11 เดือน เมียนมาส่งออกข้าวสร้างรายได้กว่า 661.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กรมศุลกากรเมียนมา เผย เมียนมาสร้างรายได้ 661.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวและข้าวหักในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63 – ส.ค.64) ของปีงบฯ  2563-2564 โดยการชะงักของการค้าชายแดนทำให้ตลาดซบเซาและส่งผลให้ราคาส่งออกลดลง ราคาข้าวขาวมีตั้งแต่ 340-355 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์และคุณภาพ ซึ่งในปีนี้ การส่งออกไปยังยุโรปลดลง แต่อย่างไรก็ตามยังสามารถส่งออกไปยังจีนและบังคลาเทศได้ นอกจากนี้ ราคาข้าวปี 2563 จะเพิ่มขึ้นในฤดูฝน ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าช่วงฤดูมรสุมของปีนี้ราคาอาจจะเพิ่มขึ้น โดยเมียนมาตั้งเป้าการส่งออกข้าวเพียง 2 ล้านตันในปีงบประมาณนี้ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกลดลงตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และน้ำชลประทานในการเกษตร ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกลดลง 300,000 ตันในปีนี้ ทั้งนี้การส่งออกข้าวในปีงบฯ 2562-2563 มีรายได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้าวันที่ 30 ก.ย.64 คาดว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-rice-export-earns-661-4-mln-in-eleven-months/

 

ปีงบฯ 63-64 ค้าชายแดนเมียวดีพุ่งขึ้น 705 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 24 ก.ย.64 ของปีงบประมาณ 2563-2564 การค้าชายแดนผ่านด่านเมียวดีระหว่างเมียนมาและไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนการเพิ่มขึ้น 705.47 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีงบประมาณ 2562-2563 การค้าชายแดนเมียวดี-แม่สอด ยังคงเป็นปกติท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเมียนมา ให้ข้อมูลว่าปัจจุบันมีการส่งข้าวโพดหลายพันตันมายังไทยผ่านชายแดนเมียวดีทุกวัน เมียนมาได้รับอนุญาตให้ส่งออกข้าวโพดได้ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคมด้วย Form-D โดยไม่มีการเสียภาษีศุลกากร ในช่วงปีงบประมาณที่แล้ว เมียนมาส่งออกข้าวโพดผ่านชายแดนไปยังไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นกว่า 1.2 ล้านตัน สินค้าส่งออกสำคัญไปยังไทย ได้แก่ ข้าวโพด ก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ประมง ถ่านหิน ดีบุกเข้มข้น (ร้อยละ SN 71.58) มะพร้าว (สดและแห้ง) ถั่ว และหน่อไม้ ส่วนการนำเข้าจากไทยจะเป็นสินค้าทุน ได้แก่ เครื่องจักร สินค้าอุตสาหกรรมดิบ เช่น ซีเมนต์และปุ๋ย ส่วนการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหาร

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myawady-border-trade-up-by-705-mln-in-fy2020-2021/#article-title

ราคาหัวหอมในประเทศพุ่ง ผลจากความต้องการของบังคลาเทศเพิ่มขึ้น

ความต้องการหัวหอมเมียนมาที่เพิ่มขึ้นจากบังกลาเทศ ทำให้ราคาหัวหอมในตลาดเมียนมาสูงขึ้น ในเดือนมี.ค.64 ราคาอยู่ระหว่าง 250-300 จัตต่อ viss (1 viss = 1.6 กิโลกรัม) จากนั้นราคาก็แตะระดับต่ำสุดที่ 200 วอนต่อครั้ง จึงไม่สามารถส่งออกไปยังจีนได้เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ด้านบังคลาเทศมักจะนำเข้าหัวหอมจากอินเดีย แต่ในตอนนี้อินเดียได้ระงับการส่งออกหัวหอม ดังนั้นบังคลาเทศจึงหันนำเข้าจากเมียนมาแทน ส่งผลให้ ตอนนี้ราคาหัวหอมได้เพิ่มขึ้นเป็น 500 จัตต่อ viss ปัจจุบันสต๊อกหัวหอมในตลาดมัณฑะเลย์ลดน้อยลง ดังนั้นราคาค้าปลีกจึงอยู่ที่ 700 จัตต่อ viss ปัจจุบันหัวหอมส่วนใหญ่ปลูกในเขตมัณฑะเลย์ มะกเว ย่างกุ้ง เนปิดอว์ และรัฐฉาน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/domestic-onion-price-rises-due-to-demand-from-bangladesh/#article-title

ปีงบฯ 64-65 เมียนมา เร่งปลูกกาแฟบนพื้นที่กว่า 600 เอเคอร์ ในเขตซะไกง์

กรมวิชาการเกษตรเขตซะไกง์ เผย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2565 เขตซะไกง์เริ่มปลูกกาแฟในเดือนมิ.ย. 2564 มีการปลูกกาแฟโดยใช้พื้นที่ประมาณ 622 เอเคอร์ และกำลังส่งเสริมการปลูกกาแฟในพื้นที่ของนาคาเพราะได้ผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพสูงแต่กำลังประสบปัญหาด้านการขนส่ง ในปีนี้ มีพื้นที่ปลูกกาแฟในเขตซะไกง์รวม 35 เอเคอร์ อำเภอมอไล 18 เอเคอร์ อำเภอตะมู่ 16 เอเคอร์ในอำเภอ กะเล่ 103 เอเคอร์ อำเภอคำตี 132 เอเคอร์ พื้นที่ปกครองตนเองนาคา 260 เอเคอร์ อำเภอกะตา และ 44 เอเคอร์ในอำเภอกอลี่น ปัจจุบัน กรมวิชาการเกษตรได้สร้างองค์ความรู้ในเรื่องการรักษาดิน การใช้ปุ๋ยธรรมชาติ วิธีการปลูก เพื่อให้สามารถเพิ่มพื้นที่ปลูก และเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-600-acres-of-coffee-cultivated-in-sagaing-region-this-year/#article-title

พาณิชย์เมียนมา อำนวยความสะดวกนำเข้าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ สู้ โควิด-19

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาจับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมทำงานเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเวชภัณฑ์ที่ในการป้องกัน ควบคุม และรักษาโควิด-19 ได้แก่ ถังออกซิเจนเหลวและถังออกซิเจน โดยนำเข้าอย่างต่อเนื่องทั้งทางอากาศ ทางทะเล และจุดการค้าชายแดน จากรายงานพบว่ากระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการนำเข้า ผ่านระบบ SOPs ที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า และประกาศพร้อมชี้แจงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ายาและผลิตภัณฑ์เผยแพร่บนเว็บไซต์ https://www.commerce.gov.mm/

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/moc-facilitates-import-of-covid-19-medical-supplies-and-equipment/#article-title

ณ วันที่ 17 ก.ย.64 เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่ไปแล้วมากกว่า 27,000 ตัน

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมถึง 17 กันยายนของปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่ (chick peas) ไปแล้วมากกว่า 27,160 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่งและการอ่อนค่าของเงินจัตในตลาดฟอเร็กซ์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 ราคาถั่วอยู่ที่ 90,000 จัตต่อถุง ในขณะที่ปัจจุบันพุ่งขึ้นเป็น 131,000 จัตต่อถุง เป็นผลมาจากผลผลิตที่ต่ำในปีนี้ และการส่งออกชะงักเนื่องจากการปิดด่านชายแดนของจีน ทั้งนี้เมียนมาส่งออกถั่วลูกไก่ไปยังอินเดีย ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี และตลาดอื่นๆ ในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่การเพาะปลูกจะอยู่ในเขตย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ พะโค ซากาย และอิรวดี และเนปิดอว์ คิดเป็น 890,000 เอเคอร์ของพื้นที่เพาะปลูกถั่วลูกไก่ทั่วประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-27000-tonnes-of-chickpea-to-external-market-as-of-17-sept/

เมียนมางดนำเข้ารถยนต์ หวังลดการใช้สกุลเงินต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาประกาศระงับการนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศเพื่อลดการใช้เงินตราต่างประเทศ โดยจะระงับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 ผลพวงของการระบาดของ COVID-19 ทำให้ธุรกิจล่าช้า หวังลดการใช้เงินตราต่างประเทศอันเนื่องมาจากการส่งออกที่ลดลงของประเทศ ทั้งนี้การนำเข้าและการออกใบอนุญาตนำเข้ารายบุคคลต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้าราชการ ตำรวจ และทหารที่มีความประพฤติที่ดีหรือได้รับเหรียญตราของหน่วยงานเท่านั้น

ที่มา: https://news-eleven.com/article/216866

เดือนส.ค.ของปีงบฯ 63-64 FDI ภาคการเกษตรเมียนมา คิดเป็นเพียง 1% ของการลงทุนทั้งหมด

คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) เผย ณ เดือนส.ค. 2564 ของปีงบประมาณ 2563-2564 การลงทุนจากต่างประเทศในภาคเกษตรของเมียนมามีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2560-2561 มีการลงทุนในภาคเกษตรจำนวน 134.485 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่มีการลงทุนในปีงบประมาณ 2559-2560 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 จนถึงสิ้นเดือนก.ย. 2561 มีการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนกว่า 77.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีการลงทุนในภาคการเกษตร กว่า 395 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 0.51% ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด .จนถึงปัจจุบัน มีเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 87.969 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการลงทุนในภาคการเกษตร เพียง 441.838 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนในด้านการปศุสัตว์และการประมงมีการลงทุน 926.218 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/216778

ราคายาง รัฐมอญ พุ่งทะลุ 1,150 จัต สูงกว่าปีที่แล้ว ผลจากค่าเงินจัตอ่อนค่า

ปัจจุบันรัฐมอญ ราคายาง 1 ปอนด์มีราคา 1,150 จัต เพิ่มขึ้นจาก 700 จัตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลจากการอ่อนค่าของเงินจัตและการซื้อยางทางเลือก แม้การส่งออกที่ชายแดนจีนปิดตัวลง สถานการณ์ปัจจุบันคือเมื่อเงินอ่อนค่าลง ผู้ที่ถือเงินจัตมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น จึงทำให้คนเมียนมาเลือกที่จะถือเงินสกุลอื่นหรือสิ่งอื่นเพื่อซื้อสินค้าแทน ส่งผลให้ปัจจุบันราคายางต่อปอนด์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,150 / 1,200 จัต

ที่มา : https://news-eleven.com/article/216737

บมจ. มะริด คอร์ปอเรชั่น ได้รับอนุญาติประมูลปลาที่เมืองมะริด เขตตะนาวศรี

บริษัท มะริด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทได้รับการอนุมัติการประมูลปลาและปฏิรูปที่ดินในปีหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วในหมู่บ้านสันดาวาส เมืองมะริด เขตตะนาวศรี ด้วยเงินทุน 300 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ  (500 พันล้านจัต) โดยโครงการนี้มีกำหนดดำเนินมาเป็นเวลาเจ็ดปีและจะสร้างงานนับหมื่นตำแหน่งตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง ซึ่งโครงการแบ่งออกเป็นสี่ส่วน: พอร์ตการขนถ่าย;ห้องเย็น; โรงงานแปรรูปวัตถุดิบ, ที่อยู่อาศัย และสถานที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พื้นที่ 2,100 เอเคอร์และมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2571 หมู่เกาะมะริด เป็นแหล่งสินค้าประมงที่สำคัญของเมียนมา ซึ่งตลาดส่งออกและตลาดปลาที่สำคัญคือประเทศไทย

ที่มา: https://news-eleven.com/article/216541