอาทิตย์) กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการในเขตมัณฑะเลย์และเขตมะเกว โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 496 เมกะวัตต์ เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าในประเทศเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงเร่งรัดโครงการพลังงานหมุนเวียนเพื่อกระตุ้นการผลิตไฟฟ้า ปัจจุบัน เมียนมามีโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 28 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังความร้อน 27 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 แห่ง โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 6,371 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ จากการโจมตีและภัยธรรมชาติส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าลดลงเนื่องจากสายไฟได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการพัฒนาไฟฟ้าและพลังงานมีเป้าหมายที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและพลังงานเพื่อสนับสนุนการดำรงชีพในชีวิตประจำวันและการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการลงทุนในท้องถิ่นและระหว่างประเทศ

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/myanmar-implements-11-solar-power-plant-projects/

ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3.63 พันล้านดอลลาร์

ตามรายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยว (MoT) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 มกราคม รายงานว่าภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3.63 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 จากปีก่อนหน้าที่รายได้ 3.08 พันล้านดอลลาร์ โดยกัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 6.7 ล้านคนในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.9 จากปีก่อนหน้าที่มีนักท่องเที่ยวราว 5.45 ล้านคน ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวเดินทางมายังกัมพูชามากที่สุดในปี 2024 โดยกัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยจำนวน 2.14 ล้านคนในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 จากปีก่อนหน้า ด้านนักท่องเที่ยวเวียดนามและจีนอยู่ในอันดับที่สองและสามของตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชา โดยมีจำนวน 1.34 ล้านคนและ 8.4 แสนคนตามลำดับ ขณะที่ Hun Dany รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและโฆษกของ MoT กล่าวว่า กลยุทธ์และนโยบายที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลได้ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501633364/cambodias-tourism-sector-breaks-new-ground-earns-3-63-billion/

Donaco ชี้คาสิโนในกัมพูชาถือเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตด้านรายได้ของประเทศ

Donaco International Ltd. บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย รายงานรายได้สุทธิ 6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บริษัทได้ระบุว่าการเติบโตของรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งมาจากธุรกิจคาสิโน Star Vegas ในกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองปอยเปต จากข้อมูลที่บริษัทได้ยื่นต่อผู้ถือหุ้น Star Vegas สร้างรายได้สุทธิ 4.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 3.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีก่อนหน้า โดย Property Level EBITDA เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งบริษัทระบุว่าจำนวนผู้เล่นเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 957 คน เพิ่มขึ้นจาก 861 คนในปีก่อนหน้า สำหรับกัมพูชาได้รับรายได้จากภาษีรวมกว่า 63.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคาสิโนและผู้ประกอบการเกมเสี่ยงโชคในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตามข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการบริหารการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชา (CGMC) ตามข้อมูลของ CGMC ประเทศได้อนุมัติใบอนุญาตดำเนินการให้กับคาสิโน 195 แห่ง โดยทางการกัมพูชาอนุมัติใบอนุญาตให้คาสิโนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาสิโนทั้งหมดตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนและจังหวัดชายฝั่ง ตามกฎหมายของราชอาณาจักร อนุญาตให้เฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้นที่สามารถเล่นการพนันในคาสิโนได้ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามชายแดนที่ติดกับไทยและเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501633334/cambodia-casino-fuels-donaco-revenue-growth/