เวียงจันทน์เข้าสู่การปิดกั้นหลังจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวประกาศปิดนครหลวงเวียงจันทน์เป็นเวลา 14 วันเนื่องจากหลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 20 รายในวันนี้ (20 เมษายน 64) คาดการณ์ว่ามีจุดเริ่มต้นในช่วงวันหยุดปีใหม่ของสปป.ลาวขณะ โดยรายละเอียดในประกาศเป็นมาตรการที่เข้มงวดสูงสุดเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อาทิ การให้พนักงานรัฐทำงานที่บ้าน ห้ามเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังจังหวัดอื่นและจากจังหวัดอื่นเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ยกเว้นผู้ที่อาศัยอยู่ถาวร ห้ามพ่อค้าและเจ้าของร้านค้ากักตุนสินค้า การชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมและศาสนาต้องมีคนไม่เกิน 20 คน จุดตรวจและจุดผ่านแดนระหว่างประเทศและแบบดั้งเดิมทั้งหมดจะยังคงปิดอย่างเข้มงวดในอีก 14 วัน มาตรการดังกล่าวทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องชะงักอีกครั้ง ภายหลังจากคลี่คลายจาการระบาดระบาดแรก

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/04/21/vientiane-enters-lockdown-following-covid-19-outbreak/

ภาคธุรกิจในกัมพูชาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชากล่าวถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายในประเทศและต่างประเทศ มีจำนวนกว่า 7,997 รายการ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อให้เป็นเครื่องหมายการค้าประจำชาติและเสริมสร้างเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงยังวางแผนที่จะจดทะเบียนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นเครื่องหมายการค้าของประเทศ เช่น Nom Banh Chok (ก๋วยเตี๋ยวเขมรแบบดั้งเดิม) ในจังหวัดเสียมราฐ เครื่องปั้นดินเผาในจังหวัดกำปงจนัง เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50842368/trademarks-registered-up-30-percent-more-unique-products-promoted/

การส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี

การส่งออกของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 สู่มูลค่าประมาณ 99 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 อยู่ในปัจจุบัน โดยข้อมูลจากสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลีใต้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มว่ากัมพูชานำเข้าสินค้าจากเกาหลีลดลงเล็กน้อยคิดเป็นมูลค่า 146 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงเพียงร้อยละ 0.6 ซึ่งสินค้าสำคัญของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเดินทาง เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาง ผลิตภัณฑ์ยา และสินค้าการเกษตร ในขณะที่สินค้านำเข้าหลักเกาหลี ได้แก่ ยานพาหนะ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในครัว เครื่องดื่ม ยา และผลิตภัณฑ์พลาสติก โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 884 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งคาดว่าปริมาณการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีมีผลบังคับใช้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50842371/cambodias-exports-to-south-korea-up-5-percent-in-first-quarter/

จุรินทร์ ฟิตจัด ดันส่งออกต่อเนื่อง เปิดไทม์ไลน์แผนจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ปี 64

จุรินทร์ ฟิตจัด ดันส่งออกต่อเนื่อง เปิดไทม์ไลน์แผนจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ปี 64 ตั้งเป้าทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท พร้อมจัดอบรมทีมเซลล์แมนจังหวัดให้เป็นแม่ไก่ไปอบรม SME ในทุกพื้นที่เพื่อเพิ่มยอดส่งออก โดยเมื่อ วันที่ 21 เมษายน 2564 ที่สถาบันพัฒนา ผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานมอบนโยบายให้กับทีม Salesman จังหวัดในรูปแบบ ออนไลน์ผ่านระบบ Webinar ภายใต้โครงการฝึกอบรมเชิง ปฏิบัติการ Salesman จังหวัด Go-inter โดยในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา การส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และมีความเห็นตรงกันว่าการส่งออกของไทยน่าจะพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังทะยานขึ้น ตัวเลขการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่ประเผชิญกับวิกฤตโควิด สงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตัวเลขการส่งออกที่ต่ำสุดช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ติดลบร้อยละ 22 โดยในเดือนธันวาคม 63 กลับมาบวกถึงร้อยละ 4.7 ซึ่งในปีนี้การส่งออกยังมีสัญญาณที่ดี ทะยานขึ้นเป็นลำดับ สำหรับสินค้าสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกประกอบด้วย สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน และภาคอุตสาหกรรม อื่นๆ ตลาดสำคัญที่มีศักยภาพ รองรับสินค้าของไทย เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นอาเซียน CLMV และตลาดในทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวได้ดี แม้การท่องเที่ยวจะติดปัญหา

ที่มา : https://www.naewna.com/business/567431

ประธานาธิบดีเรียกร้องให้นานาประเทศเสริมสร้างเอกภาพเพื่อรับมือกับความท้าทาย

ประธานาธิบดีสปป.ลาว Thongloun Sisoulith ได้เรียกร้องให้ประเทศที่เป็นมิตรในภูมิภาคและทั่วโลกเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการเสริมสร้างธรรมาภิบาลระดับโลกและสร้างอนาคตที่ดีในทางเศรษฐกิจเละสังคมให้กับโลกในงานประชุม Boao Forum for Asia Annual Conference 2021 การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่น รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้นำในภูมิภาคเอเชียหารือเกี่ยวกับแผนการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด -19และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว งานประชุมนี้มีความสำคัญต่อสปป.ลาวอย่างยิ่งจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำระดับภูมิภาค นักวิจัยและผู้กำหนดนโยบายอื่น ๆ เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคและเพิ่มความร่วมมือในประเด็นต่างๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการก้าวผ่านวิกฤตของโลกในปีนี้และอนาคตที่ยังไม่แน่นอนเกี่ยวกรระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_President_75.php

ครึ่งปีแรกการค้าทางทะเลเมียนมา ลดฮวบ 4.3 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการค้าทางทะเลของเมียนมาในช่วงครึ่งปีแรก (1 ต.ค. -2 เม.ย. ) ของปีงบประมาณ 63-64 เหลือ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลงอย่างมากถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันมูลค่าการค้าชายแดนอยู่ที่ 5.6 พันล้านดอลลาร์ลดลง 264 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลจากการระบาดของ COVID-19 ที่ประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันตลอดชายแดน สำหรับการค้าทางทะเลหยุดชะงักในภาคโลจิสติกส์การหยุดเดินเรือบางส่วนและการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์รวมถึงการขาดเงินหมุนเวียนเนื่องจากการปิดธนาคารเอกชน โดยการค้าภายโดยรวมของประเทศแตะระดับต่ำที่ 15.78 พันล้านดอลลาร์งลดลง 20.36 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการค้าทางทะเลสร้างรายได้ 26,000 ล้านดอลลาร์จากมูลค่าการค้าโดยรวมที่ 36,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีงบประมาณ 62-63 เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าประมง แร่ธาตุ ปศุสัตว์ สินค้าจากป่า สินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็นำเข้าได้แก่สินค้าทุน สินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/maritime-trade-drops-by-4-3-bln-in-h1/

‘กัมพูชา’ รั้งอันดับ 2 ของโลก ขึ้นเป็นประเทศที่คืบหน้าใช้เงินดิจิทัลแบบ CBDC กับประชาชนรายย่อยในภาคธุรกิจมากที่สุด

สำนักข่าว Bloomberg รายงานอ้างอิงผลการศึกษาของ PwC ที่จัดอันดับการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลกลางแบบ Retail หรือแบบที่ใช้กับประชาชนทั่วไปในแต่ละประเทศ พบว่าอันดับหนึ่งคือ บาฮามาส อันดับสองคือกัมพูชา ขณะที่จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของการศึกษาทดสอบ CBDC หรือ Central Bank Digital Currency อย่างต่อเนื่อง กลับอยู่ในลำดับที่ 3 ท่ามกลางธนาคารกลางทั่วโลกมากกว่า 60 แห่งที่เดินหน้าศึกษาสกุลเงินดิจิทัล สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ CBDC รูปแบบ Retail ของบาฮามาสและกัมพูชาแซงหน้าจีน เนื่องจากโครงการดังกล่าวของสองประเทศนี้ได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ของจีนกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน โดยมีเพียง 23% ของโครงการ Retail เท่านั้นที่มาถึงระดับการประยุกต์ใช้งาน ขณะที่เกือบ 70% ของโครงการ Wholesale กำลังอยู่ในช่วงนำร่อง

ที่มา : https://thestandard.co/cambodia-using-cbdc-currency/

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ คาด GDP เวียดนามโต 6.3% ปี 64

สถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์และนโยบายเวียดนาม (VEPR) เผยตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 6-6.3% ในปีนี้ โดยเป้าหมายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสามารถบรรลุได้ เนื่องจากเวียดนามรับมือกับการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มผ่อนคลายในหลายๆ ประเทศ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 4.48% สาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจอยู่ในระดับเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน แนวโน้มทางเศรษฐกิจดีขึ้น จากข้อตกลงการค้าเสรีและความตกลงคุ้มครองการลงทุน ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีมุมมองเชิงบวก แต่เวียดนามยังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง อาทิ สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน การกลับมาระบาดของเชื้อไวรัส รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/economic-institute-forecasts-63-gdp-for-vietnam-in-2021-851682.vov

วงในเผยเม็ดเงิน FDI ในเวียดนาม ‘ยังไม่ยั่งยืน’

ในไตรมาสที่ 1 เวียดนามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มูลค่า 10.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี คุณ Nguyen Van Toan รองประธานสมาคมธุรกิจต่างชาติในเวียดนาม กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Cong Thuong ระบุว่าการลงทุนจากต่างประเทศจะไม่ยั่งยืน เนื่องจากเม็ดเงินกระจุกตัวอยู่ในเดือนมีนาคม ด้วยทุนจดทะเบียนราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะโรงงานพลังงานก๊าซธรรมชาติเหลวที่มีมูลค่า 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สิงคโปร์เข้ามาลงทุนดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ได้ใบรับรองจากการจดทะเบียนการลงทุนในวันที่ 19 มีนาคม ทำให้เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไหลเข้ามากขึ้นในเดือนมีนาคม จนถึงไตรมาสที่ 1 อีกด้วย นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน การลงทุนส่วนใหญ่มาจากพันธมิตรดั้งเดิม ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและจีน ในขณะที่สหรัฐฯ ยุโรป ยังคงอยู่ในระดับปานกลาง ด้วยเหตุนี้ เม็ดเงิน FDI จึงไม่ค่อยไหลเข้ามายังเวียดนามมากเท่าไรนักในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/fdi-attraction-not-yet-sustainable-insider-851567.vov

กัมพูชาคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่าร้อยละ 70 ในปีนี้

กัมพูชาคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะเดินทางมายังกัมพูชาในปี 2021 จะลดลงอีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบอย่างต่อเนื่องของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาระบุในรายงานประจำปี 2021 เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาจะชะลอตัวลงจากผลกระทบของโควิด-19 ที่กินระยะเวลามาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาคาดว่าจะหดตัวอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ครั้งก่อนประมาณร้อยละ 60 สู่การหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 70 หลังจากมีการปรับปรุงข้อมูล ซึ่งแถลงการณ์ระบุว่าประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมเหลือเพียง 1.31 ล้านคน ในปี 2020 ลดลงกว่าร้อยละ 80 จากจำนวน 6.61 ล้านคน ในปี 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50841600/cambodia-predicts-70-percent-drop-in-global-tourist-arrivals/