“อุตสาหกรรมการผลิตของเวียดนาม” ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

สำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) ของเวียดนาม เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีเม็ดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้ามายังภาคอุตสาหกรรมการผลิตของเวียดนาม มูลค่า 252 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของเงินทุนจากต่างประเทศทั้งหมดที่ไหลเข้าไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตามรายงานของสำนักงาน ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนจากต่างชาติ จำนวน 34,898 โครงการ ด้วยมูลค่า 426.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาคอุตสาหกรรมได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของโลก อาทิ Samsung, LG, Canon, Honda และ Toyota สะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-process-manufacturing-attractive-to-foreign-investors/234399.vnp

“เวียดนาม-สปป.ลาว” ยอดการค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 65 พุ่ง 20.6%

สำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศสปป.ลาว เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเวียดนามและสปป.ลาวในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีมูลค่า 824 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากตัวเลขการค้าดังกล่าว มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังสปป.ลาว อยู่ที่ 309.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 6% ในขณะที่มูลค่าการนำเข้า 514.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 45.4% โดยสินค้าส่งออกหลักของเวียดนามไปยังตลาดสปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันเบนซิน (30.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผักและผลไม้ (22.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าแร่และแร่ธาตุอื่นๆ, ปุ๋ย, ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และยางพารา ตามลำดับ นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ทิศทางการส่งออกของเวียดนามไปยังสปป.ลาว ในเดือนก.ค. จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจสปป.ลาว มีเสถียรภาพชั่วคราว หลังจากรัฐบาลอนุมัติสินเชื่อซื้อน้ำมัน 200 ล้านลิตร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-laos-trade-up-206-in-first-half/234336.vnp

“เวียดนาม” ขึ้นแท่นผู้ส่งออกเส้นใยและเส้นด้ายรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก

ตามรายงานของสมาคม Vietnam Cotton and Spinning Association (VCOSA) พบว่าเวียดนามขยับอันดับผู้ส่งออกเส้นใยและเส้นด้ายรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก มีมูลค่า 2.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 แซงหน้าเกาหลีใต้ โดยสมาคมมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ การส่งออกกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เส้นใย เส้นด้ายและผ้าผืน มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 18.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.81% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสมาคมได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าตลาดจีนมีสัดส่วนราว 60% ของยอดการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ลดการนำเข้าจากประเทศจีน ทำให้เวียดนามมีโอกาสขยายส่วนแบ่งการตลาดได้

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-becomes-world-s-sixth-largest-fibre-yarn-exporter-2042957.html

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ มองภาวะเงินเฟ้อของเวียดนาม 4% ปีนี้

องค์กรการเงินระหว่างประเทศรายใหญ่ อาทิ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO), ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์สภาวะเงินเฟ้อของเวียดนามในปีนี้แตกต่างกันออกไป แต่คาดว่าตัวเลขเงินเฟ่อจะอยู่ที่ประมาณ 4% ทั้งนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชียได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกเหลือ 4.6% ในปีนี้ ลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย. สำหรับกรณีเวียดนามนั้น ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิจขยายตัว 6.5% ปีนี้และ 6.7% ในปีหน้า ในขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัว 6% และเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.9% ปีนี้ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ สานักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ 6.3% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 6.5% ในส่วนของตัวเลขเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% ปีนี้

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/foreign-financiers-believe-vietnam-likely-to-control-inflation-at-4-this-year-2042469.html

“เวียดนาม” กระทรวงคมนาคมอนุมัติก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้

กระทรวงคมนาคมเวียดนาม (MoT) ได้อนุมัติโครงการย่อยจำนวน 12 โครงการที่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ที่จะก่อสร้างทางด่วนพิเศษเหนือ-ใต้ ปี 2564-2568 โดยโครงการย่อยดังกล่าวจะครอบคลุมระยะทาง 723.7 กม. ด้วยเม็ดเงินทุนรวมทั้งสิ้นราว 147 ล้านล้านดอง (6.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา รัฐสภาอนุมัติแผนการลงทุนโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้ ในปี 2564-2568 เพื่อให้รัฐบาลเริ่มกระบวนการดำเนินงาน ในขณะที่ส่วนท้องถิ่นเร่งทำงาน โดยมุ่งจัดการเรื่องพื้นที่กว่า 70% ให้กับผู้รับเหมาช่วงก่อนวันที่ 20 พ.ย. เพื่อให้การก่อสร้างเริ่มดำเนินการได้ก่อนสิ้นปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/transport-ministry-approves-northsouth-expressway-subprojects-in-20212025/234201.vnp

การบินเวียดนามฟื้นแล้วคึกคัก ครึ่งปีแรกพุ่ง 74% ผู้โดยสาร 23 ล้านคน

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างอิงจากจากสำนักข่าวเวียดนาม ว่า สายการบินเวียดนามขนส่งผู้โดยสารภายในประเทศ ช่วง 6 เดือนแรก เกือบ 20.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบปีต่อปี และเมื่อรวมผู้โดยสารต่างประเทศ ตัวเลขพุ่งเป็น 23.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 74.2% ตัวเลขดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากสำนักสำนักการบินพลเรือนของเวียดนาม ซึ่งยังระบุถึงการขนส่งสินค้าทางอากาศเวียดนาม ช่วง 6 เดือนแรก ว่ามีราว 651,000 ตัน เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ดิ่นห์ เวียต ซอน รองผู้อำนวยการสำนักการบินพลเรือน ระบุว่าตลาดการบินภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวในเดือนเมษายน และเติบโตอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม จากนั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิถุนายน

ที่มา : https://www.prachachat.net/world-news/news-986722

“ตลาดฟินเทคเวียดนาม” มูลค่าสูงถึง 18 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567

ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์จากบริษัทการเงิน Robocash Group เปิดเผยว่าตลาดฟินเทค (FinTech) ของเวียดนาม จะมีมูลค่าสูงถึง 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2567 โดยเวียดนามเป็นหนึ่งในผู้นำอาเซียนที่เป็นแหล่งจัดหาเงินทุนแก่ธุรกิจฟินเทค รองจากสิงคโปร์ ทั้งนี้ กิจการส่วนใหญ่ราว 93% ดำเนินธุรกิจเงินร่วมลงทุน มุ่งเชื่อมโยงในการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์และกระเป๋าเงินออนไลน์

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ทางการตลาดถือว่ามีการแข่งขันกันสูง ปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 152.8% นับตั้งแต่ปี 2559 และมีผู้ใช้ฟิคเทคหน้าใหม่กว่า 29.5 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ ทุกๆวินาที ชาวเวียดนามจะใช้บริการฟินเทคอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ความต้องการบริการดิจิทัลของคนเวียดนามมีความหลากหลาย อาทิ การทำธุรกรรม การชำระเงินและกระเป๋าเงิน) นับว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1270404/viet-nam-fintech-market-expected-to-reach-18-billion-by-2024.html

“ADB” คงประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม

รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียประจำปี 2565 (Asian Development Outlook 2022 : ADO 2022) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่าคงประมาณการการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามของปี 2565 อยู่ที่ 6.5% และในปีหน้า 6.7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการค้าอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวของภาคการผลิต การเดินทางในประเทศและการลงทุนของภาครัฐ ในขณะเดียวกัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม อุปทานอาหารในประเทศยังคงเพียงพอและจะช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในปีนี้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/adb-maintains-growth-forecast-for-vietnam/234137.vnp

สปป.ลาว – เวียดนาม มุ่งร่วมมือส่งเสริมการค้าและการลงทุน

สปป.ลาวและเวียดนามเร่งผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ได้มีการจัดพิธีครบรอบ 60 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตและครบรอบ 45 ปี การลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสปป.ลาวและเวียดนาม ในพิธีการดังกล่าว ผู้นำระดับสูงของประเทศต่างๆ ได้แสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ฉันมิตรที่มีมาอย่างยาวนาน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือในทุกด้านของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ เหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม กล่าวถึงความจำเป็นของทั้งสองประเทศที่จะส่งเสริมศักยภาพและทรัพยากรในประเทศ เพื่อยกระดับความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน ตลอดจนเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีการวางแผนที่จะสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างเวียงจันทน์กับท่าเรือ และทางด่วนเพื่อเชื่อมโยงเมืองหลวงของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Laos139.php

“เวียดนาม” ชี้ปัจจัยเอื้อต่อภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น

นายเหวียน บามิง (Nguyen Ba Minh) ผู้อำนวยการสถาบันการเงินและเศรษฐกิจ มองว่าตัวเลขเงินเฟ้อในระยะสั้นจะออกมาค่อนข้างดี แต่ว่าด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียยังมีความไม่แน่นอน รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าและผลักดันให้ราคาวัสดุเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์น่าจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรมีแนวโน้มจะออกผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ในขณะเดียวกัน ผลผลิตสินค้าเกษตรเป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่งของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลต่อเสียรภาพด้านราคา นอกจากนี้ นาย Nguyen Manh Hung รองประธานสมาคมมาตรฐานผลิตภัณฑ์และคุ้มครองผู้บริโภค มีความกังวลว่าดัชนี CPI ที่ขยายตัว 2.44% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นั้นดีเกินจริง เนื่องจากความแตกต่างระหว่างการเติบโตของราคาจริงกับตัวเลขที่รายงานที่ 2.44% และพบว่าราคาอาหารสูงขึ้นในหลายพื้นที่ แต่รายงานกลับแสดงผลตรงกันข้าม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1269936/inflation-in-check-due-to-favourable-factors.html