รัฐบาลสปป.ลาวมุ่งมั่นป้องกันวิกฤตทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

รัฐบาลสปป.ลาวได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจ ภายใต้นโยบายการคลังแบบขาดดุลเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาหนี้เรื้อรัง นายบุญชม อุบลประสุต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงประเด็นดังกล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันอังคารว่า “แผนงบประมาณของรัฐในช่วง 5 ปีข้างหน้าได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาทางการเงินที่เรื้อรัง เราจะพยายามสร้างสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่ายซึ่งหมายความว่าเราจะใช้งบประมาณตามรายได้ที่ได้รับหรือใช้จ่ายมากกว่าจำนวนเงินที่เราได้รับเล็กน้อย” ตามรายงานของรัฐบาลการขาดดุลการคลังสำหรับปี 2564-2568 ถูกกำหนดไว้ที่ร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพื่อหยุดหนี้ที่เพิ่มขึ้น ในที่ประชุมสมาชิกสมัชชาแห่งชาติยังขอให้รัฐบาลเพิ่มเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ 5 ปีจากร้อยละ 16 ของ GDP เป็นร้อยละ18 ข้อเสนอดังกล่าวรัฐบาลจะนำมาพิจารณาอีกครั้งเพราะการดำเนินนโยบายด้านภาษีอาจไปกระทบต่อภาคธุรกิจที่ต้องแบกรับภาระมากขึ้นภายใต้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบันซึ่งจะทำให้มีปัญหาของภาคธุรกิจตามมา  แนวทางในอีก 5 ปีข้างจึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะรักษาสมดุลระหว่างการใช้งบประมาณและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt59.php

ประธานาธิบดีสปป.ลาวคนใหม่เผชิญกับหนี้จีนที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสมาชิกสภาแห่งชาติสปป.ลาวได้เลือกนายทองโหลน สีสุลิธ เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศโดยมอบความไว้วางใจให้ผู้นำคนใหม่นำสปป.ลาวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนหนึ่งของอุปสรรคและความท้าทายของผู้นำคนใหม่คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ถึงแม้สปป.ลาวจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่ประเทศที่สปป.ลาวพึ่งพาอย่างไทย จีน ล้วนได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากโควิด-19 ทำให้สปป.ลาวได้รับผลกระทบไปด้วย เห็นได้ชัดจากกรณีการปิดด่านชายแดนและมาตรการที่เข้มงวดส่งผลให้การค้าชายแดนหดตัวอย่างมาก นอกจากนี้ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนคือหนี้จากการกู้ยืมจากจีน ซึ่งถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดของสปป.ลาวในการกู้มาเพื่อลงทุนหากไม่ได้รับการแก้ไข หนี้ก่อนนี้อาจทำให้สปป.ลาวต้องสูญเสียพื้นตามแนวรถไฟให้แก่จีนเพื่อเป็นการชดใช้หนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลเริ่มมีการรัดเข็มขัดด้านงบประมาณและเข้มงวดด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้งบประมาณ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแนวทางเพื่อการรชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Politics/New-Laos-president-faces-rising-China-debt-and-battered-economy

ผู้นำใหม่พยายามสร้างสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่ยั่งยืนในสปป.ลาว

นายทองลุน สีสุลธิ์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสปป. ลาวได้ให้คำมั่นว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่จะทำให้สปป.ลาวมีเสถียรภาพและความมั่นคงทั่วประเทศตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำโดยนายทองลุน จะดำเนินนโยบายต่างประเทศเพื่อสันติภาพ เอกราช มิตรภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคและโลกด้วย คำมั่นดังกล่าวมีนัยสำคัญที่บ่งบอกถึงกลยุทธ์ในการพัฒนาของสปป.ลาวในอนาคตที่จะหันมาพึ่งความร่วมมือจากข้อตกลงต่างๆที่ได้ทำไว้กับนานาประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในหลายปีผ่านมาที่ทำให้สปป.เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและภายใต้บริบทของโลกที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 การร่วมมือเพื่อดึงเอาศักยภาพของแต่ละประเทศเพื่อช่วยเหลือกันจะเป็นสิ่งสำคัญในการผ่านวิกฤตของโลกครั้งนี้ไปได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_57.php

UN สนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนโควิด -19 แก่สปป.ลาว

รัฐบาลสปป.ลาวได้รับวัคซีน AstraZeneca / Oxford 132,000 โดสเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสในสปป.ลาว วัคซีนชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของจำนวน 480,000 โดสที่ลาวคาดว่าจะได้รับจาก COVAX Facility ในปีนี้เพื่อแจกจ่ายให้ประมาณร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด การส่งมอบวัคซีนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในสปป.ลาวถึงแม้สถานการณ์ของสปป.ลาวในปัจจุบันจะสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ  Ms Sekkenes ผู้ประสานงานด้านการกู้ชีพของสหประชาชาติประจำสปป.ลาว กล่าวเพิ่มเติมว่า “ สหประชาชาติพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางเทคนิครวมถึงการสนับสนุนการระดมทรัพยากรและการสร้างความไว้วางใจตามมาตรฐานสากลสูงสุดสำหรับการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนโควิด -19 ทั่วประเทศเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยประสิทธิภาพและการเข้าถึงที่เท่าเทียมกัน” โดยกลุ่มผู้ที่จะได้รับวัคซีนกลุ่มแรกคือกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทีมีความเสี่ยงสูงและคาดว่าจะสามารถฉีดให้กับประชาชนกว่าร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมดได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_UN_56.php

สปป.ลาวมอบสัมปทาน 25 ปีให้ บริษัท จีนจัดการ Power Grid

Électricité du Laos Transmission Company Ltd.  ในนามตัวแทนรัฐบาลสปป.ลาวและ China Southern Power Grid Company ได้ลงนามในข้อตกลงสัมปทาน 25 ปีซึ่งอนุญาตให้ บริษัท สร้างและจัดการโครงข่ายไฟฟ้ารวมถึงการส่งออกไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบันและหนี้สินจำนวนมหาศาลทำให้รัฐบาลลาวไม่มีความสามารถในการจัดการและดำเนินการเครือข่ายสายไฟฟ้า ดังนั้นรัฐบาลจึงตัดสินใจอนุญาตให้ชาวจีนซึ่งมีคามแข็งแกร่งด้านการเงิน ความสามารถทางเทคโนโลยีและกำลังคนเข้ามารับช่วงต่อเพื่อทำให้เกิดการบริหารจัดพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.voanews.com/east-asia-pacific/laos-grants-25-year-concession-chinese-company-manage-power-grid

กล้วยยังคงเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของสปป.ลาว

กล้วยสปป.ลาวยังคงทำรายได้สูงสุดในบรรดาสินค้าเกษตรทั้งหมดโดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดในปี 2563 สูงถึงเกือบ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะมีข้อจำกัดทางการค้าจากการแพร่ระบาด COVID-19 ตามข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของสปป.ลาวระบุว่ามูลค่าของกล้วยที่ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและไทยในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 227.4 ล้านดอลลาร์ ในแง่ของผลผลิตปริมาณกล้วยที่ปลูกเพื่อการส่งออกก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่สร้างขึ้นภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา อย่างไรก็ตามจำนวนนักลงทุนและสวนกล้วยลดลงหลังจากที่รัฐบาลหยุดให้สัมปทานสำหรับพื้นที่เพาะปลูกใหม่และสิ้นสุดข้อตกลงกับ บริษัท ที่ละเมิดกฎระเบียบ ในปัจจุบันรัฐบาลพยายามทำให้เกษตรกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นของสปป.ลาวเติบโตควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดที่ยั่งยืนและสมดุลของการลงทุนกับสิ่งแวดล้อม

ที่มา : https://www.freshplaza.com/article/9303635/laos-bananas-remain-top-agricultural-export/

เปิดตัวโครงการนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียวของสปป.ลาว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์และ Global Green Growth Institute ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาภายใต้แนวความคิด “นโยบายอุตสาหกรรมสีเขียวของสปป.ลาว” ภายใต้โครงการนี้จะมีการแก้ไขนโยบายสำหรับภาคอุตสาหกรรมพลังงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงแผนปฏิบัติการสำหรับการลงทุนของภาคเอกชนในภาคพลังงานอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับโครงการ ในระยะกลางโครงการจะขยายการลงทุนของภาคเอกชนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรม ในระยะยาวจะมีแนวทางลดการปล่อยก๊าซจากอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนภาคอุตสาหกรรมไปสู่เส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ปล่อยมลพิษน้อยลงในอนาคต โครงการเหล่านี้จะช่วยเร่งการนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมในสปป.ลาวและด้วยเหตุนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นตัวของภาคพลังงานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจสปป.ลาวในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_53.php

EDL-T เซ็นสัญญาสัมปทานกับรัฐบาล

Electricite du Laos Transmission Company Limited (EDL-T) ซึ่งเป็น บริษัท ร่วมทุนระหว่าง China Southern Power Grid (CSG) และ Electricite du Laos (EDL) ได้ทำสัญญาสัมปทานกับรัฐบาลซึ่งถือเป็นก้าวต่อไปในความร่วมมือด้านการส่งไฟฟ้าระหว่างจีนและสปป.ลาว ข้อตกลงดังกล่าวอนุญาตให้ EDL-T ภายใต้การดูแลของรัฐบาลสปป.ลาวทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ เพื่อลงทุนสร้างและดำเนินการโครงข่ายไฟฟ้า 230kV ขึ้นไปในสปป.ลาว และดำเนินโครงการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างสปป.ลาวและประเทศเพื่อนบ้าน EDL-T จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาวและปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยการส่งไฟฟ้าที่ปลอดภัยมั่นคงและยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_EDL_51.php

รัฐบาลสปป.ลาวเปิดตัวทะเบียนราษฎรระบบสถิติที่สำคัญใหม่

รัฐบาลได้เปิดตัวระบบทะเบียนราษฎร์และสถิติสำคัญ (eCRVS) และซอฟต์แวร์ข้อมูลสุขภาพเขต 2 (DHIS2) เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทะเบียนประชากรถูกต้องมากขึ้นระบบดังกล่าวจะใช้ร่วมกันและดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยซึ่งลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้งานในเวียงจันทน์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาความคิดริเริ่มนี้จะทำให้ทั้งสองกระทรวงแบ่งปันข้อมูลในการใช้ระบบ eCRVS และ DHIS2 โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงคุณภาพของทะเบียนราษฎรและสถิติที่สำคัญ การบูรณาการฐานข้อมูลใหม่คครั้งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินนโยบายของภาครัฐหรือการคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/03/14/laos-govt-launches-new-civil-registration-vital-statistics-systems

กัมพูชา เวียดนาม สปป.ลาวเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือผ่านประตูชายแดนระหว่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุกและผู้นำของสปป.ลาวและกัมพูชาตกลงที่จะสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยสำหรับพิธีการทางศุลกากรผ่านประตูชายแดนในระหว่างการเจรจาผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวัน 10 มีนาคม 64 พวกเขาตกลงที่จะรักษาและส่งเสริมประสิทธิภาพของกลไกความร่วมมือเร่งความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างท้องถิ่นชายแดนและส่งเสริมการสร้างตลาดชายแดนและศูนย์กระจายสินค้าระหว่าง 3 ประเทศเป็นไปตามแผนเพื่อเชื่อมต่อเศรษฐกิจทั้งสามประเทศภายในปี 2573 นอกจากนี้พวกเขายังมีการตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการป้องกันและควบคุม COVID-19 ต่อไปโดยสร้างเงื่อนไขสำหรับพิธีการศุลกากรสำหรับคนและสินค้าผ่านประตูชายแดนตลอดจนกิจกรรมความร่วมมือด้านการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของทั้ง 3 ประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50823412/cambodia-vn-laos-agree-to-boost-border-gate-cooperation/