ททท. อัดแคมเปญ Always Warm รับไฮซีซั่น ดึงนักท่องเที่ยว 20 ล้านคน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเป็นตัว V หรือ V-shape โดยตัวเลขล่าสุดพบว่าตั้งแต่ 1 มกราคม-30 กันยายน 2565 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 6 ล้านคน โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากวันละประมาณ 45,000-46,000 คน เป็น 59,005 คน ในวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยการฟื้นตัวดังกล่าวทำให้มั่นใจได้ว่าสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวของไทยกำลังฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคนต่อเดือน และทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมปีนี้เป็นไปตามเป้า 10 ล้านคน มีรายได้จากตลาดต่างประเทศประมาณ 5 แสนล้านบาท ด้านนายยุทธศักดิ์กล่าวว่า และเพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ ททท. มีแผนที่ออกแคมเปญใหญ่ “Always Warm” ต้อนรับการกลับมาเดินทางอีกครั้งของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งทำการส่งเสริมการตลาดร่วมกับสายการบินต่าง ๆ ให้กลับมาให้บริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาปริมาณที่นั่งของสายการบินที่ยังมีน้อย ทำให้ราคาตั๋วโดยสารค่อนข้างแพง โดยปี 2566 คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยแตะ 20 ล้านคน

ที่มา : https://www.prachachat.net/tourism/news-1071130

จ.มุกดาหาร เปิดประชุมเชื่อมโยงการค้าระหว่างผู้ประกอบการค้าเวียดนาม-มุกดาหาร

ที่ โรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร นายวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานเปิดงานในนามผู้แทนจังหวัดมุกดาหารและคณะ เดินทางมาจัดการประชุมเชื่อมโยงการค้าการลงทุน ระหว่างผู้ประกอบการของจังหวัดกวางบินห์ กวางตรี เงอาน และเว้ (สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) และผู้ประกอบการจังหวัดมุกดาหาร (ราชอาณาจักรไทย)

ทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหาร เป็นเมืองชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง ด้านตะวันออกติดกับแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 2 ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 เชื่อมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-WestEconomic Corridor : EWEC) ระหว่างไทยกับสปป.ลาว เข้าด้วยกัน ตามเส้นทาง หมายเลข 9 จังหวัดมุกดาหารจึงสามารถเชื่อมโยง“Corridor Link” ทางบกกับแขวงสะหวันนะเขต ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและยังเชื่อมโยงไปสู่ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้

นอกจากนี้ จังหวัดมุกดาหารยังเป็น เป็น 1 ใน 5 จังหวัด ซึ่งอยู่ในแผนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่กำหนดให้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองชายแดน มุ่งเน้นพัฒนาการลงทุนร่วมระหว่างประเทศ ในลักษณะเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนให้เป็นฐานเศรษฐกิจและประตูการค้าที่สำคัญเพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุน อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว อีกด้วย มุกดาหารจึงมีศักยภาพและโอกาสขยายความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุนกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมามีมูลค่าการค้าผ่านแดนไทย – เวียดนามผ่านช่องทางจังหวัดมุกดาหาร สินค้าได้แก่ โค กระบือ สินค้าอุปโภคบริโภค เนื้อสัตว์แช่เย็น ข้าวเหนียว เป็นต้น มูลค่าการค้ารวม 47,931.70 ล้านบาท

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG221004102051698

“เวียดนาม” อาจไม่ทะลุเป้ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคนในปี 65

นาย Nguyễn Trùng Khánh ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าในเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศเวียดนาม จำนวน 954,600 คน เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังหดตัว 90.3% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของแผนทั้งปี และได้ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเวียดนามประมาณ 5 ล้านคน ทั้งนี้ นาย Hoang Nhan Chinh หัวหน้าของคณะกรรมการที่ปรึกษาการท่องเที่ยว (TAB) กล่าวกับสำนักข่าว Vietnamnet ว่าในเดือนพ.ค. เวียดนามจำเป็นต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวกว่า 650,000 คนต่อเดือนในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของจำนวนนักท่องเที่ยวประจำปี อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-may-not-reach-goal-of-5-million-int-l-visitors-in-2022-2066185.html

“เวียดนาม” รั้งตำแหน่งเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของอาเซียน ปี 2570

ตามรายงานล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามจะขยายตัวอย่างมากในช่วง 5 ปีข้างหน้า และขึ้นเป็นอันดับ 3 ในอาเซียนภายในปี 2570 โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาตัวเลขของขนาดเศรษฐกิจอินโดนีเซีย มีมูลค่าสูงถึง 1.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาประเทศไทย 522.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ขณะที่ประเทศอื่นๆ อาทิเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และเวียดนาม มีมูลค่าของ GDP อยู่ที่ 439.37, 424.43, 411.98 และ 408.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2568-2570 จีดีพีของเวียดนามจะขึ้นเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน +6

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnamese-gdp-set-to-rank-third-in-asean-by-2027-2066437.html

ไทยอนุญาตให้ชาวเมียนมา พำนักได้นานถึง 45 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า

รัฐบาลไทยขยายระยะเวลาปลอดวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเป็น 45 วัน จาก 30 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม  2565 เป็นต้นไป ซึ่งชาวเมียนมาก็อยู่ในรายชื่อด้วยเช่นกัน ปัจจุบันรัฐบาลไทยอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าสูงสุด 30 วัน ขณะที่ชาวเมียนมาพำนักอยู่ได้เพียง 14 วัน ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565  โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา แต่สถานเอกอัครราชทูตไทยในเมียนมายังไม่ได้มีประกาศใดๆ ออกมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/thailand-grants-myanmar-citizens-45-day-visa-free-stay/#article-title

“แบรนด์กาแฟสปป.ลาว” คว้าแชมป์เวทีระดับเอเชีย

เมาน์เทนคอฟฟี่ (Lao Mountain Coffe) แบรนด์กาแฟคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากประเทศสปป.ลาว คว้ารางวัลที่ 1 จากเวทีการแข่งขันระดับเอเชีย ซึ่งจากการแข่งขัน “World Coffee Challenge” จัดขึ้นที่เมืองโอว์แรนเซ (Ourense) ประเทศสเปน ตั้งแต่วันที่ 29-30 กันยายน ผู้มีเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 34 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป. ลาว ระบุว่ากาแฟเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลาว และจำหน่ายไปแล้วกว่า 26 ประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ ปัจจุบันรัฐบาลเร่งส่งเสริมการผลิตกาแฟในพื้นที่ 11 จังหวัด เพื่อตอบสนองความต้องการที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ สัดส่วนของตลาดส่งออกกาแฟสปป.ลาวในปีที่แล้ว พบว่าส่วนใหญ่ส่งออกกาแฟ (เมล็ดกาแฟดิบ) 56% ไปยังตลาดเวียดนาม รองลงมา 13% ญี่ปุ่น, (ไทย 12%), (กัมพูชา 3%), (เยอรมนี 2%), (จีน 1.5%), (สหรัฐฯ 0.9%) และ 11% ไปยังประเทศอื่นๆ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten193_Laocoffee.php

อุทยานโบราณคดีอังกอร์ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วง ม.ค.-ก.ย.

อุทยานโบราณคดีอังกอร์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกัมพูชา ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 140,000 คน ในช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 2,075% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามรายงานของ Angkor Enterprise สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 5.36 ล้านดอลลาร์ จากการขายตั๋ว โดยปัจจุบันได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณวันละ 800-1,000 คน ซึ่งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาแตะในระดับก่อนช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า โดยก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2019 อุทยานโบราณคดีอังกอร์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากถึง 2.2 ล้านคน สร้างรายได้รวม 99 ล้านดอลลาร์จากการขายตั๋ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501161993/angkor-archaeological-park-attracts-0-14m-foreign-tourists-in-jan-sept/

CDC อนุมัติโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดแกบ มูลค่า 17 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมูลค่า 17 ล้านดอลลาร์ ในพื้นที่จังหวัดแกบ พัฒนาโดย บริษัท Try Pheap Koh Tonsay Resorts Co., Ltd. ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น 105 คน โดยปัจจุบันบริษัทยังได้พัฒนาโครงการรีสอร์ทนอกเขตพื้นที่ชายฝั่งของจังหวัดแกบ มูลค่าการลงทุนรวม 130 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยในการสนับสนุนแผนแม่บทของรัฐบาลในการพัฒนาจังหวัดแกบให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของประเทศต่อไปในอนาคต โดยเน้นไปที่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศระดับไฮเอนด์ ซึ่งในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา CDC ได้อนุมัติโครงการการลงทุนที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดแกบให้กับ บริษัท Samanea Co., Ltd. มูลค่าการลงทุน 18.5 ล้านดอลลาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและคนในท่องถิ่น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501162001/17m-tourism-project-in-kep-province-approved/

ปี 2565 นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสปป.ลาว กว่า 300,000 คน

ระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเกี่ยวกับแนวทางในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่จัดขึ้นในเวียงจันทน์เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เปิดเผย ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยงที่เดินทางเข้า สปป.ลาว กว่า 300,000 ตน ในเวลาเดียวกัน นักท่องเที่ยวลาวกว่า 1,000 คนเดินไปต่างประเทศผ่านบริษัททัวร์ในเวียงจันทน์ ซึ่งจากข้อมูลการท่องเที่ยวระหว่างสปป.ลาวและไทย ยังพบอีกว่าสปป.ลาวยังเป็นประเทศที่เดินทางไปท่องเที่ยวไทยเป็นอันดับ 5 และจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคมของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจากสปป.ลาว 157,000 คน เดินทางเข้ามาในไทย ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มักนิยมไปเที่ยวชมเมืองมรดกของยูเนสโกในหลวงพระบาง รวมถึงการพักระยะสั้นในวังเวียงและเวียงจันทน์ของสปป.ลาว

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/10/03/over-300000-tourists-visit-laos-capital-in-2022/

2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมียนมานำเข้าปุ๋ยไปแล้วกว่า 10,000 ตัน มูลค่า 6.491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ

สัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือนกันยายน 2565 เมียนมาร์นำเข้าปุ๋ยกว่า 10,000 ตัน มูลค่า 6.491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านทางทะเล โดยนำเข้าปุ๋ยจากจีนประมาณ 6,000 ตัน จากเวียดนาม 2,100 ตัน จากไทย 1,000 ตัน และจากประเทศอื่น ๆ อีก 900 ตัน อย่างไรก็ตาม การนำเข้าปุ๋ยลดลงจาก 13,000 ตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยราคาปุ๋ยภายในประเทศ ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน จะเคลื่อนไหวระหว่าง 80,000-163,000 จัตต่อกระสอบ (50 กิโลกรัม) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ส่วนสัปดาห์ที่ 3 ราคาจะอยู่ที่ 78,000 ถึง 168,000 จัตต่อกระสอบ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-imports-over-10000-tonnes-of-fertilizer-worth-us6-491-mln-by-sea-in-past-two-weeks/#article-title