‘โลจิสติกส์เวียดนาม’ คุมเข้มมาตรฐานสากล

สมาคมโลจิสติกส์ธุรกิจเวียดนาม (VLA) รายงานว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของเวียดนามได้รับแรงกดดันเกี่ยวกับการฝึกอบรมและยกระดับความรู้ของพนักงาน ตลอดจนการติดตามมาตรฐานระดับสากล ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลครั้งล่าสุดของสมาคมฯ พบว่ากิจการส่วนใหญ่ต้องการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการบริหารงานคุณภาพที่ทันสมัย อาทิ ISO 9001, ISO 14001, ISO 17025, HACCP และ ISO 22000 เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่เวียดนามต้องจัดตั้งระบบการจัดการคุณภาพให้ดีขึ้น และให้ครอบคลุมกับกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ วิธีการขนส่งและการบริโภคพลังงาน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-logistics-must-keep-up-with-international-standards/227570.vnp

ผู้เชี่ยวชาญชี้ ควบคุมเงินเฟ้อของเวียดนามให้อยู่ในระดับ 4% เป็นไปได้ยาก

รศ. ดร.ตรัง แถ่ง มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติ (NEU) เปิดเผยว่าเวียดนามมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6.5% ในปี 2565 แต่การรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 4% เป็นไปได้ยาก โดยการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นแรงกดดันเงินเฟ้อของประเทศในปีนี้ ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 45% จะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.6% และดัชนีราคาราคาผู้ผลิต (PPI) 2%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/under4percent-inflation-rate-tough-to-complete-experts/227568.vnp

งบประมาณย่อย 64-65 ส่งออกข้าวผ่านชายแดนเมียนมาซบเซาหนัก

สหพันธ์ข้าวเมียนมา เผย ยอดการส่งออกข้าวและข้าวหักผ่านชายแดนลดลงอย่างมาก โดยในปีงบประมาณย่อย(เดือนต.ค. 2564 ถึงเดือน มี.ค. 2565) เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักมากกว่า 1.4 ล้านตัน เป็นการส่งออกทางทะเลมีปริมาณกว่า 1.3 ล้านตัน ในขณะที่การส่งออกผ่านชายแดนมีเพียง 76,000 ตัน เนื่องจากมาตรการป้องกัน COVID-19 ที่เข้มงวดของจีน ที่จำกัดรถบรรทุกสินค้าบริเวณชายแดนมูเซ ซึ่งขณะนี้มีเพียงขนส่งระยะใกล้ผ่านชายแดนจินซันเฉาะ (Kyinsankyawt) เท่านั้น ทำให้ให้มีการส่งออกผ่านชายแดนเพียง 76,000 ตันเท่านั้น เมียนมาส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ 13 ประเทศ ส่วนใหญ่ไปจะส่งไปยังไอวอรี่โคสต์ด้วยปริมาณมากกว่า 400,000 ตัน รองลงมาคือจีน 220,000 ตัน และฟิลิปปินส์มากกว่า 130,000 ตัน ในทำนองเดียวกัน ข้าวหักถูกส่งออกไปยัง 10 ประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นจีน 210,000 ตัน ตามด้วยเนเธอร์แลนด์ 160,000 ตัน และเบลเยียม 79,000 ตัน ปัจจุบันในปีงบประมาณ 2563-2564 มีการส่งออกข้าวไปตลาดต่างประเทศกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-exports-through-border-show-big-slump-in-past-mini-budget-period/#article-title

Tariff MOU ลงนามสำเร็จสำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากเบ็ง

China Datang Overseas Investment Co., Ltd. (China Datang) และ Gulf Energy Development Public Company Limited (GULF) ลงนามบันทึกความเข้าใจด้านอัตราภาษีศุลกากรสำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำปากแบงในสปป.ลาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บันทึกความเข้าใจเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาตลาดการขายไฟฟ้า และได้วางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสปป.ลาว ปัจจุบันโครงการ HPP ปากเบ็ง ตั้งอยู่บนแม่น้ำสายหลักของแม่น้ำโขง ในไซยะบุรีและอุดมไซของสปป.ลาว เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของระเบียงเศรษฐกิจจีน-ลาว ทั้งนี้ทั้ง 2 บริษัท มุ่งมั่นที่จะสร้างโครงการให้เป็น โครงการต้นแบบและโครงการสำคัญที่จะผลักดันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการก่อสร้างพลังงานไฟฟ้าควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อนำพาสปป.ลาวสู่ “แบตเตอรี่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าของสปป.ลาวและก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่นสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten79_TariffMOU.php

ADB สนับสนุนทางด้านสุขภาพ พลังงานสะอาด และถนนหนทางในกัมพูชา

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มอบเงิน 25 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพของกัมพูชา โดยเฉพาะห้องปฏิบัติการและระบบควบคุมการป้องกันการติดเชื้อจากโควิด-19 ทั่วประเทศจำนวน 81 แห่ง ซึ่งในปีที่แล้ว ADB ได้สนับสนุนภาคเอกชนในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดในกัมพูชา โดยได้ให้เงินกู้นอกภาครัฐจำนวน 4.7 ล้านดอลลาร์แก่ Prime Road Alternative Company Ltd. เพื่อพัฒนาและดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 60 เมกะวัตต์ ในจังหวัดกำปงชนัง โครงการนี้คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เกือบ 111,000 ตันต่อปี อีกทั้ง ADB ยังได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือจำนวน 82.1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกัมพูชา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างถนนภายในประเทศเชื่อมกันระหว่างจังหวัด เหยื่อแวง-กันดาล ระยะทางประมาณ 48 กม.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063773/adb-focuses-on-health-clean-energy-roads-in-cambodia/

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 ในปี 2021

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในกัมพูชาเติบโตร้อยละ 11.2 ในปี 2021 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ซึ่งการลงทุนจากจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ถือเป็นส่วนที่สำคัญ โดยเฉพาะในภาคการเงิน การผลิต อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและร้านอาหาร เกษตรกรรม และการก่อสร้าง ซึ่งกัมพูชาได้รับการลงทุนจากต่างประเทศรวม 41 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว โดยจีนเป็นแหล่งลงทุนที่ใหญ่ที่สุดคิดเป็นมูลค่า 18 พันล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 43.9 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ในขณะที่เกาหลีใต้อันดับรองลงมามีมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยเวียดนามและสิงคโปร์ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ และ 2.7 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063578/cambodia-fdi-surges-11-2-percent-in-2021/

การปรับปรุง EDL ถือเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินงานของ Electricite du Laos (EDL) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจของรัฐวิสาหกิจ EDL ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่สำคัญ มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ การปฏิรูปองค์กรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้องค์กรสามารถปฏิบัติหน้าที่และตอบสนองต่อความต้องการของคนในท้องถิ่นได้ การมีส่วนร่วมของคณะกรรมการปฏิรูปจะช่วยเสริมสร้างการดำเนินงานของ EDL และมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การปฏิรูป EDL เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเห็นรัฐวิสาหกิจจำนวนมากดำเนินการได้ไม่ดี ขาดทุนมหาศาล และก่อให้เกิดหนี้สาธารณะจำนวนมาก สมาชิกรัฐสภาได้ผลักดันให้มีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในลาวต่อไป หลังจากได้เรียนรู้ว่ารัฐวิสาหกิจในจีนและเวียดนามได้กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับประเทศของตน ในขณะที่ลาวยังคงขาดทุนต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten78_Revamp.php

มะม่วงเซ่งตะโลงขาดแคลนหนัก หนุนราคาพุ่ง!

นาย U Kyaw Soe Naing เลขาธิการสมาคมพัฒนาตลาดมะม่วงและเทคโนโลยีเมียนมา (เมืองมัณฑะเลย์) เผย ราคามะม่วงมะม่วงเซ่งตะโลง (Seintalone) จำหน่ายอยู่ที่ 33,000-35,000 จัตต่อ 1 ตะกร้า (16 กิโลกรัม จำนวน 50-60 ผล) ส่วนมะม่วงมีคุณภาพต่ำราคาจะอยู่ที่ 300,000-500,000 จัตต่อตันเท่านั้น เพราะเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565 ที่ผ่านมาเกิดลมแรงในพื้นที่ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อสวนมะม่วงในมัณฑะเลย์ อีกทั้งปีนี้มีแนวโน้มผลผลิตลดลง 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเนื่องจากลมแรงและแมลงศัตรูพืช และชายแดนจีนยังคงปิดตัวอยู่ ดังนั้นจึงพึ่งพาตลาดภายในประเทศเท่านั้น อีทั้งรี้ราคาถุงห่อผลมะม่วงในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นจาก 27 จัตเป็น 47 จัตต่อถุง ทำให้จ้าของสวนบางรายไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนนี้ได้

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/26-april-2022/#article-title

คาดมูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-เวียดนาม แตะหมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022

กระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาและกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการค้า โดยให้คำมั่นที่จะผลักดันปริมาณการค้าทวิภาคีให้มีมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการหาวิธีแก้ไข Extended Cumulation Rule สำหรับการผลิตจักรยานที่กัมพูชาส่งออกไปยังสหภาพยุโรป หลังจากที่ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปได้มีผลบังคับใช้ไปเมื่อในปี 2020 ในขณะที่ประเด็นการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์และน้ำตาลจากกัมพูชาไปยังเวียดนาม ซึ่งมีอุปสรรคทางเทคนิคบางประการ ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเต็มความสามารถ โดยในปี 2021 ปริมาณการค้าร่วมระหว่างกัมพูชากับเวียดนามแตะระดับเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าแตะ 1.7 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นกัมพูชาส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามมูลค่า 758 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ขณะที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากเวียดนามมูลค่า 963 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063033/cambodia-vietnam-eye-10-billion-bilateral-trade-in-2022/

RCEP โอกาสการค้า กัมพูชา-จีน และกลุ่มประเทศสมาชิก

หลังความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อต้นปี 2022 ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชาและประเทศสมาชิกอื่นๆ ให้เกิดการเร่งการบูรณาการทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ซึ่ง RCEP ถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน โดยจีนถือเป็นส่วนสำคัญในข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งปัจจุบันการค้าระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอีก 14 ประเทศขยายตัวถึงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นมูลค่า 442.75 พันล้านดอลลาร์ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 คิดเป็นร้อยละ 30.4 เมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าทั้งหมดของปีก่อน ข้อมูลจากกระทรวงศุลกากรจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501063032/rosy-prospects-ahead-for-economic-ties-between-china-other-rcep-members/