บริษัท จีนต้องการปลูกทุเรียน 4,800 เฮกตาร์ในสปป.ลาว

บริษัท จีนต้องการเช่าที่ดินในเวียงจันทน์จำนวน 3,200 ถึง 4,800 เฮกตาร์เพื่อปลูกทุเรียนและส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะมีการส่งออกทุเรียนจำนวนมากจากสปป.ลาวและเวียดนามใน 3-5 ปีข้างหน้า ทุเรียนได้รับการปลูกในเชิงพาณิชย์ในสปป.ลาวในช่วงสิบปีที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่อยู่บนที่ราบสูงทางตอนใต้ที่เย็นและอุดมสมบูรณ์ซึ่งเหมาะแก่การเพราะปลูกทุเรียนไม่เพียงแค่ด้านผลผลิตที่เติบโต ด้านตลาดก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งผู้บริโภคในประเทศรวมถึงด้านการส่งออกจากปัจจัย ค่าเช่าที่ดินและแรงงานที่ต่ำตลอดจนข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับยกเว้นภาษีจาก 16 ประเทศ ทำให้การส่งออกทุเรียนของไทยมีแนวโมที่จะเติบโตได้ในอนาคต

ที่มา : https://www.freshplaza.com/article/9301231/chinese-companies-looking-to-grow-4-800-hectares-of-durians-in-laos/

สปป.ลาวออกกฎหมายลงโทษแรงงานต่างด้าวและผู้ประกอบการผิดกฎหมาย

รัฐบาลได้กำหนดบทลงโทษต่อแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายและผู้ประกอบธุรกิจในการเสนอราคาเพื่อควบคุมปัญหาและตรวจสอบให้แน่ใจว่าชาวต่างชาติในสปป.ลาวปฏิบัติตามกฎหมาย ชาวต่างชาติหรือคนไร้สัญชาติใด ๆ ที่ประกอบอาชีพที่ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะถูกปรับและลงโทษเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 13 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มีนาคมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมแรงงานต่างด้าวและผู้ประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดมากขึ้น การปรับกฏหมายดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องมีการขึ้นทะเบียนตามระเบียบและยังเป็นฐานข้อมูลของภาครัฐในการจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_48.php

ฝรั่งเศสขยายการสนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าเกษตรกรรมยั่งยืนของลาวผ่านโครงการ Mekong Tea

รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังสนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าของเกษตรกรรมเพื่อยั่งยืนของสปป.ลาว ผ่านโครงการ Mekong Tea Project เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่มูลค่าการผลิตชาในสปป.ลาวและเพิ่มผลประโยชน์ให้กับเกษตรกรรายย่อย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและป่าไม้ดร. ลิงค์แฮม ดวงสะหวัน กล่าว่า “ชาคุณภาพปานกลางถึงสูงให้รายได้ค่อนข้างสูงแก่ชุมชนในท้องถิ่น ศักยภาพนี้ควรได้รับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์เพื่อให้ทั้งชุมชนท้องถิ่นและทรัพยากรธรรมชาติได้รับประโยชน์จากรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน” ทั้งนี้วัตถุประสงค์หลักของโครงการสามปีนี้คือการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรรายย่อยผ่านการกำกับดูแลห่วงโซ่มูลค่าชาที่ดีขึ้นและการเข้าถึงตลาดที่ดีขึ้นด้วยการส่งเสริมผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_France_47.php

เอกอัครราชทูตจีนในสปป.ลาวรายงานความสำเร็จโครงการ Belt and Road Initiative

โครงการภายใต้ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือสปป.ลาว – ​​จีนในยุคใหม่ สปป.ลาวให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการ Belt and Road Initiative มาโดยตลอด สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของสปป.ลาวในการเปลี่ยนประเทศจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นการเชื่อมโยงทางบกภายในภูมิภาค เมื่อทางรถไฟเสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ของผู้คนและจะสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยมากขึ้นสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวและกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ในอนาคตสปป.ลาวและจีนจะยังมีแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการค้าพลังงานอุตสาหกรรมแปรรูปและการเกษตร ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของสปป.ลาว ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจของสปป.ลาวขับเคลื่อนได้มั่นคงและยั่งยืนในภายภาคหน้า

ที่มา : http://www.china.org.cn/world/2021-03/07/content_77280738.htm

การส่งออกของสปป.ลาวไปยังไทยลดลงในเดือนมกราคม

มูลค่าการส่งออกสปป.ลาวไปยังไทยในเดือนมกราคมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 ซึ่งเป็นผลมาจากข้อ จำกัด ที่กำหนดไว้เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด -19 จากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์สปป.ลาว พบว่าในเดือนมกราคม 2563 ลาวมีรายได้ 135 ล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 89 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคมปีนี้ โดยมี ไฟฟ้าเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้น ๆ รองจากทองแดงและผลิตภัณฑ์ทองแดง ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า สินค้าทั่วไปและกล้องถ่ายรูป สินค้าอื่น ๆ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/03/04/lao-exports-to-thailand-decrease-in-january

สปป.ลาว-UN เสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาประเทศ

องค์การสหประชาชาติ (UN) ยืนยันว่าจะยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลสปป.ลาวภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อให้รัฐบาลสามารถออกแบบยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการพัฒนาสปป.ลาวได้ยังยั่งยืน โดยกรอบความร่วมมือสร้างขึ้นจากการนำความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญทั้งหมดมาพิจารณา รวมถึงระบบการพัฒนาของสหประชาชาติที่จะตอบสนองต่อลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ระดับชาติที่พูดถึงความต้องการและลำดับความสำคัญในการพัฒนาและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มความเป็นเจ้าของของรัฐบาลในการออกแบบกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนซึ่งตอบสนองต่อลำดับความสำคัญของประเทศและวางรากฐานสำหรับด้านการศึกษาโดยยึดรูปของประเทศที่พัฒนาแล้ว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos44.php

สปป.ลาวเปิดตัวโครงการบรรเทาทุกข์ MSME มูลค่า 40 ล้านดอลลาร์พร้อมเงินกู้ยืมจากธนาคารโลก

เมื่อเร็ว ๆ นี้กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์สปป.ลาว ประกาศกู้เงินจำนวน 40 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารโลกเพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ในการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เวียงแสม ศรีธิราช ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของธนาคารโลกประจำสปป.ลาวกล่าวว่า“ ความคิดริเริ่มนี้จะเสริมสร้างความมั่นคงของธุรกิจขนาดเล็กซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสปป.ลาวอย่างมาก”เงินเหล่านี้จะปล่อยกู้ให้กับองค์กรที่มีพนักงานน้อยกว่า 100 คนผ่านวงเงินสินเชื่อที่ขยายโดยธนาคารต่างๆรวมถึงการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับ MSME

ที่มา : https://www.microcapital.org/microcapital-brief-laos-launches-40m-msme-pandemic-relief-project-with-world-bank-loan-proceeds/

กองทุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (EDCF) ศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงพยาบาลสมัยใหม่

กองทุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (EDCF) ในสปป.ลาวจะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (MOH) เพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงพยาบาลที่ทันสมัยใน 4 แขวงภาคใต้ของสปป.ลาว วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้คือการให้บริการโรงพยาบาลศูนย์กลางระดับตติยภูมิซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงคุณภาพบริการด้านการรักษาพยาบาลและการรักษาพยาบาลถ้วนหน้าสำหรับแขวงภาคใต้ของสปป.ลาว นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นต่างๆโดยเฉพาะขอบเขตงานและแผนโดยรวมของการศึกษาความเป็นไปได้ที่นำเสนอโดยทีมที่ปรึกษา เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดด้านการลงทุนของของภาครัฐ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_EDCF_42.php

ถนนในเมืองได้รับการปรับปรุงเพื่อการจราจรและขนส่งที่ดีขึ้น

ถนนหลายสายทั่วเมืองหลวงได้รับการปรับปรุงหรือซ่อมแซมโดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการจราจรและทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน โดยโครงการจะมีงบประมาณลงทุน 2.4 พันล้านกีบ นอกจากนี้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งยังได้ปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 13 ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งและการขนส่งสินค้าที่สำคัญระหว่างสปป.ลาวและประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนามไทยและกัมพูชา ทั้งนี้การส่งเสริมดังกล่าวนอกจากกจะเป็นการลงทุนเพื่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจแล้วถนนที่ปรับปรุงยังเป็นส่วนช่วยสนับสนุนการค้าระหว่างชายแดนสปป.ลาวและเพื่อนบ้านอีกด้วย

ที่มา https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_City_41.php

GIZ ทำข้อตกลงกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มการบริโภคที่ยั่งยืนในสปป.ลาว

Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit (GIZ) ลงนามกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เงินสนับสนุนทางเทคนิคจำนวน 600,000 ยูโรสำหรับการบริโภคที่ยั่งยืน โครงการ“ การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืนในเอเชีย: The Next Five” (SCP) เป็นโครงการระดับภูมิภาคที่ได้รับทุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมการอนุรักษ์ธรรมชาติและคณะกรรมการความปลอดภัยนิวเคลียร์ของเยอรมนีโดยร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษของประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนรัฐบาลของสปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์และภูฏานในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการผลิตและบริการที่ยั่งยืนและการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม งบประมาณทั้งหมดสำหรับห้าประเทศคือ 5 ล้านยูโรโดยมีระยะเวลาโครงการสามปีสปป.ลาว คาดว่าโครงการนี้จะนำไปสู่การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของสปป. ลาวโดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะ (ฉบับที่ 030 / NA) ซึ่งออกเมื่อวันที่ 2 2 พฤศจิกายน 2560) ซึ่งระบุไว้ในข้อ 4 วรรค 3 ว่ารัฐบาลส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_GIZ39.php